สรุปข่าวประจำสัปดาห์ (4- 8 กันยายน 2566)

สรุปข่าวประจำสัปดาห์ (4- 8 กันยายน 2566)
การเมือง/มั่นคง
4 กันยายน 2566
นายกรัฐมนตรี หารือ ผบ.เหล่าทัพ รับฟังความคิดเห็นแนวทางการทำงาน ยอมรับยังเป็นมือใหม่
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการพูดคุยกับว่าที่ผู้บัญชาการเหล่าทัพ เมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมาว่า เป็นการพูดคุยกันในบรรยากาศที่ดี โดยเป็นการรับฟังความคิดเห็นกัน โดยเฉพาะเรื่องการลดช่องว่างระหว่างทหารกับประชาชน รวมถึงการดำเนินการของกองทัพที่ได้ทำไปในช่วงที่ผ่านมา ส่วนรายละเอียดต่างๆ ขอให้รอให้มีการแถลงร่วมกัน หลังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเข้าบริหารราชการอย่างเป็นทางการแล้วน่าจะดีกว่า
ส่วนมีการพูดกันถึงเรื่องงบประมาณของกองทัพหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดกันถึงเรื่องนี้ เพียงแค่ไปฟังความคิดเห็นว่าทางกองทัพทำอะไรกันอยู่บ้าง รวมไปถึงการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ ตนเองยังใหม่จึงอาจจะไม่ทราบว่าขอบเขตการทำงานของทหารมีอะไรบ้าง ซึ่งก็ได้รับความอนุเคราะห์จากทุกท่านอธิบายอย่างละเอียด อาทิ พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ว่าที่ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ซึ่งจะเดินทางไปร่วมการประชุมสหประชาชาติ ในช่วงวันที่ 18 กันยายน เพราะต้องมีการหารือเรื่องความมั่นคงกับทางสหรัฐอเมริกาด้วย
สำหรับการประชาสัมพันธ์ ระหว่างกองทัพกับประชาชนมองว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้มีปัญหาติดขัดอะไร เพียงแต่ที่ผ่านมา ทางกองทัพทำอะไรดีๆ ที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนหลายเรื่อง รวมทั้งปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีตไม่มีการชี้แจงกันอย่างตรงไปตรงมาและทำให้แพร่หลายไปหลายๆ สื่อ ซึ่งน่าเสียดาย หากปรับเรื่องการสื่อสารให้ดีขึ้น พี่น้องประชาชนก็จะได้ทราบเรื่องดีๆ ที่ทางกองทัพทำ ยืนยันว่า เป็นเพียงการไปรับฟังคิดเห็นและรับทราบว่า กองทัพทำอะไรอยู่แล้วบ้าง เป็นการทำความรู้จักกัน เพราะไม่เคยเจอกับว่าที่ผู้บัญชาการเหล่าทัพ แต่ท่านติดตามการทำงานของเราตลอด ทั้งเรื่อง IUU และการประมง ทางผู้บัญชาการเหล่าทัพก็มีข้อมูลมานำเสนอ เมื่อแถลงนโยบายรัฐบาลแล้วก็จะมีการเข้าไปพูดคุยกันอย่างเป็นทางการ แล้วก็จะมีขั้นตอนการทำงานร่วมกันออกมาอย่างชัดเจนอีกครั้ง
นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เชื่อมั่นว่าการปฏิบัติราชการร่วมกับเหล่าทัพจะเป็นไปด้วยดี
นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงต่อสื่อมวลชนภายหลังเข้าพบ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่บ้านสุวรรณทัต ซึ่งได้รับกำลังใจ ความมั่นใจและได้รับคำแนะนำที่เป็นประโยชน์คือ การรู้ว่าจะต้องบริหารราชการในกระทรวงกลาโหมอย่างไร และการจัดลำดับความสำคัญในการบริหารราชการ รวมถึงการวางตัวกับเหล่าทัพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ส่วนความชัดเจนว่าจะเข้าไปบริหารราชการในกระทรวงกลาโหมเมื่อใดนั้น ยังไม่ได้มีการกำหนด โดยในวันนี้จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีของพรรคซึ่งตนจะถามถึงความชัดเจน ว่าต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาหรือไม่ หากไม่จำเป็นต้องรอ ก็จะสามารถเข้าบริหารราชการ หรือกระทรวงกลาโหมได้อย่างรวดเร็ว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า การเดินสายพบปะขอคำแนะนำที่ผ่านมา ทั้งแบบที่เปิดเผยและไม่เปิดเผยนั้น เป็นไปด้วยดี เช่น การหารือกับว่าที่ผู้บัญชาการเหล่าทัพวานนี้ ก็มีบรรยากาศที่ดี ส่งผลให้มีกำลังใจในการทำงาน รวมถึงมีสัญญาณที่ดีจากทางเหล่าทัพ ในการเปิดกว้างรับพลเรือนมาดำรงตำแหน่งนี้ เชื่อมั่นว่า หากแสดงให้เห็นว่าการบริหารราชการเป็นไปเพื่อประโยชน์ของชาติ ทั้งฝ่ายทหารจะไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ยังกล่าวด้วยว่า แม้จะไม่มีความลำบากใจในการปฏิบัติราชการ แต่ก็จะไม่ประมาท ไม่ทะนงว่าตนเองรู้มีความรู้ดีแล้ว จะศึกษาหาข้อมูลในด้านที่จำเป็นต่อการบริหารงานราชการกระทรวงกลาโหมและจะปฏิบัติตนเสมือนน้ำไม่เต็มแก้วและจะเรียนรู้เพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา
นายกรัฐมนตรีชี้แจงไม่มีแนวคิดรื้อ “รังนกกระจอก” เพียงอยากปรับปรุงให้ดีขึ้น
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมาว่า เป็นเพียงการเข้าไปดูพื้นที่ต่างๆ ห้องทำงาน ห้องประชุมต่างๆ ห้องประชุม ครม. รวมไปถึงการไปดูห้องทำงานของสื่อมวลชนด้วย ซึ่งยืนยันว่า ไม่มีแนวคิดรื้อห้องทำงานสื่อมวลชน ประจำทำเนียบรัฐบาล หรือรังนกกระจอก เพียงไปรับฟังว่าใครอยู่ตรงไหน ที่นั่งสื่อมวลชนมีอยู่ 2-3 ที่ เราต้องการทำให้ดีขึ้น เพียงแค่ไปดูเพื่อปรับปรุงให้ฝ่ายบริหารเข้าถึงฝ่ายสื่อมวลชนให้ดีขึ้น อาจจะมีการปรับปรุงบ้าง แต่โดยรวมความเป็นอยู่ต้องดีขึ้น ทั้งนี้ไม่เคยใช้คำว่าจัดระเบียบเป็นเพียงแค่ไปดูว่าความเป็นอยู่ของพี่น้องสื่อมวลชนเป็นอย่างไรบ้าง แล้วก็ยืนยันถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรทุกอย่างต้องดีขึ้น ไม่ใช่การไปจัดระเบียบหรืออะไร ผมไม่เคยใช้ ยืนยันว่าไม่มีอย่างแน่นอน ขอให้สบายใจได้ เพราะเห็นว่ามีที่ทำงานของพี่น้องสื่อมวลชน มีอยู่ 2-3 ที่ ก็จะทำให้ดีขึ้น ก็อยากทำให้สบายขึ้น รวมถึงการทำงานร่วมกัน การเข้าถึงประชาชนได้ก็ต้องอาศัยสื่อมวลชน เพราะฉะนั้นการที่ฝ่ายบริหาร ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีและเลขาฯ ที่ปรึกษาฯ ก็อยากให้มีสถานที่ที่ลงมาพบปะกับพี่น้องสื่อมวลชน ซึ่งจะเป็นการลดช่องว่างระหว่างฝ่ายบริหารกับประชาชนผ่านสื่อมวลชนด้วย
ส่วนจะมีการปรับปรุงห้องทำงานนายกรัฐมนตรี เยอะหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อวานนี้มีเวลาในการดูห้องไม่มาก อาจจะต้องเข้าไปทำงานก่อน เพราะลักษณะการทำงานของนายกรัฐมนตรี แต่ละคนแตกต่างกัน
ขณะที่กระแสข่าวการทาบทาม พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. มาเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่ทราบและไม่เคยพูดคุยกันเรื่องนี้เลย ส่วนกระแสการจับผิดและโจมตีเรื่องท่าทีและการแสดงออก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อย่าใช้คำว่าจับผิดเลย หากภาพที่ออกไปแล้วบ่งบอกถึงความไม่พอใจ ก็ขอโทษด้วย แต่ไม่ได้เป็นการไม่พอใจอะไร เพียงแต่พี่น้องผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างมีหลายประเด็น จึงต้องรีบจด ไม่ใช่นั้นจะไม่สามารถตอบคำถามเขาได้ เพียงแต่เขียนไปแล้วหมึกหมด ก็บอกว่าหมึกหมด ผมไม่ได้ขว้าง เพียงแค่ปล่อยลงบนโต๊ะเฉยๆ ก็เข้าใจว่าเป็นบุคคลสาธารณะ การทำอะไรต่อไปนี้ก็ต้องระมัดระวัง เพราะภาพที่ออกไป แม้จะไม่ได้เป็นการสะท้อนความรู้สึกเราเอง แต่คนที่ดูอยู่ก็อาจจะเข้าใจผิดได้ ก็กราบขอโทษและจะพยายามระมัดระวังตัวมากขึ้น
5 กันยายน 2566
คณะรัฐมนตรีพร้อมน้อมนำกระแสพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นแนวทางปฏิบัติราชการแผ่นดิน
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงภายหลังนำคณะรัฐมนตรี เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ว่า จะน้อมนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติราชการแผ่นดิน และยืนยันว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลของประชาชน รัฐมนตรีทุกคนจะทำหน้าที่เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนทุกคน เพราะรัฐบาลมีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหามากมาย แล้วจะทำงานอย่างลืมความเหน็ดเหนื่อย ทุกวันทุกนาทีจะนำความต้องการของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง โดยในวันศุกร์ที่ 8 กันยายนนี้ จะลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น อุดรธานีและหนองคาย เพื่อพูดคุยรับทราบปัญหาของพี่น้องประชาชนและนำมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป ขณะที่ในวันที่ 11 กันยายนนี้จะมีการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา
นายกรัฐมนตรี ยืนยันด้วยว่า รัฐบาลจะสร้างความชอบธรรม ในการบริหารราชการแผ่นดินในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข แล้วจะฟื้นฟูหลักยุติธรรม ที่เข้มแข็งมีประสิทธิภาพและโปร่งใส ภายใต้หลักการที่มีส่วนร่วมของประชาชน รัฐบาลจะสร้างโอกาสความเท่าเทียมให้กับประชาชน เพื่อให้ประเทศไทยเปลี่ยนผ่านไปสู่ประเทศที่มีความมั่งคั่ง มั่นคงและยั่งยืนในอนาคต
สำหรับในวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ เพื่อหารือถึงการจัดทำนโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภา โดยยืนยันว่าเรื่องของเศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญและเชื่อว่าทุกคนในรัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องของเศรษฐกิจ ดังนั้นขอหารือเป็นการภายในกับพรรคร่วมรัฐบาลก่อนว่าแต่ละท่านว่ามีนโยบายและข้อคิดอย่างไรบ้าง ส่วนการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ที่มีความล่าช้า เชื่อว่ารัฐมนตรีทุกคนทราบถึงปัญหานี้ดีและคิดว่าจะไม่เป็นอุปสรรคใดใดในการบริหารราชการ โดยย้ำว่าอะไรที่ทำได้ก่อนจะทำทันที โดยเฉพาะการแก้ปัญหาให้กับประชาชน เพราะเข้าใจและตระหนักถึงปัญหาเป็นอย่างดี ซึ่งขอโอกาสให้รัฐมนตรีทุกคนได้ทำงานก่อน
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ขอให้เชื่อมั่นในรัฐบาลนี้ว่าพวกเรามีความตั้งใจจริง และตระหนักดีถึงปัญหาที่ประชาชนเผชิญอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องความแตกแยกทางความคิด ถ้าเรื่องนี้รัฐบาลจะให้ความสำคัญเท่าเทียมกันและพยายามเดินไปข้างหน้า รวมถึงจะพยายามจัดการปัญหาเหล่านี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด ซึ่งมั่นใจว่าทุกคนมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน
สำหรับนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ยืนยันจะเร่งทำให้เร็วที่สุด โดยจะไม่เกินไตรมาส 1 ในปีหน้า และจะเป็นการจ่ายเพียงงวดเดียว ขณะที่ในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติที่สหรัฐอเมริกา จะใช้โอกาสนี้พูดคุยกับผู้นำหลายๆ ประเทศ และอาจจะเจอกับภาคธุรกิจด้วย
6 กันยายน 2566
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอการแต่งตั้งนายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2566 เป็นต้นไป
นายกรัฐมนตรี พร้อมใช้รถเบนซ์ประจำตำแหน่ง ยืนยัน นั่งสบาย ศีรษะไม่ติด
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์หลังได้ทดลองนั่งรถประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ยี่ห้อเมอร์เซเดส-เบนซ์ S600 Guard Sedan Long สีดำ ทะเบียน 4 กค 29 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถซีดาน หุ้มเกราะกันกระสุนที่จัดซื้อพร้อมกัน 4 คัน เพื่อใช้เป็นรถประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรับรองแขกคนสำคัญของรัฐบาลว่า ได้ทดลองนั่งแล้วและศีรษะไม่ได้ติดเพดานรถตามที่มีกระแสข่าว อีกทั้งรู้สึกนั่งสบาย ยังใช้งานได้ดีและไม่ต้องซื้อใหม่ โดยหลังจากนี้ก็คงใช้รถคันดังกล่าว เพราะเป็นรถประจำตำแหน่งและอาจจะมีสลับใช้รถส่วนตัวบ้าง
นายกฯ เน้นย้ำคณะรัฐมนตรีเร่งเดินหน้าทำงานและแก้ปัญหาให้แก่ประชาชน ด้วยความโปร่งใส
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษและได้ชี้แจงแนวทางในการทำงานให้กับรัฐมนตรีทุกคน ในฐานะที่เป็นรัฐบาลของประชาชนคนไทยทุกคน ซึ่งก็ขอให้ทำงานเพื่อประชาชน โดยยึดหลักของกฎหมายและรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัดเพื่อมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ความเดือดร้อน สังคมและความแตกแยกทางความคิด
นายกรัฐมนตรี ยืนยันด้วยว่า รัฐบาลจะพยายามแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ สิ่งใดที่สามารถทำได้ก่อนโดยไม่ติดข้อกฎหมายก็จะเร่งดำเนินการ ขณะเดียวกันขอเน้นย้ำในเรื่องของความโปร่งใสในการทำงาน โดยเฉพาะเรื่องการโยกย้ายข้าราชการ เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ
7 กันยายน 2566
เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะแสดงความยินดีกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี
นายรอเบิร์ต เอฟ. โกเด็ก (Mr. Robert F. Godec) เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย เข้าพบเพื่อแสดงความยินดีกับนายเศรษฐา ทวีสิน ในโอกาสที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี โดยในโอกาสนี้ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการเข้าเยี่ยมคารวะครั้งนี้ด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณเอกอัครราชทูต ที่ร่วมแสดงความยินดี ชื่นชมความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทย-สหรัฐฯ ที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาอย่างยาวนาน ขณะที่ เอกอัครราชทูตฯ สหรัฐฯ มุ่งหวังว่า ความสัมพันธ์ทวิภาคี ที่มีมาอย่างแน่นแฟ้นยาวนาน ตามที่ครบรอบ 190 ปี สถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างกัน จะต่อเนื่องทวีความมั่นคงต่อไป
นายกรัฐมนตรี หวังจะได้พบประธานาธิบดีไบเดน ในระหว่างการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 (78th Session of the United Nations General Assembly: UNGA78) และหวังว่าจะได้ให้การต้อนรับประธานาธิบดีไบเดนที่ประเทศไทยในอนาคตอันใกล้นี้ พร้อมกันนี้ ทั้งสองฝ่ายพร้อมสนับสนุนการทำงานร่วมกันในทุกมิติ ที่จะทำให้เกิดประโยชน์ร่วมกันแก่ประชาชนของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การค้า การลงทุนและความท้าทายระดับโลก อาทิ วิกฤตสภาพภูมิอากาศ
วิป 3 ฝ่าย มีมติกำหนดวันประชุมแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา 30 ชั่วโมง
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เปิดเผยผลการประชุมวิป 3 ฝ่าย ประกอบด้วย วิปรัฐบาล วิปฝ่ายค้านและวิปวุฒิสภา โดยที่ประชุมมีมติกำหนดวันแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ระหว่างวันที่ 11-12 กันยายนนี้ ตั้งแต่ 09.00 น. ถึง 24.00 น. ของแต่ละวัน โดยกำหนดกรอบเวลาการอภิปราย 30 ชั่วโมง แบ่งเป็นประธานรัฐสภา 1 ชั่วโมง คณะรัฐมนตรี พรรคร่วมรัฐบาล วุฒิสภา ฝ่ายละ 5 ชั่วโมง และพรรคร่วมฝ่ายค้าน 14 ชั่วโมง
ด้านนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ทำหน้าที่ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ทุกฝ่ายเห็นตรงกันตามกรอบเวลาที่กำหนด ข้อมูลที่พรรคก้าวไกลเตรียมไว้เป็นการสอบถาม ตั้งข้อสงสัยและให้ข้อเสนอแนะ รวมถึงเรียกร้องสิ่งที่พรรครัฐบาลได้หาเสียงไว้ โดยเฉพาะเรื่องเศษรฐกิจปากท้อง สังคม การจัดสรรอำนาจและที่สำคัญทิ้งไม่ได้เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนที่ฝ่ายรัฐบาล ขอให้เป็นการแสดงความคิดเห็นไม่ใช่อภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ขอยืนยัน ว่าพรรคก้าวไกล ไม่ได้ตรวจสอบทุกวาระ หากฝ่ายรัฐบาลเคลียร์ได้ทุกประเด็น ก็จะคลายความกังวล เรื่องการบริหารแผ่นดินให้กับประชาชนได้
นายกรัฐมนตรียืนยันเป็นเรื่องดี ‘ฝ่ายค้าน’ ทำหน้าที่ตรวจสอบนโยบาย ช่วยให้รัฐบาลแข็งแกร่งขึ้น
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความชัดเจนในนโยบาย Digital Wallet 10,000 บาท ที่มีการอ้างถึงการยืมเงินรัฐวิสาหกิจมาดำเนินนโยบายว่า ตอนนี้ไม่อยากให้มีการพูดคุยกันไปหลายอย่าง จนทำให้เกิดความสับสน อีกทั้งยังไม่ได้เข้าบริหารงานอย่างเป็นทางการ อยากให้มีการแถลงนโบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาก่อน ขอให้ใจเย็นๆ ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงการพูดคุยกับภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อเก็บข้อมูล ซึ่งเมื่อวาน (6 กันยายน) ก็ได้หารือกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ได้ให้ข้อมูลหลายเรื่อง รวมถึงให้คำแนะนำถึงการออก Digital Wallet แล้วในระยะกลางและระยะยาวระบบการเงินการคลังของประเทศจะเป็นอย่างไร ตัวเลขหนี้สาธารณะจะเป็นอย่างไร ซึ่งท่านก็เห็นด้วยว่า เป็นเรื่องที่ดี ดังนั้นจึงต้องพูดคุยกันให้ชัดเจนก่อน ไม่อยากให้มีการพูดกันไปแล้วเกิดความเข้าใจผิด ส่วนแนวทางการนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า เป็นการใช้ Blockchain อย่างแน่นอน โดยนโยบายนี้จะใช้ได้ภายในไตรมาสแรก ปี 2567
ส่วนกรณีพรรคก้าวไกล เชิญชวนประชาชนจับตาการแถลงนโบายรัฐบาลที่หลายเรื่องในตอนหาเสียงไม่ปรากฎอยู่ว่า ก็ขอให้ดูตอนแถลงนโยบาย ก็เข้าใจการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านที่มีหน้าที่ตรวจสอบ ซึ่งฝ่ายรัฐบาลก็มีหน้าที่อธิบายถึงขั้นตอนต่างๆ เท่าที่ทำได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดาที่เราอาสาเข้ามาทำงานการเมืองก็ต้องพร้อมที่ถูกตรวจสอบ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่จะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้นด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการทำงานของ ครม. ว่า ได้มีการพูดคุยกับผู้เกี่ยวข้องต่างๆ แล้วว่าจะมีการประชุม ครม. นอกสถานที่ แน่นอน แต่เมื่อไรและอย่างไรนั้นจะแจ้งอีกครั้ง สำหรับการประชุม ครม.เศรษฐกิจนั้นอาจไม่จำเป็นต้องมานั่งล้อมวงกัน ซึ่งเสียเวลาในการเตรียมการเรื่องเอกสาร แต่จะใช้วิธีการทำงานด้วยความรวดเร็วให้ทันสถานการณ์ โดยวิธีการจับกลุ่มแล้วพูดคุย หรือแยกตัวทำงานกันน่าจะดีกว่า อีกทั้งปัจจุบันมีวิธีการสื่อสารกันได้หลายวิธี ซึ่งมั่นใจได้ว่าทุกเรื่องจะเดินได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับแนวทางการลดราคาพลังงาน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้อดใจนิดหนึ่ง เพราะขณะนี้กำลังพิจารณาอยู่หลายเรื่องและกำลังพูดคุยกับผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งก่อนหน้านี้มีการประกาศสิ่งที่จะดำเนินการในการประชุม ครม. อย่างเป็นทางการนัดแรก ซึ่งจะต้องพิจารณาด้วยว่าสิ่งต่างๆ จะเริ่มใช้ได้จริงเมื่อไร หากพูดไปตอนนี้อาจมีความสับสน ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาผู้จะมาเป็นโฆษกรัฐบาลที่จะมาทำหน้าที่พูดคุยสื่อสารที่จะไม่ทำให้สื่อมวลชนและประชาชนสับสน
นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงเที่ยงวันนี้(7 ก.ย.)จะมีการพูดคุยกับทีมงาน ว่ามีเรื่องไหนอะไรที่จะต้องเร่งดำเนินการบ้าง โดยเฉพาะในการประชุม ครม. อย่างเป็นทางการครั้งแรก ดังนั้นจึงขอให้ใจเย็นๆ เพราะอยากจะพูดแล้วสามารถบอกวันที่เกิดขึ้นได้จริงๆ ด้วย จะได้ไม่เกิดความสับสน แต่ยืนยันว่าได้เห็นผลงานของรัฐบาลแน่นอน นอกจากนี้ ในวันนี้จะหารือกับเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพื่อพิจารณาเรื่องการลงทุนจากต่างประเทศว่าติดขัดอะไรหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงจะมีการพบกับเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยด้วย จึงขอให้มั่นใจได้ว่ารัฐบาลทำงานอย่างเต็มที่
8 กันยายน 2566
เร่งส่งร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 หากไม่ทันสามารถใช้งบประจำไปก่อน
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ซึ่งอาจจะพิจารณาไม่ทันปีงบประมาณว่า หากไม่ทันสามารถใช้งบประมาณที่มีอยู่ โดยยึดตามงบประมาณปี 2566 ซึ่งสามารถดำเนินการได้ เพราะกว่าจะได้พิจารณางบประมาณปี 2567 ต้องใช้เวลา ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลจะเร่งดำเนินการ ทั้งนี้เชื่อว่าวันที่มีการแถลงนโยบายของรัฐบาล ตนเองจะได้พบกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี หรือเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อให้เร่งรัดเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 เพราะขณะนี้มีความชัดเจนแล้วว่าฝ่ายค้านและรัฐบาลเป็นพรรคใด ซึ่งเชื่อว่าน่าจะดำเนินการได้เร็ว เพราะรัฐบาลต้องการงบประมาณไปใช้โดยเร็วเช่นกัน
ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงงบประมาณในส่วนของเบี้ยประชุมกรรมาธิการว่า เบี้ยประชุมกรรมาธิการต่างๆ ถือเป็นเรื่องงานที่ต้องทำเหมือนกับงบประจำที่มีอยู่แล้ว
นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ติดตามการแก้ปัญหาภัยแล้ง กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ติดตามการแก้ปัญหาภัยแล้ง ผลกระทบจากเอลนีโญและการบริหารจัดการน้ำ โดยนายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน ระบุว่า ปริมาณฝนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีปริมาณฝนน้อยกว่าค่าเฉลี่ย สถานการณ์น้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ มีน้ำใช้การได้ประมาณ 300 ล้านลูกบาศก์เมตร คาดว่าเมื่อสิ้นฤดูฝนจะมีน้ำเพิ่มขึ้นใช้ได้การประมาณ 709 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งกรมชลประทานเตรียมแผนรองรับและบริหารจัดการน้ำ จัดสรรน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภค อุตส่าหกรรม รักษาระบบนิเวศและสำรองไว้สำหรับทำการเกษตร ทั้งนี้จัดหาแหล่งน้ำสำรองและจ้างงานในพื้นที่ เพื่อบรรเทาผลกระทบประชาชน
นายกรัฐมนตรี กำชับว่า ได้ขอกำลังเสริมจากกองทัพในพื้นที่ ให้ช่วยสนับสนุนการการขุดลอกแหล่งน้ำต่างๆ ตลอดจนจัดเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือ รองรับสถานการณ์ภัยแล้ง
ภายหลังรับฟังรายงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ได้พบปะประชาชน รับฟังการสะท้อนปัญหาในพื้นที่ โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มารับฟังข้อมูลและเตรียมพร้อมบริหารราชการแผ่นดินต่อไป
ขอความร่วมมือจัดทำบัญชีรายชื่อผู้มีอิทธิพล ควบคุมการครอบครองอาวุธปืนให้เข้มงวดมากขึ้น
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากทางจังหวัดนครปฐมแล้วว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ขอให้กำนันนกให้มามอบตัวและคงจะมีการสั่งออกจากราชการไว้ก่อน ซึ่งเราก็ต้องจับตาดูพฤติกรรมของคนเหล่านี้ ว่าจะไปคุกคามประชาชนแบบนี้ไม่ได้ต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดและต้องขอความร่วมมือให้ผู้ว่าราชการจังหวัด จัดทำบัญชีผู้มีอิทธิพล เพื่อเป็นตัวช่วยคัดกรองคนที่จะมาดูแลความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน แม้จะมีบุคลิกเป็นผู้นำจะต้องมีคุณธรรมด้วย ไม่ใช้อิทธิพลในการดูแลปกครองประชาชน แต่หากเป็นผู้มีอิทธิพลแล้วมาปกครองบ้านเมือง ก็จะเกิดเหตุการณ์อย่างเช่นที่จังหวัดนครปฐมขึ้นอีกได้ และหลังจากนี้คงต้องหารือเพิ่มเรื่องการขึ้นทะเบียนปืนว่าจะให้มีความเข้มงวดมากขึ้น ใบอนุญาตการมีปืนต้องห้ามบรรจุกระสุนและพกพาไปในที่สาธารณะ ต้องเพิ่มข้อห้ามมากมาย เพื่อไม่ให้ผู้ที่มีใบอนุญาตพกพาแล้วใช้ได้ตามสะดวก ต้องอยู่ภายใต้ข้อจำกัด
นอกจากนี้ นายอนุทิน ได้ย้ำว่าการทำงานของกระทรวงมหาดไทย ต้องไม่มีระบบเส้นสาย หรือเรื่องทางการเมือง ตนเองเชื่อมั่นว่าหากให้ความเป็นธรรมกับคนทุกคนได้ คำว่าเส้นสายจะเปลี่ยนไปเป็นผลงานที่เป็นที่ประจักษ์ กระทรวงมหาดไทยเป็นกระทรวงที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชน ความสามารถ ประสบการณ์ ความตั้งใจ จะทำให้ประชาชนมีความสุข ส่วนการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด “ไม่ใช่นโยบายในส่วนของตนเอง ที่ให้สัญญากับพี่น้องประชาชนไว้”
เศรษฐกิจ/ท่องเที่ยว
4 กันยายน 2566
ททท. คาดการณ์มาตรการ “ฟรีวีซ่า” จะสามารถดีงนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยเพิ่มกว่า 7 แสนคน
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. กล่าวว่า จากมาตรการฟรีวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจีนของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่จะนำมาใช้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้นั้น คาดว่าจะเป็นปัจจัยบวกสนับสนุนให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นประมาณ 5-7 แสนคน โดยจำนวนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นนี้จะทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาเที่ยวไทยปี 2566 รวมกว่า 4.2 ล้านคน ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ 5 ล้านคน ส่วนรายได้เพิ่มขึ้นจากการเข้ามาของนักท่องเที่ยวจีนนี้จะส่งผลดีต่อการฟื้นฟูการท่องเที่ยวและภาคเศรษฐกิจของประเทศได้จำนวนมาก
สำหรับนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยในช่วง 8 เดือนแรกที่ผ่านมา (1 มกราคม-27 สิงหาคม) แล้วกว่า 17,500,000 คน มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาแล้ว 2,182,038 คน เป็นอันดับ 2 รองจากมาเลเซีย
5 กันยายน 2566
บีโอไอ มุ่งลงทุนภาคใต้ชูระเบียงเศรษฐกิจ SEC – เขตพิเศษชายแดนใต้ เป็นประตูการค้าการลงทุน
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า บีโอไอ ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร จัดงาน “NEW Economy, NEW Opportunities” ที่จังหวัดสงขลา เพื่อประชาสัมพันธ์ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุน 5 ปี (พ.ศ. 2566 - 2570) และมาตรการส่งเสริมการลงทุนชุดใหม่ที่สนับสนุนผู้ประกอบการในพื้นที่ภาคใต้ โดยเน้นการส่งเสริมการลงทุนที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาช่วยยกระดับอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ภาคใต้มีศักยภาพ เช่นอุตสาหกรรมการเกษตร อาหาร ท่องเที่ยว และ BCG โดยมีผู้ประกอบการในพื้นที่เข้าร่วมงานกว่า 180 คน
สำหรับทิศทางการพัฒนาภาคใต้ตอนบน รัฐบาลมุ่งผลักดันให้เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาค รองรับการขนส่งทั้งทางทะเลและทางบก โดยประกาศ “ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (Southern Economic Corridor: SEC)” ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดระนอง ชุมพร นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี และเดินหน้าโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมทะเลอ่าวไทย - อันดามัน หรือ Land Bridge เงินลงทุนกว่า 1 ล้านล้านบาท โดยจะมีการสร้างท่าเรือน้ำลึก มอเตอร์เวย์และรถไฟทางคู่ เพื่อเชื่อมต่อการค้าจากภูมิภาคเอเชียตะวันออก เช่น ญี่ปุ่น และจีน ไปสู่เอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกาทางฝั่งอันดามัน เป็นต้น
ส่วนของภาคใต้ตอนล่าง ได้แก่ จังหวัดตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส จะพัฒนาให้เป็นพื้นที่รองรับการลงทุน ผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและนิคมอุตสาหกรรมเฉพาะทาง เช่น นิคมอุตสาหกรรมยางพารา (Rubber City) เป็นต้น
ทั้งนี้ ยอดการขอรับการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ภาคใต้ ช่วงครึ่งปีแรก (ม.ค.- มิ.ย.) ของปีนี้มีจำนวน 53 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนกว่า 9,600 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารแปรรูป ถุงมือยางทางการแพทย์ กิจการท่องเที่ยวและดิจิทัล
ททท.ร่วมกับกรุงเทพมหานคร จัดงานการแข่งขันวิ่งมาราธอน เมืองหลวง
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท. ร่วมกับกรุงเทพมหานครและสมาคมกรีฑาโลก จัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนเมืองหลวงอย่างเป็นทางการภายใต้ชื่อการแข่งขันวิ่งมาราธอน “Amazing Thailand Marathon Bangkok” ครั้งที่ 6 ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในสัปดาห์แรกของเดือนธันวาคมของทุกๆ ปี โดยใน 5 ปีที่ผ่านมาการแข่งขันวิ่งผ่าเมือง มีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสามารถจัดงานได้อย่างมีมาตรฐานในระดับสากล มีอัตลักษณ์ความเป็นไทย มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจเข้ามาร่วมแข่งขันจำนวนมาก พร้อมยังได้รับการรับรองจากสมาคมกรีฑาโลก โดยมีเป้าหมายในการมุ่งพัฒนาเศรษฐกิจทางด้านการท่องเที่ยวให้กับกรุงเทพมหานครและประเทศไทย โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าแข่งขันร่วมไม่น้อยกว่า 30,000 คน เป็นชาวต่างชาติ 5,000 คน สร้างรายได้สู่ระบบเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวทั้งทางตรงและทางอ้อมได้มากกว่า 500 ล้านในทุกปี โดยในปีนี้ มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 3 ธันวาคม 2566 มีจุดปล่อยตัว ณ ราชมังคลากีฬาสถาน และเส้นชัยที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน กรุงเทพมหานคร
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร ตกลงร่วมเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันวิ่งรายการนี้ ในฐานะ Host City ถือเป็นรายการมาราธอนที่มีการบริหารจัดการที่ดี มีมาตรฐานระดับเทียบเท่าสากล มีความพร้อมในทุกๆ ด้าน ที่จะพัฒนาให้เป็นรายการมาราธอนในระดับโลก เช่น โตเกียวมาราธอน ได้ในอนาคต
6 กันยายน 2566
นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประกาศปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันต้องลดลงในรัฐบาลชุดนี้
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวย้ำต่อทุกภาคส่วนที่ร่วมกิจกรรมการจัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชัน ว่า การปราบปรามการทุจริตเพื่อความโปร่งใส เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของรัฐบาลและเป็นหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐที่ต้องสนับสนุนและปฏิบัติตามอย่างไม่มีข้อยกเว้น ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันนอกจากทำให้เกิดความเสียหายโดยตรงต่อภาครัฐแล้วยังทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นของนักลงทุนซึ่งเป็นปัญหาหลักที่ทำให้เศรษฐกิจไทยถดถอยและมีผลต่อเนื่องไปสู่ปัญหาการขับเคลื่อน GDP ของประเทศ ดังนั้นเพื่อที่จะขจัดปัญหาทุจริตคอร์รัปชันหมดไป รัฐบาลมีนโยบายทั้งการใช้หลักยุติธรรม นำเทคโนโลยีมาเพื่อใช้ความโปร่งใสตรวจสอบกระบวนการต่างๆ ของภาครัฐเป็นรัฐบาลดิจิทัล โดยมีแผนที่จะปรับปรุงกฎหมายเพื่อลดกระบวนการเงื่อนไขต่างๆ อำนวยความสะดวกให้กับประชาชน เปลี่ยนรัฐอุปสรรคให้เป็นรัฐสนับสนุนและป้องกันการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่รัฐเรียกสินบนจากประชาชน นอกจากกฎหมายที่เข้มแข็งแล้ว รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมายและการลงโทษที่เด็ดขาด เจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงจะต้องยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินเปิดเผยต่อสาธารณชนให้ประชาชนตรวจสอบได้ รวมถึงการซื้อขายตำแหน่งในรัฐบาลนี้ต้องหมดไป
นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวย้ำว่าประเทศไทยจำเป็นต้องเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น หลังประเทศไทยได้รับการจัดอันดับ จากองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ เป็นอันดับที่ 101 ของโลกในด้านการรับรู้เรื่องการทุจริต และเป็นอันดับ 4 ของอาเซียนต่ำกว่าสิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียดนาม ล้วนเป็นประเทศคู่แข่งด้านการค้าของไทย ซึ่งหมายความว่าประเทศไทยต้องมีเรื่องที่พัฒนาอีกมากมาย พร้อมเชื่อมมั่นว่าภายใต้รัฐบาลชุดนี้ปัญหาคอร์รัปชันจะลดลง ความโปร่งใสและเป็นธรรมจะเพิ่มมากขึ้น ตามมาด้วยความน่าเชื่อถือ ยอมรับจากประชาชนและนักลงทุนทั่วโลกซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชน
การไฟฟ้านครหลวงเตือนอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพ แอบอ้าง MEA หลอกเก็บค่าบริการติดตั้งอุปกรณ์สำรองไฟฟ้า
นายคมกริช สาคริก ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรการไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA กล่าวเตือนประชนชนว่าให้ระมัดระวังกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงผู้ใช้ไฟฟ้า แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ MEA ให้บริการด้านไฟฟ้า หรือแอบอ้างว่าเป็นตัวแทนให้บริการต่างๆ และเรียกเก็บเงินค่าบริการ นอกจากจะเสียทรัพย์สินแล้วอาจส่งผลกระทบทำให้ระบบไฟฟ้าไม่ได้มาตรฐาน เสี่ยงต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้
โดยปัจจุบันพบรูปแบบการหลอกลวง อาทิ เรียกเก็บค่าบริการติดตั้งอุปกรณ์สำรองไฟฟ้า ตรวจสอบคุณภาพการใช้ไฟฟ้า หรือบริการล้างเครื่องปรับอากาศ เรียกเก็บค่าบริการต่างๆ ผ่านตัวบุคคล หรือนิติบุคคลใดๆ ในสถานที่ของผู้ใช้ไฟฟ้า เรียกเก็บค่าบริการใดๆ ในการลงพื้นที่จัดกิจกรรมส่งเสริมความสัมพันธ์กับชุมชน หรือโครงการต่างๆ โทรแจ้งเตือนตัดไฟฟ้า และหลอกให้ผู้ใช้ไฟฟ้าโอนเงินเพื่อชำระค่าไฟฟ้า มิเช่นนั้นจะตัดไฟ ล่อลวงให้รับบริการผ่านระบบออนไลน์ หรือคลิกลิงก์ต่างๆ ผ่าน SMS หรือ LINE ปลอม สร้างเว็บไซต์ปลอมหลอกให้กดลิงก์เพื่อดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน MEA Smart Life แนบเอกสารปลอมเรียกเก็บค่าบริการ เย็บติดกับบิลค่าไฟฟ้า หลอกขายอุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้า
อย่างไรก็ตาม MEA มีความห่วงใยประชาชน แนะให้ฉุกคิดก่อนจะทำธุรกรรมใดๆ และขอยืนยันว่า ปัจจุบัน MEA ไม่มีนโยบายให้พนักงาน หรือตัวแทนพนักงาน รับชำระค่าไฟฟ้า หรือค่าบริการใดๆ นอกสถานที่ทำการฯ ทุกกรณี ทั้งนี้ MEA ขอชี้แจงช่องทางให้บริการ เพื่อป้องกันมิจฉาชีพแอบอ้าง โดยมีเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ MEA ที่ www.mea.or.th Application: MEA Smart Life และช่องทาง LINE Official Account: MEA Connect (@MEAthailand) สัญลักษณ์โล่สีเขียวนำหน้าชื่อบัญชีทางการ
งานบางกอกเจมส์ ครั้งที่ 68 ฉลองครบรอบ 40 ปี คาดเงินสะพัดกว่า 3,000 ล้านบาท
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ (Bangkok Gems and Jewelry Fair) ครั้งที่ 68 ณ ห้อง Plenary Hall ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) โดยงานมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-10 กันยายน 2566 ณ Hall 1-8 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ร่วมกับสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT และสนับสนุนโดยองค์กรภาคเอกชน 15 องค์กร
โดยในปีนี้งานบางกอกเจมส์ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ซื้อและผู้ขายที่มาร่วมงาน โดยมีผู้ประกอบการสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับมาจัดแสดงสินค้าจำนวน 1,100 บริษัท พื้นที่ 2,400 คูหา จัดแสดงเต็มพื้นที่ Hall 1-8 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุด นับตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานทั่วโลกไม่ต่ำกว่า 30,000 ราย และคาดว่าจะสร้างมูลค่าการค้าได้ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท
ขณะที่ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2566 การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับมีมูลค่า 1.67 แสนล้านบาท เติบโตร้อยละ 11.62 และคาดการณ์ว่าทั้งปีจะขยายตัวเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10
ด้านนายสุเมธ ประสงค์สันติ ผอ.สถาบันอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT กล่าวว่า ภายในงานมีการจัดแสดงสินค้าของผู้ประกอบการไทยและต่างชาติ และมีไฮไลต์ที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ งาน Networking Reception เพื่อสร้างพันธมิตรทางการค้าระหว่างผู้จัดแสดงสินค้าและบายเยอร์ และผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง นิทรรศการที่นำเสนอความยิ่งใหญ่ของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย ตลอดระยะเวลา 40 ปี นิทรรศการ The Jewellers โซน New Faces จัดแสดงสินค้าจากผู้ประกอบการ หน้าใหม่ รวมถึงกิจกรรมสัมมนาต่างๆ ทั้งด้านเทคนิคและการตลาดงาน
7 กันยายน 2566
สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พร้อมรับนโยบายนายกรัฐมนตรี ในการออกสลากพิเศษ ระดมทุนสนับสนุนการศึกษา
พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า สำนักงานสลากฯ พร้อมรับนโยบายนายกรัฐมนตรี ในการออกสลากการกุศลเพื่อการศึกษา ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้รับข้อเสนอของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ในการออกสลากการกุศล (สลากเพื่อความเสมอภาค) เพื่อระดมทุนสนับสนุนการศึกษา โดยจะมีการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลังและสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ในวันที่ 8 กันยายน 2566 ทั้งนี้ เบื้องต้นการออกสลากการกุศลดังกล่าว ถือเป็นอำนาจคณะรัฐมนตรีและสามารถทำตาม พ.ร.บ.การพนัน ซึ่งสำนักงานสลากฯ พร้อมจะเข้าไปให้ข้อมูลเพิ่มเติม
พันโท หนุน กล่าวด่วยว่า ปัจจุบันมีการออกสลากการกุศล งวดละ 11 ล้านฉบับ เพื่อช่วยการกุศล 16 โครงการ ซึ่งการออกสลากการกุศลเพื่อการศึกษา ตามนโยบายรัฐบาลดังกล่าว อาจจะใช้โควตาจากสลากที่ออกอยู่แล้วในปัจจุบัน หรือจะออกเพิ่มก็สามารถทำได้ ขึ้นอยู่กับมติคณะรัฐมนตรี
ยืนยันแก้ปัญหาปากท้องประชาชน ดูแลสินค้าราคาเกษตรให้เหมาะสม ลดค่าครองชีพประชาชน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เข้าทำงานที่กระทรวงพาณิชย์เป็นวันแรก หลังสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และพบปะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงที่มาต้อนรับ
นายภูมิธรรม กล่าวว่า สำหรับวันนี้ (7 ก.ย 66) ได้พบปะพูดคุยกับปลัดกระทรวงพาณิชย์และอธิบดีทุกท่านเพื่อได้เรียนรู้และฟังข้อคิดเห็นต่างๆ สำหรับวาระงานต่างๆนั้น ยังไม่ได้มีการแบ่งงานกับรัฐมนตรีช่วยฯ โดยต้องรอให้การแถลงนโยบายเสร็จสิ้นก่อน โดยวาระเร่งด่วนที่กระทรวงพาณิชย์เร่งทำนั้น เป็นการหาแนวทางดูแลปากท้องของประชาชน ลดค่าครองชีพช่วงภาวะเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว แก้ไขปัญหาภัยแล้ง และราคาสินค้าเกษตร ทั้งพืชเศรษฐกิจ ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และยางพารา รวมถึงเร่งการเจรจา FTA ที่กำลังทบทวนและกำลังดำเนินการใหม่ด้วย ทั้งนี้จะมอบนโยบายและแนวทางปฏิบัติให้แก่ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ในวันที่ 14 ก.ย.นี้
สำหรับนโยบายเงินดิจิทัล เชื่อว่าพรรคเพื่อไทย จะใช้บล็อกเชน เป็นช่องทางในการจ่ายเงินให้กับประชาชน เพื่อให้สังคมได้ร่วมกันเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีดังกล่าว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ให้เกิดการใช้จ่ายหมุนเวียน ด้านนโยบายจำนำสินค้าต้องพิจารณานโยบายที่ผ่านมาก่อน เพราะการจำนำมีทั้งข้อดีและข้อเสีย โดยจะใช้ผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก อย่างไรก็ตามจะหารือกรอบการทำงานและนโยบายในอดีตที่ผ่านมา เพื่อเตรียมวางแผนงานของกระทรวงในระยะต่อไป
TCEB ขานรับนโยบายรัฐบาลใหม่ มุ่งขับเคลื่อนฟรีวีซ่า กระตุ้นเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมไมซ์
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB เปิดเผยว่า ทีเส็บพร้อมรับนโยบายรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยจะทำรายได้เข้าประเทศปีนี้ให้ได้ถึง 1 แสนล้านบาท ตลอดปีงบประมาณ 3 ไตรมาสแรกของปี 2566 ซึ่งปัจจุบันตลาดต่างประเทศทำรายได้รวมแล้วกว่า 50,000 ล้านบาท โดยได้ตั้งเป้าหมายปี 2567 วางตำแหน่งประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางตลาดไมซ์คุณภาพสูง ซึ่งสามารถขับเคลื่อนได้ทันทีที่รัฐบาลใหม่ประกาศเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ ทีเส็บเตรียมสนับสนุน 4 เรื่อง ประกอบด้วย ขับเคลื่อนเรื่องยกเว้นและ/หรือฟรีวีซ่า ซึ่งจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมไมซ์ของตลาดต่างประเทศที่เดินทางมาเข้าประเทศ อาทิ เป็นจำนวนมากอย่างสาธารณรัฐประชาชนจีน กำลังจะมีนักเดินทางเพื่อเป็นรางวัล จีนมาพัทยาของไทยปลายเดือนกันยายนนี้กว่า 5,000 คน รวมทั้งไมซ์ประเทศอื่นๆ ในทวีปไกลด้วย วางแผนกระตุ้นเศรษฐกิจไมซ์โดยพร้อมทำโรดโชว์และเทรดโชว์นำเอกชนกลุ่มผู้ประกอบการไมซ์ของไทยเดินทางไปทำตลาดทั่วโลก สนับสนุนการจัดงานเทศกาลยกระดับเป็นมหกรรมนานาชาติทำให้เกิด Festival Economy หรือผลตอบแทนกลับคืนสู่ระบบเศรษฐกิจประเทศกระจายลงสู่พื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ และวางกลยุทธ์พัฒนาไมซ์อย่างยั่งยืนและเร่งผลักดันอุตสาหกรรมไมซ์เข้าร่วมทำตามมาตรฐานคาร์บอนฟุตปริ๊นซ์และคาร์บอนเครดิต
8 กันยายน 2566
จับตาอินเดียงดส่งออกน้ำตาลทราย ส่งผลกระทบต้นทุนผลิตสินค้า
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากที่อินเดียประกาศระงับการส่งออกน้ำตาลในเดือนตุลาคมครั้งแรกในรอบ 7 ปี เนื่องจากได้รับปริมาณฝนในฤดูมรสุมต่ำสุดในรอบ 8 ปี โดยสภาพอากาศที่แห้งแล้งมีสาเหตุจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ซึ่งคาดว่าจะยังคงดำเนินไปต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 อาจส่งผลต่อต้นทุนการผลิตสินค้าหลายรายการ ทางกรมฯจะมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะน้ำตาลทรายถือเป็นต้นทุนในการผลิตสินค้าสำคัญหลายรายการ อาจผลกระทบทำให้ราคาสินค้าปรับสูงขึ้นได้ ทั้งนี้ สินค้าน้ำตาลทรายอยู่ในความดูแลของกระทรวงอุตสาหกรรม กรมการค้าภายในจะมีการประสานในเรื่องของข้อมูลสถานการณ์การผลิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมการวางแผนรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตกับราคาสินค้า
นายวัฒนศักย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับโครงสร้างต้นทุนราคาสินค้าแต่ละชนิดนั้น มีหลายส่วนหากจะมีการปรับราคาสินค้าจะต้องดำเนินการอย่างเหมาะสมไม่สามารถปรับราคาได้ทันที โดยเฉพาะสินค้าที่อยู่ในบัญชีควบคุม ทั้งนี้เพื่อเป็นการดูแลผู้บริโภคให้ได้รับความเป็นธรรม
สังคม
4 กันยายน 2566
เพิ่มหลักสูตรเน้นสร้างความรู้เรื่องโรคฝีดาษวานรแก่เยาวชน หลังพบเป็นกลุ่มอัตราป่วยเพิ่ม
นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์โรคฝีดาษวานรในประเทศไทยว่า ช่วง 2- 3 เดือนที่ผ่านมาพบการเปลี่ยนแปลงทางระบาดวิทยาจากเดิมทั่วโลกพบในวัยทำงานอายุเฉลี่ยที่ 30 ปลายๆ แต่ตอนนี้เริ่มพบกลุ่มที่อายุน้อยลง และเริ่มมีเด็กนักเรียน เยาวชนเพิ่มขึ้น แต่ยังเป็นกลุ่มเสี่ยงเดิมคือชายรักชายเป็นหลักและผู้ติดเชื้อ HIV แม้การเพิ่มขึ้นในของโรคฝีดาษนาวรในไทยจะไม่ได้เร็วเหมือนตอนที่เกิดการะบาดในยุโรป แต่ก็ยังเป็นอัตราเพิ่มเกือบ 2 เท่าในทุกๆ เดือน จึงต้องใช้ทุกมาตรการในการลดความเสี่ยงแพร่เชื้อ
มาตรการเชิงรุกสำคัญสุดตอนนี้คือ การป้องกัน เน้นสร้างความรู้ในกลุ่มเยาวชน ยกระดับจากที่เคยร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการอยู่แล้วในเรื่องการให้ความรู้นักเรียนเรื่องเพศศึกษาและการดูแลสุขภาพทางเพศ ได้เพิ่มมอีก 1 โรคเข้าไป ที่มีจุดเน้นพิเศษ เช่น การมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน เน้นเพศชายเป็นหลัก แต่ก็ให้ความรู้เพศหญิงคู่ไปด้วยเพราะแม้พบน้อยแต่ยังมีความเสี่ยงอยู่บ้าง ให้รู้ว่าโรคฝีดาษวานร ไม่ใช่แค่ใส่ถุงยางอนามัยจะป้องกันได้ เพราะถ้าดูจากผู้ป่วยที่ไปรับการรักษาที่ รพ. หลายๆ ราย มีตุ่มขึ้นบริเวณอื่นที่สัมผัสกันได้เมื่อมีกิจกรรมเนื้อแนบเนื้อ เช่น หน้าท้อง ก้น เป็นต้น จึงควรเลี่ยง หรืองดเว้นการมีเพศสัมพันธ์กับคนที่ไม่รู้จัก ไม่ได้ดูให้ละเอียดก่อนว่ามีแผล ตุ่ม ผื่น เข้าได้กับลักษณะของโรคหรือไม่ ดีสุดคือ เลี่ยงหรืองด การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัยไปเลย
สำหรับยารักษาโรคฝีดาษวานร นายแพทย์โสภณ กล่าวว่า ขณะนี้มียารักษา ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์การอนามัยโลก แต่เพราะเป็นยาที่ใช้ในการศึกษาจึงมีไม่มาก เนื่องจากยาดังกล่าวเป็นสำหรับฝีดาษคน ไม่ได้ขึ้นทะเบียนใช้กับฝีดาษวานรแต่แรก การใช้ต้องเก็บข้อมูลไปด้วยช่วงแรกจึงจ่ายที่สถาบันบำราศนราดูร แต่ขณะนี้ได้เริ่มกระจายไปยังจังหวัดที่พบผู้ป่วยเพิ่มแล้ว เช่น ชลบุรี ภูเก็ต และหากต้องการเพิ่มก็ขอสนับสนุนเพิ่มเติมได้ ส่วนเรื่องวัคซีนก็เช่นกันตอนนี้มีวัคซีนฝีดาษคน ซึ่งพบว่าเมื่อใช้กับฝีดาษวานรก็ได้ประโยชน์ในการป้องกันโรคด้วย จึงนับเป็นอีกเครื่องมือถัดไปที่จะนำมาใช้ แต่ต้องมาขึ้นทะเบียนกับ อย.ก่อน ขณะนี้ได้ประสานไปที่องคืการอนามัยโลกและประเทศที่มีบริการวัควีนนี้ รวมถึงใช้กลไกอาเซียน 10 ประเทศ ตามกรอบความร่วมมือด้านสาธารณสุขมาช่วยจัดหาวัคซีน ซึ่งคาดว่าน่าจะได้วัคซีนภายในปลายปีนี้
มหาเถรสมาคมสนับสนุนนำหลักสูตรสูงวัยประยุกต์หลักธรรมทางศาสนารับมือภัยมิจฉาชีพออนไลน์
นายยุทธศักดิ์ แก้วพระพาน ผู้ช่วยโฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า มหาเถรสมาคมได้รับทราบกรณีที่สำนักงานโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี หรือ มจร วัดไร่ขิง ร่วมกับกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ดำเนินโครงการสูงวัยอย่างสร้างสรรค์ รู้ทันมิจฉาชีพดิจิทัล เพื่อส่งเสริมให้เกิดสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ด้านการรู้เท่าทันจากภัยมิจฉาชีพดิจิทัลสำหรับผู้สูงอายุ และส่งเสริมความรู้ความเข้าใจข้อเท็จจริงภัยมิจฉาชีพดิจิทัล ประยุกต์และนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
โดยพัฒนาชุดความรู้หลักสูตรสูงวัยอย่างสร้างสรรค์ รู้ทันมิจฉาชีพดิจิทัล ที่มีการนำหลักธรรมศีล 5 มาเป็นเครื่องมือรู้เท่าทันและป้องกันการถูกหลอกลวงจากภัยมิจฉาชีพทางออนไลน์สำหรับผู้สูงอายุ และการพัฒนาแกนนำผู้สูงอายุ ประยุกต์หลักธรรมทางศาสนามารับมือและการป้องกันภัยจากมิจฉาชีพดิจิทัล โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายแกนนำกลุ่มผู้สูงอายุ จากโรงเรียนผู้สูงอายุทั่วประเทศ บูรณาการร่วมกับกรมกิจการผู้สูงอายุ เครือข่ายโรงเรียนผู้สูงอายุแห่งประเทศไทยและคณะสงฆ์ในพื้นที่ทั่วประเทศ มีการกำหนดจัดกิจกรรมอบรมในเขตปกครองคณะสงฆ์ทั้ง 4 หน ทั่วประเทศระหว่างเดือนมิถุนายน 2566 – มิถุนายน 2567
5 กันยายน 2566
กรมการจัดหางาน ห่วงประชาชนหลงเชื่อมิจฉาชีพสร้างลิงก์ปลอม หลอกให้โหลดแอป ‘Smart TOEA’
นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันมิจฉาชีพมีวิธีหลอกลวงผู้ใช้งานผ่านโซเชียลมีเดียในรูปแบบที่หลากหลายและซับซ้อนขึ้น ล่าสุดพบการแจ้งลิงก์ปลอมหลอกลวงให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ที่มีหน้าตาคล้ายแอปพลิเคชัน ‘Smart TOEA’ ของกรมการจัดหางาน จึงขอเตือนประชาชนที่ต้องการใช้งานแอปพลิเคชัน ‘Smart TOEA’ ห้ามดาวน์โหลดผ่านลิงก์โดยเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัย หากต้องการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันดังกล่าว สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store สำหรับระบบ iOS และ Play Store สำหรับระบบ Android หรือหากพบพฤติการณ์ดังกล่าวให้ติดต่อสอบถามกับกรมการจัดหางานโดยตรงที่ สายด่วน 1506 กด 2
สำหรับแอปพลิเคชัน Smart TOEA เป็นระบบบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ ที่อำนวยความสะดวกให้กับคนงานไทยที่ต้องการบัตรเดินทางไปทำงานต่างประเทศ บัตรกองทุน ข้อมูลประวัติการทำงานและการได้รับอนุญาตให้ไปทำงานต่างประเทศ รวมถึงสามารถเช็คแจ้งการเดินทางขาเข้า-ออก และรองรับระบบการชำระค่าสมัครสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศด้วย
6 กันยายน 2566
เตือนประชาชนไม่หลงเชื่อเพจปลอม แอบอ้างรับทำใบขับขี่โดยไม่ต้องสอบด้วยตนเอง
ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมและกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีที่มีโฆษณาในสื่อออนไลน์ระบุว่า กรมการขนส่งทางบกเปิดรับทำใบขับขี่โดยไม่ต้องสอบเองที่ขนส่ง ผ่านเพจสอบใบขับขี่ด่วน. Online โดยได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า เพจ “สอบใบขับขี่ด่วน. Online” ไม่ใช่เพจของกรมการขนส่งทางบก แต่เป็นการแอบอ้างของมิจฉาชีพ ซึ่งกรมการขนส่งทางบก ไม่มีนโยบายทำใบขับขี่ออนไลน์ตามที่ถูกกล่าวอ้าง
ทั้งนี้ สำหรับการขอรับใบอนุญาตขับรถทุกชนิด มีมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศคือ ผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถต้องดำเนินการด้วยตนเองทุกขั้นตอนที่สำนักงานขนส่ง ตั้งแต่การตรวจสอบเอกสาร การทดสอบสมรรถภาพของร่างกาย การอบรม การทดสอบข้อเขียน การทดสอบขับรถและการถ่ายรูปเพื่อออกใบอนุญาตขับรถ
ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม สามารถติดตามข้อมูลได้ที่ เว็บไซต์ www.dlt.go.th หรือ โทร. 02-271-8888
ขยายเวลาฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เพื่อผู้ประกันตนม.33 ม.39 ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ฟรีจนถึงสิ้นปี 2566
นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า สำนักงานประกันสังคมจัดให้มีการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ เพื่อให้การคุ้มครองดูแลผู้ประกันตนมาตรา 33 และผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ได้เข้าถึงการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ณ สถานพยาบาลตามสิทธิในสถานพยาบาลโครงการสำนักงานประกันสังคมทุกแห่ง ซึ่งกำหนดฉีดวัคซีนปีละ 1 ครั้ง วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ชนิด 3 สายพันธุ์ หรือ 4 สายพันธุ์
ล่าสุด คณะกรรมการประกันสังคม ได้มีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้กับผู้ประกันตน ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 จากเดิมสิ้นสุด 31 สิงหาคม ของทุกปี และในปี 2567 เปิดฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ผู้ประกันตนสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้ที่สถานพยาบาลตามสิทธิของผู้ประกันตนได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ผู้ประกันตนที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ที่มีความประสงค์จะฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ควรติดต่อนัดหมายการฉีดวัคซีนกับสถานพยาบาลตามสิทธิก่อนเข้ารับบริการ กรณีสถานพยาบาลตามสิทธิของผู้ประกันตนไม่มีวัคซีนไข้หวัดใหญ่ สามารถติดต่อสำนักงานประกันสังคม โทรศัพท์ 0 2956 2502 และ 2510 กรณีมีโรคประจำตัว หรือมีประวัติการแพ้วัคซีน แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนการเข้ารับบริการ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทรสายด่วน 1506 ให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
7 กันยายน 2566
นายกรัฐมนตรี ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญกับสตรี หวังสร้างความเท่าเทียม
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดโอกาสให้ 14 หน่วยงานเข้าพบ อาทิ สมาคมสตรีไทยดีเด่นแห่งชาติ สมาคมชาวเหนือแห่งประเทศไทย สมาคมไหหลำ สมาคมนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย- เพชรบุรี กงสุลกิตติมศักดิ์ สหรัฐเม็กซิโก ประจำจังหวัดภูเก็ตเขตกงสุลภูเก็ต พังงา กระบี่ และนางเยาวเรศ ชินวัตร ที่มาร่วมอวยพรและแสดงความยินดีในการเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณทุกคำอวยพร ซึ่งเป็นกำลังใจอันยิ่งใหญ่สำหรับภารกิจที่หนัก แต่ดีใจที่ภาคสตรีเข้าใจว่ารัฐบาลของประชาชน ที่จะเข้ามาบริหารจัดการให้เร็วๆ นี้ ไม่ได้ดูแค่เศรษฐกิจอย่างเดียว โดยจะดูเรื่องของความเท่าเทียม สิทธิของสตรีด้วย ซึ่งในปัจจุบันนี้ประเทศประสบปัญหาเยอะ ไม่ใช่แค่เรื่องเศรษฐกิจเพียงเรื่องเดียว แต่ยังรวมถึงความไม่เสมอภาค ความไม่เท่าเทียม ถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องเยียวยาจิตใจประชาชนทุกภาคส่วน รัฐบาลของเราเป็นรัฐบาลของประชาชน มีความตั้งใจจริงที่จะนำมาซึ่งความเสมอภาคเท่าเทียมและให้ความสำคัญกับสตรี การเข้ามาในวันนี้ก็จะสามารถลดทอนว่า ไม่ได้พุ่งเป้าไปที่เศรษฐกิจอย่างเดียว แต่มุ่งไปที่สังคมความเท่าเทียมถือเป็นเรื่องที่สำคัญ
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวขอบคุณ กงสุลกิตติมศักดิ์ สหรัฐเม็กซิโก ประจำจังหวัดภูเก็ต เขตกงสุลภูเก็ต พังงา กระบี่ ที่เดินทางไกลมาพบ ซึ่งเรื่องการท่องเที่ยวเป็นอีกเรื่องสำคัญ จึงอยากฝากการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวไว้ด้วย จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้รับมอบช่อดอกไม้จากแต่ละหน่วยงานที่นำมามอบให้
ผู้ประกันตนให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพช่องปาก ใช้บริการทำฟันสิทธิประกันสังคมแล้วกว่า 2 แสนราย
นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวถึงการดำเนินงาน ด้านสิทธิประโยชน์กรณีผู้ประกันตนมาใช้บริการระบบทันตกรรมประกันสังคมแบบ “ไม่ต้องสำรองจ่าย” ล่าสุดเดือนสิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา มียอดผู้ประกันตนมาใช้บริการแล้วกว่า 255,000 ครั้ง สำนักงานประกันสังคมจ่ายประโยชน์ทดแทนไปแล้วกว่า 228 ล้านบาท
โดยข้อมูลตัวเลขผู้ประกันตนที่มาใช้บริการกรณีทันตกรรมดังกล่าว จะเห็นว่าจำนวนการใช้สิทธิของผู้ประกันตนมีปริมาณสูงมาก แสดงให้เห็นถึงความพึงพอใจในระบบจ่ายตรงให้กับสถานพยาบาลที่เข้าร่วมให้บริการแก่ผู้ประกันตน
เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวย้ำสิทธิผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 สามารถใช้สิทธิประโยชน์กรณีทันตกรรม อุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูน ผ่าฟันคุด โดยไม่ต้องสำรองจ่ายในวงเงินไม่เกิน 900 บาทต่อคนต่อปี โดยให้สังเกต ป้ายสติกเกอร์ที่ระบุว่า สถานพยาบาลแห่งนี้ให้บริการผู้ประกันตนกรณีทันตกรรม “ทำฟัน” ไม่ต้องสำรองจ่าย
สำหรับกรณีผู้ประกันตนเข้ารับบริการกรณีทันตกรรม ในสถานพยาบาลที่ไม่ได้ทำความตกลงเรื่องการเบิกจ่าย ผู้ประกันตนสามารถยื่นขอรับประโยชน์ทดแทน ผ่านออนไลน์ได้เพียงแนบไฟล์ผ่านเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th พร้อมหลักฐานประกอบด้วย ใบเสร็จรับเงิน ใบรับรองแพทย์ พร้อมสำเนาสมุดบัญชีธนาคาร ประเภทออมทรัพย์ หน้าแรกที่มีชื่อ และเลขที่บัญชีของผู้ประกันตน หรือยื่นต่อสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขาทั่วประเทศ ภายใน 2 ปี นับแต่วันที่เข้ารับบริการที่ระบุไว้ใน ใบเสร็จรับเงินและใบรับรองแพทย์ ผู้ประกันตนมีข้อสงสัยติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการสายด่วน 1506 ให้บริการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการตลอด 24 ชั่วโมง
8 กันยายน 2566
มุ่งปลูกฝังค่านิยมอันดีของสถาบันพระมหากษัตริย์ สร้างความเข้าใจให้กับเด็กและเยาวชน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงแนวทางปกป้องสถาบัน เป็นความภาคภูมิใจที่เรามีสถาบันพระมหากษัตริย์ เราจะให้สถาบันกษัตริย์ถูกลบหลู่ดูหมิ่นไม่ได้ ส่วนเรื่องการศึกษาต้องให้เยาวชนของชาติ ต้องภูมิใจในสถาบันหลักของชาติ ที่เป็นมาโดยช้านาน แก้ไขวิกฤตการณ์ของชาติมามากมาย ตนเองเล่าเรียนมาจึงรู้สึกหวงแหน และภูมิใจที่เรามีสถาบันอันเป็นที่รักของชาติอยู่ หลังจากนี้คงจะต้องมีการสังคายนาและปลูกฝังค่านิยมที่ดีเหล่านี้ต่อไป พร้อมสร้างความเข้าใจให้กับเด็กและเยาวชน
ขับเคลื่อนการจัดตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนแบบเบ็ดเสร็จ ขยายการเชื่อมโยงฐานข้อมูลเรื่องร้องทุกข์
นายอิทธิพล ช่างกลึงดี ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดโครงการขับเคลื่อนการจัดตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนแบบเบ็ดเสร็จว่า การขับเคลื่อนการจัดตั้งศูนย์การร้องเรียนแบบเบ็ดเสร็จ เป็นหนึ่งในงานบริการ Agenda โครงสร้างพื้นฐานการให้บริการประชาชน ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ในการเชื่อมโยงฐานข้อมูลเรื่องราวร้องทุกข์ ให้เป็นฐานข้อมูลเดียวกันทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันมี 18 หน่วยงาน ที่เชื่อมโยงฐานข้อมูลเรื่องร้องทุกข์กับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี อาทิ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงพลังงาน เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเรื่องร้องทุกข์ให้ประชาชนสามารถร้องเรียน ติดตาม ตรวจสอบสถานะและรับแจ้งผลการร้องเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา ได้อย่างเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ อีกทั้งผู้ปฏิบัติงานจะสามารถตรวจสอบความซ้ำซ้อนและประสานการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว
สำหรับการประชุมเชิงปฏิบัติการในวันนี้ เพื่อทบทวนแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนการเชื่อมโยงข้อมูลเรื่องร้องทุกข์และกำหนดเป้าหมายการเชื่อมโยงในปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ต่อยอดการดำเนินการ โดยขยายผลไปยังหน่วยงานในระดับท้องถิ่น จึงเชิญชวนส่วนราชการที่มีความพร้อมเข้าร่วมเป็นหน่วยงานเป้าหมายในการเชื่อมโยงฐานข้อมูลกับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ความเดือดร้อนของประชาชน ได้รับการแก้ไขในเบื้องต้นที่ระดับท้องถิ่น เป็นการบูรณาการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งในระดับส่วนกลาง ภูมิภาคและระดับท้องถิ่นให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นการขับเคลื่อนแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทย พ.ศ. 2566 - 2567 อีกด้วย
กรมอนามัยเตือน ใช้แปรงสีฟันไม่ได้คุณภาพ อาจทำให้ฟันสึก เกิดแผลในช่องปาก
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า แปรงสีฟันเป็นอุปกรณ์พื้นฐานสำคัญที่สุด ในการทำความสะอาดช่องปาก การใช้แปรงสีฟันไม่ได้คุณภาพ ไม่มีประสิทธิภาพ อาจทำให้ฟันสึก เหงือกร่น เกิดการระคายเคืองต่อขอบเหงือก เกิดแผลในช่องปากและหากแรงยึดกระจุกขนแปรงกับหัวแปรงต่ำกว่ามาตรฐาน อาจทำให้ขนแปรงหลุดจากหัวแปรงในขณะใช้งานได้ จึงแนะนำประชาชนใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงนุ่ม ปลายขนแปรงไม่คม มีขนาดพอเหมาะกับช่องปาก โดยอ่านฉลากแปรงสีฟันก่อนซื้อ ซึ่งจะระบุเรื่องความอ่อนนุ่มของขนแปรง ลักษณะปลายขนแปรง วัสดุที่ใช้ผลิตและอายุที่เหมาะสมสำหรับแปรงสีฟันเด็กเพื่อความปลอดภัยของสุขภาพฟันและเหงือก รวมทั้งเลือกแปรงสีฟันที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานกรมอนามัย
ทันตแพทย์หญิงวรางคนา เวชวิธี ผู้อำนวยการสำนักทันตสาธารณสุข กล่าวว่า นอกจากเลือกแปรงสีฟันคุณภาพแล้ว เมื่อแปรงฟันเสร็จ ต้องล้างให้สะอาด สะบัดแปรงสีฟันให้น้ำออกให้หมด เก็บในที่แห้ง มีอากาศถ่ายเท โดยวางแปรงสีฟันในแนวตั้งและไม่ควรเก็บในกล่องเก็บหัวแปรง เพราะจะแห้งยาก เกิดการสะสมของเชื้อโรคได้ ไม่ควรเก็บแปรงสีฟันรวมๆ กัน เพราะหากมีผู้ป่วย จะเป็นการแพร่เชื้อโรคและควรเปลี่ยนแปรงสีฟันทุก 3 เดือน
ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : ธนพิชฌน์ แก้วกา
ผู้เรียบเรียง : ธนพิชฌน์ แก้วกา
แหล่งที่มา : หน่วยงานสำนักข่าว