ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค พบ สูงสุดรอบ 39 เดือน ในช่วง พ.ค. ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจากภาคการท่องเที่ยว

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยว่า การปรับตัวดีขึ้นของดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคของผู้บริโภค ที่ปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 55.0 เป็น 55.7 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 และอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 39 เดือนนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 เป็นต้นมา เนื่องจากผู้บริโภครู้สึกว่าเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้นหลังจากที่การท่องเที่ยวฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจน ตลอดจนบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งที่คึกคักทั่วประเทศ ส่งผลให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศมากขึ้นและกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภูมิภาคต่างๆ ปรับตัวดีขึ้น
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวม และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ระดับ 50.2 52.8 และ 64.2 ตามลำดับ ปรับตัวดีขึ้นทุกรายการเมื่อเทียบกับดัชนีในเดือนเมษายน ที่อยู่ในระดับ 49.4 52.0 และ63.6 ตามลำดับ
โดยภาพรวม ความเชื่อมั่นยังเป็นขาขึ้น แต่ก็ขึ้นได้ไม่แรงนัก เพราะคนยังห่วงภาพอนาคตว่าจะมีความเสี่ยงมากน้อยเพียงใด ทั้งจากความไม่แน่ใจในเสถียรภาพการเมืองที่อาจจะยาวไปถึงสิ้นปี ต้นทุนค่าครองชีพที่ยังสูง ทำให้เกิดความระมัดระวังในการใช้จ่าย จึงทำให้ขณะนี้การเมืองเข้ามาปกคลุมเศรษฐกิ ต้องรอให้ผ่านไปสัก 3-4 เดือน ถึงจะมองได้ว่าความเชื่อมั่นจะกลับมาได้มากน้อยขนาดไหน
อย่างไรก็ตาม การที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยรวมยังคงเคลื่อนไหวคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 100 แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคยังคงเห็นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมยังคงฟื้นตัวช้าจากวิกฤต COVID-19 อัตราเงินเฟ้อสูงและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในประเทศไทยและทั่วโลก
ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : กันยกร ครุฑวงษ์
ผู้เรียบเรียง : อรจินดา บุรสมบูรณ์
แหล่งที่มา : สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย