NNT

รมต.กลาโหมสหรัฐย้ำไทยสำคัญ พร้อมช่วยไทยปรับปรุงกองทัพ เพิ่มความร่วมมือระหว่างกัน

  

14 มิ.ย. 2565 l 09:57

รัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐ นายลอยด์ ออสติน เดินทางเยือนประเทศไทยระหว่างวันที่ 12-14 มิถุนายน 2565 หลังจากเข้าร่วมการประชุมแชงกรีลาในสิงคโปร์ โดยเข้าพบนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อหารือความร่วมมือระหว่างกัน รวมถึงยังพบเจ้าหน้าที่ของคณะที่ปรึกษาทางทหารของสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยหรือ JUSMAGTHAI อีกด้วย

“เรามาที่ประเทศไทยเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์กับพันธมิตรอันยาวนานของเรา เรามีโอกาสได้พูดคุยเกี่ยวกับการปรับปรุงกองทัพไทยให้ทันสมัย และเรากำลังทำงานเพื่อขยายขีดความสามารถให้กองทัพไทยปกป้องผลประโยชน์ของตน เรายังพูดคุยเกี่ยวกับความร่วมมือใหม่ ๆ ในมิติใหม่ ๆ เช่นอวกาศและไซเบอร์ ในขณะเดียวกัน เรายังภูมิใจที่จะขยายโครงการการศึกษากับไทย และเราจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ซึ่งรวมถึงการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกองทัพต่อกองทัพและการฝึกกับประเทศไทยในแต่ละปี”

นายลอยด์ ออสตินยังอ้างอิงถึงการประชุมแชงกรีลาในสิงคโปร์ซึ่งเป็นเวทีแลกเปลี่ยนพูดคุยด้านความมั่นคงในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก ซึ่งนายลอยด์ ออสตินได้ใช้โอกาสนี้แสดงจุดยืนของสหรัฐอเมริกาที่ให้ความสำคัญกับภูมิภาคอินโดแปซิฟิก และสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกับจีน ในขณะเดียวกันก็สร้างการแข่งขันกับจีนที่ไม่นำไปสู่ความขัดแย้งในระดับภูมิภาค

“ในระหว่างการประชุมที่แชงกรีลา ผมได้กล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับความสำคัญของการมีเกราะป้องกันในการแข่งขันกับจีน และนั่นเป็นสิ่งสำคัญที่ผมได้พูดคุยกับรัฐมนตรีกลาโหมของจีนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มันเป็นก้าวสำคัญในความพยายามของพวกเราที่จะพัฒนาการสื่อสารที่เปิดกว้างกับผู้นำระดับสูงของกองทัพจีน สหรัฐอเมริกาไม่เคยกลัวที่จะแข่งขัน แต่เราไม่แสวงหาความขัดแย้งหรือเราไม่ทำให้ภูมิภาคต่าง ๆ ถูกแบ่งแยกด้วยความเป็นศัตรู ในขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสสำคัญที่เราจะแสดงความกังวลต่อเสถียรภาพของไต้หวันและยืนยันความสัมพันธ์และนโยบายต่อไต้หวันของเราซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงมาตลอด”

สหรัฐอเมริกากำลังผลักดันวิสัยทัศน์ Free and Open Indo-Pacific หรือภูมิภาคอินโดแปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าเป็นการท้าทายความพยายามของจีนที่จะอ้างสิทธิ์และอธิปไตยเหนือทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ขัดแย้งระหว่างจีนและชาติในอาเซียน รวมถึงเป็นเส้นทางการค้าที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นายลอยด์ ออสตินกล่าวถึงประเด็นนี้ว่า

“ความสัมพันธ์ระหว่างเราและจีนนั้นเป็นการแข่งขันไม่ใช่การห้ำหั่นกัน และเราจะยืนยันสิ่งนี้ ผมได้กล่าวว่าจีนเป็นความท้าทายในการแข่งขันและอินโดแปซิฟิกเป็นภูมิภาคที่มีความสำคัญของเรา เราเคยพูดเมื่อ 18 เดือนที่แล้ว และยังคงยืนยันสิ่งเดิม”

“เรามุ่งมั่นในการทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อทำให้แน่ใจว่าภูมิภาคอินโดแปซิฟิกจะเสรีและเปิดกว้าง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคน และผมรู้ว่าสิ่งนี้สำคัญต่อพันธมิตรของเราที่เราทำงานด้วย ดังนั้นจะเห็นว่าเรามีวิสัยทัศน์ร่วมกันกับพวกเขาและเราเชื่อมั่นในสิ่งเดียวกัน ซึ่งวิสัยทัศน์นั้นอยู่บนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ”

นอกจากนั้น เขายังยืนยันความสำคัญของไทยต่อสหรัฐอเมริกา โดยไทยเป็นพันธมิตรที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชียของสหรัฐอเมริกา และกองทัพของทั้งสองชาติมีความสัมพันธ์กันอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน และยังมีสัญญาณของการเพิ่มความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสหรัฐผ่านความร่วมมือและการฝึกร่วมระหว่างกองทัพทั้งสอง รวมถึงการขายอาวุธที่ทันสมัยหลายรายการให้กับไทย เช่นยานเกราะ Stryker หรือความพยายามในการจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-35 ของไทย 

นายลอยด์ ออสตินกล่าวถึงบทบาทและความตั้งใจของสหรัฐอเมริกาในการสนับสนุนกองทัพไทย เพื่อสร้างขีดความสามารถด้านการทหารของกองทัพไทยและสนับสนุนความต้องการของกองทัพไทยในการพัฒนากองทัพให้ทันสมัย

“ไทยเป็นประเทศที่สำคัญต่อเรา เป็นหนึ่งในประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุด 25 ประเทศของโลก นั่นเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ทางทหารอย่างเข้มแข็งมานานหลายปี ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญที่เราจะทำงานร่วมกันเพื่อให้ประเทศไทยสร้างขีดความสามารถที่ไทยเชื่อว่าจำเป็นสำหรับการปกป้องผลประโยชน์ของไทย แต่ก็มีสิ่งที่เราสามารถทำร่วมกันได้เพื่อสร้างเสถียรภาพในภูมิภาคเพิ่มเติมในอนาคต”

“เราจะยังคงสร้างความสามารถในการปฏิบัติการร่วมกัน (ระหว่างไทยและสหรัฐ) ด้วยการฝึกร่วมกันในหลายขีดความสามารถตั้งแต่ความมั่นคงทางทะเลไปจนถึงการแพทย์ทหาร และเรายังขยายไปยังด้านอวกาศและไซเบอร์ด้วย”

ข้อมูลข่าวและที่มา

ผู้สื่อข่าว : วีระเดช คชเสนีย์

ผู้เรียบเรียง : วีระเดช คชเสนีย์

แหล่งที่มา : หน่วยงานสำนักข่าว