สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระวโรกาสให้ข้าราชการระดับสูง กระทรวงมหาดไทยที่จะเกษียณอายุราชการ เฝ้ากราบถวายสักการะ

วันนี้ 17 กันยายน 2566 เวลา 9 นาฬิกา 39 นาที สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จลง ณ พระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ประทานพระวโรกาสให้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นำอธิบดี, ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย, ผู้ว่าราชการจังหวัด ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 1 ตุลาคม 2566 พร้อมคู่สมรสเฝ้า กราบถวายสักการะ เพื่อความเป็นสิริมงคล
โอกาสนี้ ประทานพระโอวาท ความสำคัญตอนหนึ่งว่า " ผู้เกษียณอายุราชการ คือ ผู้อาวุโสอย่างสมบูรณ์ การเจริญวัยล่วงมาโดยสวัสดิภาพถึงเขตนี้ ย่อมต้องผ่านประสบการณ์ ตามสำนวนไทยที่เรียกว่า “ผ่านร้อนผ่านหนาว” มามาก การผ่านฤดูกาลที่ร้อนและหนาวมาถึง 6 ทศวรรษ สมควรที่ผู้สูงวัยจักได้ไตร่ตรองถึงการกระทำทางกาย ทางวาจาและทางใจ ตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านไปแล้วในอดีตให้ถี่ถ้วน ว่าเราได้กระทำสิ่งใดเหมาะสมถูกต้อง เป็นประโยชน์ตนและประโยชน์ผู้อื่นไว้บ้าง ในขณะเดียวกัน ก็ต้องกล้าหาญพอที่จะยอมรับกับตนเองว่า เราได้กระทำสิ่งใดไม่เหมาะสม ไม่ถูกต้อง ไม่สมควร เป็นโทษทุกข์แก่ตนและแก่ผู้อื่นไว้บ้าง การคิดทบทวนด้วยความเอาใจใส่ ด้วย “จิตตะ” และมุ่งแก้ไขปรับปรุงตนให้ดียิ่งขึ้นด้วย “วิมังสา” เช่นนี้ คือ กระบวนการศึกษาและพัฒนาตนเองตามหลักพระพุทธศาสนา เพื่อชีวิตข้างหน้าที่เหลือของทุกคน จักได้ดำเนินไปอย่างรอบคอบที่สุดในขณะปัจจุบัน โดยไม่เผลอก้าวพลาดกระทำผิดซ้ำรอยเดิม ให้เป็นที่น่าอับอายแก่ลูกหลานและคนรุ่นหลัง ท่านต้องตั้งตนเป็นผู้พร้อมพรั่งด้วยกำลังกาย กำลังใจและกำลังสติปัญญา ในอันที่จะเพิ่มพูนความดีงามในชีวิตให้ทวีคูณยิ่งๆ ขึ้นกว่าเก่า ให้สามารถดำรงตนเป็นร่มเงาอันร่มเย็นของครอบครัว ชุมชนและสังคมประเทศชาติได้ ให้สมฐานะของร่มโพธิ์ร่มไทร เป็นผู้ใหญ่วัยเกษียณที่น่ารักน่าเคารพตลอดไป "
ข่าวในพระราชสำนัก สทท.
ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : สายข่าวในพระราชสำนัก NBT
ผู้เรียบเรียง : ธนพิชฌน์ แก้วกา
แหล่งที่มา : สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย