สรุปข่าวประจำสัปดาห์ (22-26 พฤษภาคม 2566)
views
2234
สรุปข่าวประจำสัปดาห์ (22-26 พฤษภาคม 2566)
การเมือง/มั่นคง
22 พฤษภาคม 2566
การลงนาม MOU ตั้งรัฐบาล เป็นการยกระดับการเมืองไทยให้ทำงานร่วมกันได้ 4 ปี
นาวาอากาศตรี ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย ยืนยันว่า การลงนาม MOU ในการจัดตั้งรัฐบาลถือเป็นสิ่งที่ดี เปรียบเสมือนการยกระดับการเมืองไทยให้สูงขึ้นอีกระดับ เพราะมีข้อตกลงกัน ว่าจะบริหารประเทศไปในทิศทางใดและเห็นพ้องต้องกันจะทำให้ดำเนินการในรอบ 4 ปีข้างหน้าราบรื่น ส่วน ส.ว.ที่เป็นเงื่อนไขสำคัญในการเลือกนายกรัฐมนตรี หากคิดด้วยเหตุและผล เชื่อว่า ในสายตาประชาชนหรือสิ่งที่สะท้อนออกมาทางโลกออนไลน์ จะเห็นเป็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ร้อยละ 60 น่าจะสนับสนุนให้ประชาธิปไตยเดินหน้าไปได้ ส่วนที่จะมีการชุมนุมกดดัน ส.ว.ที่รัฐสภา ไม่ขอแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวที่พรรคพลังประชารัฐ จะยุบพรรครวมกับเพื่อไทย เพื่อให้จัดตั้งรัฐบาลว่า ไม่เคยรับรู้และปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ยืนยัน การยุบรวมพลังประชารัฐเป็นไปไม่ได้ ยืนยันครั้งที่ 501 ว่า เพื่อไทย ยึดมั่นตามเจตนารมณ์ที่ประกาศ ให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30
นายวสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทรวมพลัง ยืนยันว่า ร่างข้อตกลงที่ 23 ข้อ ไม่ได้เป็นข้อผูกมัดที่ทำให้พรรครู้สึกอึดอัด เชื่อมั่นว่า ทุกพรรคสามารถพูดคุยกันได้ ทุกคนยอมถอยคนละก้าวสองก้าว เพื่อที่จะก้าวได้ไกลกว่าเดิม ซึ่งตอนนี้ทุกคนก็ช่วยกันประคับประคอง ให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้เป็นนายกรัฐมนตรีและสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้
ทั้งนี้ ยืนยันว่า บรรยากาศของพรรคร่วมรัฐบาล ไม่มีความขัดแย้งและไม่กังวลในเรื่องของเสียงของสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งทุกคนอยู่ระหว่างการเจรจาต่อรอง และเชื่อว่า ส.ว. น่าจะเข้าใจถึงความต้องการของประชาชนและเชื่อว่าจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้
23 พฤษภาคม 2566
รองนายกรัฐมนตรี แจ้งไทม์ไลน์หลังเลือกตั้ง คาดได้นายกรัฐมนตรี ต้นเดือนสิงหาคมนี้
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้แจ้งไทม์ไลน์หลังการเลือกตั้งจนถึงวันที่จะมีการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ให้ที่ประชุม ครม. รับทราบว่า หลังจากนี้ต้องรอการประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง ภายใน 60 วัน หรือต้องประกาศภายในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ ซึ่งคาดว่า การรายงานตัวของ ส.ส.วันสุดท้ายจะอยู่ที่วันที่ 20 กรกฎาคม และหลังจากนั้นจะมีการประชุมเพื่อเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ในเบื้องต้น คาดว่า จะเกิดขึ้นวันที่ 25 กรกฎาคมนี้ หลังจากนั้น สัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคม หลังมีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานสภาผู้แทนราษฎร จะมีการเลือกนายกรัฐมนตรี สัปดาห์ที่ 2 คาดว่า จะมีการตั้งคณะรัฐมนตรีได้ และมีการถวายสัตย์ ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลปัจจุบัน จะสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่ประมาณกลางเดือนสิงหาคม
อำนาจการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีของ ส.ว.จะสิ้นสุด 11 พฤษภาคม 2567 แต่เชื่อว่า พรรคก้าวไกล คงไม่ยื้อเวลา
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงอำนาจการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีของสมาชิกวุฒิสภา ว่า อำนาจของสมาชิกวุฒิสภาในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีจะสิ้นสุดหลังสมาชิกวุฒิสภา ครบวาระ 5 ปี คือ วันที่ 11 พฤษภาคม 2567 แต่ยังคงอยู่รักษาการต่อไป แต่เชื่อว่า พรรคก้าวไกล คงไม่ยืดเวลาการโหวตเลือก นายกรัฐมนตรี ยาวนานขนาดนั้น เพราะประเทศคงอยู่ไม่ได้
นายวิษณุ ยังกล่าวถึง พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ที่เลื่อนเวลาบังคับใช้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา หลังจากมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อ้างเหตุผลเรื่องงบประมาณและความพร้อมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า กรณีดังกล่าวหากรัฐบาลยังอยู่และรัฐสภายังอยู่ รัฐบาลก็จะต้องแสดงความรับผิดชอบ โดยวิธีหนึ่งคือ ลาออก แต่เมื่อมีการยุบสภา และรัฐบาลสิ้นสุดแล้ว และรัฐธรรมนูญ ระบุให้รัฐบาลรักษาการ รัฐบาลก็ต้องอยู่รักษาการเพื่อทำงานต่อไป เพราะไม่สามารถตั้งรัฐมนตรีใหม่ได้ ความรับผิดชอบส่วนนี้หมดไปพร้อมกับการยุบสภา แม้รัฐมนตรีที่รักษาการจะสามารถลาออกได้ แต่ปลัดกระทรวงจะขึ้นมาทำหน้าที่แทนรัฐมนตรีในการบริหารประเทศไม่ได้ ได้เพียงกรณีเดียวคือ กรณีมาตรา 142 กรณีการเสนองบประมาณผิดและศาลพิพากษาให้ ครม. ทั้งหมดสิ้นสุดลงและให้ปลัดกระทรวงรักษาการแทนได้
นายกรัฐมนตรี ไม่ขอแสดงความเห็นการลงนามบันทึกความเข้าใจการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่าช่วงนี้ต้องรักษาสถานการณ์ให้เป็นปกติมากที่สุด ขอร้องให้ทุกคนอยู่ในความสงบเรียบร้อย เพราะอยู่ในขั้นตอนการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ซึ่งในการประชุมคณะรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำเรื่องผลงานต่างๆ ของรัฐบาล เตรียมการให้ดี เพราะวันหน้าต้องมีการส่งมอบให้รัฐบาลใหม่ ยังมีอีกหลายขั้นตอน พร้อมยอมรับช่วงนี้มีอย่างเดียวที่เป็นปัญหาคือ การใช้จ่ายงบประมาณใหม่ ยังไม่สามารถทำได้ เพราะจะเป็นภาระผูกพันธ์กับรัฐบาลใหม่ จึงจัดทำโครงการใหม่ๆ ไม่ได้ เพราะงบประมาณไม่มี ต้องประสานคณะกรรมการการเลือกตั้งและได้รับความเห็นชอบกลับมา จึงสามารถทำได้
พลเอก ประยุทธ์ ไม่ขอแสดงความเห็นเรื่องคุณสมบัติรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนใหม่ รวมถึงการลงนามบันทึกความเข้าใจ หรือ MOU ในการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล และกรณีมีเสียงสนับสนุนให้ตนเองได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ หากสูตรจัดตั้งรัฐบาลอื่นๆ ไม่สามารถดำเนินการได้ ส่วนในโซเชียลมีเดียได้ปลุกระดมชุมนุมกดดันสมาชิกสภา หรือ ส.ว. ที่หน้ารัฐสภาในวันนี้ ไม่จำเป็นต้องสั่งการอะไร เพราะฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายกฎหมายได้ดำเนินการตามหน้าที่และไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าการชุมนุมจะสุ่มเสี่ยงไปถึงอนาคตหรือไม่ เพราะเหตุการณ์ยังไม่เกิด หากนำไปขยายความต่อจะทำให้บ้านเมืองเกิดความเสียหาย ย้ำว่าจะทำหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรีให้ดีที่สุดและอยากเห็นบ้านเมืองสงบ พร้อมกันนี้ ยังปฏิเสธได้พูดคุยอนาคตทางการเมืองกับพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เพราะพูดคุยแต่เรื่องงานที่ได้รับมอบหมายในความรับผิดชอบ
24 พฤษภาคม 2566
โฆษกพรรคก้าวไกล ย้ำตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรจะเป็นของพรรค
นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า เป็นความเห็นที่สอดคล้องกับนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค ที่ได้เคยแสดงความเห็นไว้ เพราะตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นตำแหน่งที่พรรคก้าวไกลต้องการรักษาไว้ ซึ่งในอดีตพรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้งลำดับที่ 1 จะรักษาตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรไว้ เพื่อผลักดันกฎหมายต่างๆ ดังนั้น พรรคก้าวไกล จึงยืนยันว่าตำแหน่งดังกล่าวพรรคก้าวไกลจะขอเอาไว้เอง ส่วนมีพรรคการเมืองใดมาต่อรองตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่ ส่วนตัวยังไม่ทราบ แต่เบื้องต้นพรรคก้าวไกลได้ประกาศมาหลายครั้ง และยืนยันในเรื่องนี้มาโดยตลอด ซึ่งเลขาธิการพรรคเป็นผู้รับผิดชอบดูแลการเจรจา รวมทั้งยืนยันขณะนี้ในพรรคยังไม่ได้พูดคุยถึงตัวบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งดังกล่าว
โฆษกพรรคก้าวไกล ยังกล่าวถึงนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 450 บาท ที่มีการประเมินยังไม่สามารถปรับได้ทันทีตามที่หาเสียงไว้ว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ได้อธิบายขั้นตอนการดำเนินการไว้แล้วว่าจะเป็นอย่างไร ส่วนจากนี้จะต้องมีการปรับแนวทางการสื่อสารเพื่อรับมือกับกระแสโจมตี ยอมรับว่าจะต้องมีการปรับตลอดเวลา เพราะประชาชนคาดหวังต่อพรรคไว้สูง จึงจะต้องสร้างความเข้าใจ
หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยืนยันไม่ได้กังวลกับการเลือกตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร
นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความระบุว่าตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรควรเป็นของพรรคก้าวไกลว่า เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลและเป้าหมายแรกคือการเลือกนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมรัฐสภา ส่วนเรื่องตำแหน่งอยู่ที่การเจรจาพูดคุยตามความเหมาะสม ซึ่งส่วนตัวมองว่าพรรคเพื่อไทยที่ทำงานมามากกว่า 22 ปี มีบุคลากรที่มีประสบการณ์ มีความพร้อมแน่นอน โดยหลังจากนี้ต้องรอแกนนำนัดหารือในเรื่องนี้อีกครั้ง เพราะการแสดงความเห็นในขณะนี้จะเป็นการกดดันและไม่เหมาะสม ส่วนกรณีของนายศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคไทยสร้างไทย ตั้งคำถามในวันแถลงจัดตั้งรัฐบาล ว่า หากมีเจตนาตามที่หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยกล่าวถือเป็นเรื่องดี แต่ที่มองว่าเสียมารยาทเพราะเป็นหนึ่งในบุคคลที่ได้เห็นร่างข้อตกลง MOU แล้ว จึงไม่ควรเป็นผู้ตั้งคำถามและประเด็นที่สองที่ทำให้ไม่พอใจคือการนำไปโพสต์ลง Facebook ส่วนตัว ว่า ตนเองพูดลับหลังหรือการใส่ร้ายกัน ทำให้การทำงานของพรรคลำบากมากขึ้น ทั้งยังไม่ได้มีการขอโทษ พร้อมขอให้ออกมาพูดความจริงเพื่อที่จะได้ทำงานด้วยกันต่อไป
หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวอีกว่า การขึ้นค่าแรงที่เป็นหนึ่งในนโยบายของพรรคก้าวไกลเป็นนโยบายเฉพาะของพรรค ไม่ขอก้าวก่าย และพรรคเพื่อไทยเองก็มีนโยบายเฉพาะเช่นกัน และที่ยังไม่ได้เสนอเพราะไม่อยากไปกดดัน มองว่าหากนโยบายที่มีผลกระทบกับระบบประชาธิปไตยก็ไม่อยากให้มีในข้อตกลง MOU แต่ได้แจ้งต่อพรรคแกนนำแล้วแต่หากไม่ได้รับการปรับแก้ก็ไม่เป็นไร
พลเอก ประวิตร ย้ำยังเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมปฏิเสธตอบคำถามจะขับเคลื่อนทางการเมืองต่อหรือไม่
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวกรณีพรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ จะทำให้พรรคพลังประชารัฐ เป็นตัวแปรสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาลต่อไป ว่ายังไม่ทราบอะไรตอนนี้ ตนเองยังอยู่เป็นหัวหน้าพรรคและยืนยันยังเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเหมือนเดิม พร้อมปฏิเสธตอบคำถามถึงความพร้อมของตนเองและพลเอก ประยุทธ์ ในการขับเคลื่อนทางการเมืองต่อไปหรือไม่
รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ห่วงหลายนโยบายก้าวไกลทำได้ยาก แนะนำต้องมีความยืดหยุ่นและปรับตัว
นายธนกร วังบุญคงชนะ ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาททำทันทีที่เป็นรัฐบาลของพรรคก้าวไกล ว่า จากที่ฟังความเห็นของผู้ประกอบการ เช่น รองประธานสภาหอการค้าไทย และสภาอุตสาหกรรม ได้ออกมาให้ความเห็นไปแล้วว่าอาจจะส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการ บริษัทต้องปิดตัวลงจำนวนมากอย่างแน่นอน เข้าใจว่า ว่าที่นายกรัฐมนตรี คงต้องปรับตัว ไม่ว่านโยบายที่จะทำทันที ทำ 100 วัน เมื่อเป็นรัฐบาลพรรคร่วม หรือกำลังจะเป็นนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคก้าวไกลต้องยึดหยุ่น รวมทั้งยังมีอีกหลายนโยบายที่น่าเป็นห่วง เพราะว่าทำได้ยาก แต่ทั้งหมดต้องให้โอกาสพรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ยังมีอีกหลายขั้นตอน นอกจากนี้ ยังไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวกดดันสมาชิกวุฒิสภา ให้โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะเกรงว่าจะเกิดปัญหาความขัดแย้งแบบเดิม ซึ่งพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา แสดงความเป็นห่วงเรื่องนี้ ไม่อยากให้เกิดการชุมนุม หรือความรุนแรง หวังว่าวิธีการพูดคุยและเจรจา จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
25 พฤษภาคม 2566
รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงความคืบหน้าพรรคร่วมรัฐบาลมั่นใจพรรคเพื่อไทยจะร่วมรัฐบาลต่อไป
นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงความคืบหน้าการเจรจากับพรรคร่วมรัฐบาลว่า การจัดตั้งรัฐบาลมีผลในทิศทางที่ดี โดยเฉพาะการเจรจากับสมาชิกวุฒิสภา ที่ขณะนี้มี 3 วาระต้องการจะผลักดัน หลังการจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จคือ การลงมติเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร และการจัดตั้งสภาเยาวชนที่ขึ้นตรงกับสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดยตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรจำเป็นต้องมีพรรคก้าวไกลในการได้รับตำแหน่ง เนื่องจากวาระที่ผลักดันต้องอาศัยอำนาจการบริหาร ส่วนตำแหน่งรัฐมนตรีจะมีการเจรจากับพรรคร่วมต่อไปจากกรณีพรรคเพื่อไทยกับพรรคไทยสร้างไทยที่เกิดปัญหากัน ไม่น่ามีผลกระทบต่อการร่วมจัดตั้งรัฐบาล มั่นใจพรรคเพื่อไทยยังร่วมงานต่อไป
รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ยังกล่าวอีกว่า ต่อจากนี้จะเป็นการเจรจาจัดแบ่งรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลและหารือนโยบายที่เห็นร่วมและที่เห็นต่าง โดยเฉพาะเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาท พร้อมหารือเพื่อไทยเกี่ยวกับนโยบายดิจิทัลวอลเล็ท 10,000 บาท ส่วนเรื่องการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดให้โทษ ยืนยันจะคุ้มครองผู้ประกอบการและผู้ปลูกอย่างถูกกฎหมาย โดยจะออกประกาศต่อไป ซึ่งกระบวนการทั้งหมดจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 100 วันหลังจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ
ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เห็นว่าผู้ที่จะดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรต้องมีความรู้เรื่องกฎหมาย
นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงภาพรวมการจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำว่า ต้องรอดูทั้ง 8 พรรคการเมือง หลังจากที่ลงนามข้อตกลงร่วม (MOU) ในการจัดตั้งรัฐบาลแล้วว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ส่วนการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีในส่วนของพรรคยังไม่มีข้อสรุป เพราะยังมีขั้นตอนอีกหลายอย่างกว่าจะไปถึงขั้นตอนดังกล่าว จะรอคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส. และการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรก่อน และส่วนตัวเห็นว่าผู้ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรต้องมีความรู้เรื่องกฎหมายพอสมควร อย่างที่ผ่านมา นายชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร วางมาตรฐานไว้ดีมากทั้งแม่นข้อกฎหมายและข้อบังคับการประชุม มีแนวทางทำบรรยากาศที่ตรึงเครียดให้ผ่อนคลายลง ซึ่งได้วางประธานสภาผู้แทนราษฎรไว้สูงและน่าจะเป็นตัวอย่างให้ผู้ที่ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรคนต่อๆ ไป ได้ใช้เป็นตัวอย่าง
ขยายเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่ออีก 3 เดือน เพื่อคงความต่อเนื่อง
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน (กบฉ.) ครั้งที่ 2/2566 ณ ห้องประชุมมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยที่ประชุมได้รับทราบผลการปฏิบัติงานตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ) พ.ศ. 2548 ห้วงวันที่ 20 มีนาคม -15 พฤษภาคม 2566 และแนวโน้มสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีความสงบเรียบร้อยมากขึ้นตามลำดับ สามารถพัฒนาไปสู่การปรับลดพื้นที่ออกจากการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯได้มากขึ้นในโอกาสต่อไป
ที่ประชุมพิจารณาเห็นชอบ (ร่าง)แผนการปฏิบัติการปรับลดพื้นที่การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ปี 66-70) เพื่อให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบและใช้เป็นแนวทางการปฏิบัติงานในพื้นที่ต่อไป เห็นชอบให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยกเว้น อ.ศรีสาคร ,อ.สุไหโกลก ,อ.แว้ง ,อ.สุคิริน จ.นราธิวาส อ.ยะหริ่ง ,อ.มายอ ,อ.ไม้แก่น ,อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี และ อ.เบตง ,อ.กาบัง จ.ยะลา ออกไปอีก 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน และสิ้นสุด 19 กันยายน 2566 เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เป็นการป้องกัน ระงับ ยับยั้งเหตุการณ์ในพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งจะเป็นประโยชน์ต่อการดูแลรักษาความสงบและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่อไปด้วย
26 พฤษภาคม 2566
ไทย-โปแลนด์ ยืนยันสานต่อความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิด กระชับความร่วมมือ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้การต้อนรับนายวัลแดมาร์ ดูบายอฟสกี เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐโปแลนด์ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ ในโอกาสพ้นจากหน้าที่ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่าย ยืนยันสานต่อความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและในโอกาสครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตฯ ยังได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างกัน เพื่อเป็นกรอบความร่วมมือด้านการส่งเสริมการค้าและการลงทุน ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวและกีฬา
นายกรัฐมนตรี ยินดีที่ไทยเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวของชาวโปแลนด์ รวมถึงกีฬามวยไทยยังได้รับความนิยมและจะมีการแข่งขันมวยไทยใน European Games 2023 ซึ่งโปแลนด์จะเป็นเจ้าภาพด้วย และพร้อมส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาของทั้งสองประเทศในสาขาด้านการแพทย์เพิ่มเติมในอนาคต
สำหรับความร่วมมือกรอบพหุภาคี นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยเสนอให้จังหวัดภูเก็ตเป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialised Expo ในปี 2028 ซึ่งจะเป็นเวทีนำเสนอทางออกและแลกเปลี่ยนความร่วมมือสู่ความยั่งยืน จึงขอรับการสนับสนุนจากโปแลนด์ เพื่อจัดงานดังกล่าวในเดือนมิถุนายน 2023 ณ กรุงปารีส ซึ่งเอกอัครราชทูตโปแลนด์ฯ ยินดีนำไปสานต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาข้อเสนอดังกล่าวของไทยต่อไป รวมทั้งยินดีต่อความร่วมมือในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ยูเครน ไทยได้มอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมผ่านช่องทางต่างๆ รวมแล้วกว่า 20 ล้านบาท ผ่านองค์กรด้านมนุษยธรรมและองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ รวมถึงสภากาชาดโปแลนด์ พร้อมหวังว่าเหตุการณ์ความขัดแย้งนี้จะเกิดสันติสุขโดยเร็ว
ด้านเอกอัครราชทูตโปแลนด์ฯ ยืนยันสานต่อมิตรภาพระหว่างไทยและโปแลนด์ต่อไป แม้จะหมดวาระ พร้อมกล่าวแสดงความขอบคุณรัฐบาลอีกครั้งสำหรับความช่วยเหลือที่มีมาอย่างต่อเนื่อง
ว่าที่ ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย เห็นว่าพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยควรคุยหาทางออกปัญหาเรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร
นายสุธรรม แสงประทุม ว่าที่ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และอดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาขอชื่นชมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ทำหน้าที่ได้สมบูรณ์พอสมควร แต่อยากให้ กกต. ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการให้ชัดเจน เพื่อให้กลไกของสภาผู้แทนราษฎรที่ประชาชนคาดหวังสามารถเดินหน้าต่อไป ทั้งการสรรหาตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ภายใน 15 วัน แม้ยังมีความเห็นต่างกันอยู่บ้าง แต่อยากให้ฝ่ายประชาธิปไตยปรึกษาหารือกันและยังมีเวลาในการสรรหาผู้ที่เหมาะสม เชื่อว่าทุกฝ่ายตกลงกันได้ในเรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรโดยยึดประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง
ทั้งนี้ส่วนตัวไม่ได้มองว่าปัญหาตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร จะเป็นแรงกดดันให้พรรคเพื่อไทยถอนตัวจากการร่วมจัดตั้งรัฐบาล โดยมั่นใจพรรคเพื่อไทยมีวุฒิภาวะทางการเมืองและรับรู้ความรู้สึกความคาดหวังของประชาชน และที่สำคัญที่สุดคือ ต้องการหาทางออกให้บ้านเมืองสงบสันติ
หัวหน้าพรรคก้าวไกล เตรียมเปิดหารือกับพรรคเพื่อไทย ยุติการชิงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการชิงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ว่า 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลจะต้องมีการพูดคุยกันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าแต่ละพรรคมีเหตุผลอย่างไร โดยควรกลับเข้ามาเจรจาผ่านคณะพูดคุยที่พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลจัดตั้งกันไว้ ก่อนที่จะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อปรับความเข้าใจให้ตรงกันอย่างรอบคอบและยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง และพรรคร่วมจะต้องจับมือกันให้แน่นเพื่อเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันต่อไป
ทั้งนี้ นายพิธา ยังปฏิเสธที่จะย้ำจุดยืนของพรรคก้าวไกลว่า ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรจะต้องเป็นของพรรคก้าวไกลหรือไม่ โดยขอให้รอคณะพูดคุยเจรจาก่อน และยังคงย้ำว่า พรรคก้าวไกล ยังเชื่อใจในพรรคเพื่อไทยจะไม่ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลและสามารถทำงานร่วมกันได้ เพราะการทำงานร่วมกันจะต้องเริ่มต้นจากความเชื่อใจ พร้อมเชื่อจะสามารถปรับความเข้าใจกันได้ และจะมีทางออกของปัญหาจนไม่ไปถึงขั้นการเปิดอิสระในการลงมติเพื่อเลือกตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร รวมทั้งไม่กังวลว่าพรรคเพื่อไทยจะถอนตัวจากการจัดตั้งรัฐบาล
หัวหน้าพรรคก้าวไกล ยังกล่าวถึงกรณีที่มีมวลชนผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยส่วนหนึ่งสนับสนุนให้พรรคเพื่อไทยถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลว่า ทุกคนมีสิทธิแสดงความเห็น แต่ตนเองเห็นว่า เมื่อทั้ง 2 พรรค มีโอกาสพูดคุยกันก็จะเกิดความเข้าใจและมองว่าเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องปกติของการทำงานที่จะมีความเห็นต่างกัน สำหรับขั้นตอนภายหลังที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต).ประกาศรับรอง ส.ส.อย่างเป็นทางการแล้ว คณะเจรจาของพรรคร่วมรัจตั้งรัฐบาลจะต้องพูดคุยกันให้มากขึ้น เพื่อทำให้การถ่ายโอนอำนาจแบบไร้รอยต่อเกิดขึ่นได้มากที่สุด เพราะเมื่อจัดตั้งรัฐบาลได้แล้วจะสามารถดำเนินภารกิจต่อได้ทันที
เศรษฐกิจ/ท่องเที่ยว
22 พฤษภาคม 2566
การบินไทย จัดเที่ยวบินพิเศษขนส่งผู้แสวงบุญ ประกอบพิธีฮัจย์กว่า 6,500 คน
นายวิชญ์ กิจจาทร ผู้อำนวยการฝ่ายขาย และประธานกรรมการกิจการพิเศษฮัจย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทการบินไทยฯ ร่วมกับอุปนายกสมาคมผู้ประกอบการกิจการฮัจย์ภาคใต้ และนายกสมาคมการค้าผู้ประกอบกิจการฮัจย์สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการจัดเที่ยวบินพิเศษฮัจย์ เพื่อขนส่งผู้แสวงบุญชาวไทยมุสลิมเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ที่ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ประจำปี 2566 ทั้งนี้ บริษัท การบินไทยฯ ในฐานะสายการบินแห่งชาติสนับสนุนการจัดเที่ยวบินพิเศษขนส่งผู้แสวงบุญฮัจย์อย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เริ่มตั้งแต่ปี 2548 เพื่อเป็นการสนับสนุนภารกิจทั้งของรัฐบาลไทยและราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย
สำหรับปี 2566 บริษัทการบินไทยฯ ให้บริการขนส่งผู้แสวงบุญ ประมาณ 6,555 คน เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ด้วยเที่ยวบินพิเศษ ไป-กลับ รวม 23 เที่ยวบิน ระหว่างวันที่ 21 พฤษภาคม – 17 กรกฎาคม 2566 ออกจากประเทศไทย 2 จุดบิน ได้แก่ นราธิวาส และหาดใหญ่ เดินทางสู่ 2 จุดบินในราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ได้แก่ มะดีนะห์ และเจดดาห์ โดยเที่ยวบินขาไป เส้นทาง หาดใหญ่ - มะดีนะห์ วันละ 2 เที่ยวบิน ระหว่างวันที่ 21 - 29 พฤษภาคม 2566 และจำนวน 1 เที่ยวบิน ในวันที่ 30 พฤษภาคม 2566 และเส้นทางนราธิวาส - มะดีนะห์ วันละ 2 เที่ยวบิน ในวันที่ 31 พฤษภาคม และ 1 มิถุนายน 2566 ส่วนเที่ยวบินขากลับ เส้นทาง เจดดาห์ - หาดใหญ่ วันละ 1 เที่ยวบิน ระหว่างวันที่ 4 - 8 กรกฎาคม 2566 และวันละ 2 เที่ยวบิน ระหว่างวันที่ 9 - 15 กรกฎาคม 2566 เส้นทาง เจดดาห์ - นราธิวาส วันละ 2 เที่ยวบิน ระหว่างวันที่ 16 - 17 กรกฎาคม 2566
ประกวดสุดยอดกาแฟไทยปี 2566 มุ่งคัดสรรสุดยอดเมล็ดกาแฟอะราบิกาและโรบัสตาคุณภาพดี ขยายช่องทางการตลาด
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ในปี 2566 นี้กรมวิชาการเกษตร ร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตรด้านกาแฟ อาทิ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สมาคม และภาคีภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องในธุรกิจกาแฟ จัดการประกวดสุดยอดกาแฟไทย ปี 2566 ภายใต้แนวคิด การผลิตอย่างยั่งยืน เพื่อรณรงค์และส่งเสริมสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรผลิตกาแฟอะราบิกาและโรบัสตาของไทย ให้มีคุณภาพดีตลอดห่วงโซ่การผลิตกาแฟตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ รวมถึงรสชาติกาแฟจนได้เป็นเมล็ดกาแฟไทยเกรดพิเศษ อีกทั้งเป็นการรณรงค์ส่งเสริมให้เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟตระหนักถึงความสําคัญของการปลูกกาแฟที่ทำให้ได้ผลผลิตกาแฟมีคุณภาพและแสดงถึงอัตลักษณ์ของกาแฟไทย พร้อมทั้งยังช่วยส่งเสริมและพัฒนากาแฟไทยให้มีคุณภาพดีสู่ระดับโลก เพิ่มมูลค่า สร้างรายได้และความยั่งยืนแก่เกษตรกรไทย
กรมวิชาการเกษตร ขยายเวลาการรับสมัครและสิ่งประกวดกาแฟอะราบิกาและกาแฟโรบัสตาไปจนถึงวันที่ 10 มิถุนายน 2566 โดยมีรายละเอียดลักษณะสิ่งประกวดจำแนกกระบวนการแปรรูป 4 กระบวนการ 5 ประเภท สำหรับรางวัลในปีนี้ แบ่งเป็น 3 รางวัลคือ รางวัลที่ 1 มี 5 รางวัล รางวัลที่ 2 มี 5 รางวัล และรางวัลที่ 3 มี 5 รางวัล
เชื่อมั่นว่าการประกวดสุดยอดกาแฟไทย เป็นเวทีที่ให้เกษตรกรชาวสวนกาแฟได้มีโอกาสนำเสนอกาแฟของตนเองเข้าสู่เวทีประกวด ซึ่งเขาจะได้เรียนรู้ในเรื่องคุณภาพที่ตลาดต้องการจากผลคะแนนที่ได้รับและผลการคัดเลือกเฟ้นหากาแฟที่มีคุณภาพในด้านกลิ่นและรสชาติที่ดีที่สุดจากเกษตรกรไทยที่มีแปลงปลูกกาแฟจริง จะเป็นการสร้างขวัญกำลังใจและเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรท่านอื่นๆ เกิดการพัฒนาการผลิตกาแฟให้ได้คุณภาพ เป็นการยกระดับมาตรฐานกาแฟไทยสู่มาตรฐานโลก
23 พฤษภาคม 2566
กรมศิลปากร เร่งบูรณะ 3 โบราณสถานสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ รองรับการท่องเที่ยว
นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่พร้อมกับสำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ ติดตามคืบหน้าการดำเนินงาน บูรณะ วัดศรีสุพรรณ ซึ่งมีเจดีย์ล้มลง จากเหตุการณ์ฝนตกเมื่อปีที่ผ่านมา โดยได้ดำเนินงานทางโบราณคดีพบส่วนฐานที่แท้จริงขององค์เจดีย์ ลานประทักษิณและกำแพงแก้วโดยรอบ จึงเร่งรัดให้บูรณะให้คงสภาพดั้งเดิมที่มั่นคงแข็งแรงตามหลักการอนุรักษ์และเป็นไปในแบบดั้งเดิมไม่ผิดเพี้ยน ขณะที่ภายในเจดีย์ที่โค่นลงมา พบพระพุทธรูปและศิลปวัตถุสมัยล้านนาและสมัยรัตนโกสินทร์ ได้มอบหมายให้คัดแยกเป็นหมวดหมู่ ดำเนินการอนุรักษ์ทางวิทยาศาสตร์
ขณะที่การตรวจเยี่ยม วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร พบว่า บูรณะพระวิหารหลวงคืบหน้าไปกว่าร้อยละ 60 รวมทั้งให้บูรณะเตรียมความพร้อมรูปแบบรายละเอียดของการดำเนินงาน ส่วนหน้าอาคารและพระอัฎฐารส พระประธานปางประทับยืนที่สูงที่สุดในภาคเหนือ
ส่วนวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ตรวจเยี่ยมสภาพวิหารลายคำ ที่พบร่องรอยชำรุดที่โค่นเสาไม้ ภาพจิตรกรรมฝาผนัง ซุ้มประตูทางเข้ารวมถึงลวดลายปูนปั้นบนแผงไม้ประดับส่วนหน้าอาคาร สั่งการให้ดำเนินการบูรณะอย่างเร่งด่วน อย่างไรก็ตาม โบราณสถานทั้ง 3 แห่งนี้ ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ จึงสนับสนุนงบประมาณเพื่อปรับปรุงอาคารและบูรณะโบราณสถานให้สง่างามแก่พระอารามเก่าแก่คู่เมืองเชียงใหม่
24 พฤษภาคม 2566
ภาพรวมเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง เร่งส่งเสริมการท่องเที่ยวและกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสถานการณ์การท่องเที่ยวไทย ยังเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 มีจำนวนสะสมมากถึง 9,470,498 คน สร้างรายได้รวมกว่า 391,778 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 15 พฤษภาคม 2566) พร้อมประเมินภาพรวมการท่องเที่ยวในเดือนพฤษภาคมนี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน เป็นนักท่องเที่ยวจากอาเซียน เอเชียตะวันออกและเอเชียใต้ เป็นหลัก
ขณะที่แนวโน้มการท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีหลัง ยังคงมีแนวโน้มเติบโตได้ดี แม้จะเข้าสู่ช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว จากปัจจัยสนับสนุนทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ เช่น การเพิ่มจำนวนเที่ยวบินและแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ทำโดยภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งจะทำให้แนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย ตลอดปี 2566 เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้คือ ไม่น้อยกว่า 25 ล้านคน
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่ภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง พร้อมสั่งการวางแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวและกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ กระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
25 พฤษภาคม 2566
เอาผิดลานรับซื้อข้าวเปลือกโกงเครื่องชั่งเอาเปรียบชาวนา
นายชาตรี อารีวงศ์ ผู้อำนวยการกองชั่งตวงวัด กรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา ศูนย์ชั่งตวงวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ขอนแก่น) บูรณาการร่วมกับสำนักงานสาขาชั่งตวงวัดจังหวัดร้อยเอ็ด เข้าตรวจสอบเครื่องชั่งรถบรรทุกของลานรับซื้อข้าวเปลือกแห่งหนึ่งในจังหวัดยโสธร พบว่าลานรับซื้อดังกล่าวมีการดัดแปลงเครื่องชั่งโดยใช้รีโมตคอนโทรลควบคุมน้ำหนัก จึงได้ทำการตรวจพิสูจน์ ทราบว่าสามารถใช้รีโมต โกงน้ำหนักได้ถึง 510 กก. ต่อครั้ง และยังพบว่ามีการแก้ไขดัดแปลงสปริงเครื่องชั่ง ให้แสดงน้ำหนักน้อยกว่าความเป็นจริง นายตรวจชั่งตวงวัดจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองยโสธร เพื่อดำเนินการสอบสวนและคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ผู้อำนวยการกองชั่งตวงวัด กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ชั่งตวงวัด เข้มงวดในการตรวจสอบและออกตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เกษตรกรถูกเอารัดเอาเปรียบ หากเกษตรกรรายใดไม่ได้รับความเป็นธรรมในการขายสินค้าเกษตร รวมทั้งพบเห็น หรือทราบเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งข้อมูลมาได้ที่ สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 สำนักงานสาขาชั่งตวงวัดทุกสาขา หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ
26 พฤษภาคม 2566
ททท. เตรียมจัดงาน “Bangkok International Food Festival” เทศกาลอาหารระดับนานาชาติ 26-30 พฤษภาคมนี้
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประสานความร่วมมือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เตรียมจัด “Bangkok International Food Festival” ซึ่งเป็นเทศกาลอาหารที่ยิ่งใหญ่ระดับนานาชาติ ระหว่างวันที่ 26 - 30 พฤษภาคมนี้ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร
การจัดงานดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ที่ให้ความสำคัญกับการนำศักยภาพของประเทศไทยในด้านต่างๆ รวมทั้ง Soft Power ด้านอาหารของประเทศไทยมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงเป็นปัจจัยสำคัญดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการกระจายรายได้จากการใช้จ่ายระหว่างการเดินทางและสร้างรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจทั้งในระดับพื้นที่และภาพรวมของประเทศด้วย
สำหรับกิจกรรมที่น่าสนใจภายในงาน “Bangkok International Food Festival 2023” อาทิ กิจกรรม Creative Cooking สาธิตและเรียนรู้การทำอาหาร ขนม ที่มาร่วมออกร้านภายในงาน กิจกรรม “Chef Table Bangkok International Food Festival” เป็นการรังสรรค์เมนู Chef Table จากเชฟชื่อดังจากต่างประเทศ รวมทั้งยังมีร้านอาหารต่างๆ ร่วมออกร้านหลากหลายโซน ขอเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมงาน เพื่อร่วมกันส่งเสริมเอกลักษณ์วัฒนธรรมทางอาหารของไทย ให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตานักชิมทั่วโลก
นายกรัฐมนตรี ยินดีไทยดึงบริษัทเกาหลีใต้ มาลงทุนในไทยเพิ่มเติม
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่ต่างชาติให้ความสนใจลงทุนในประเทศไทย โดย 4 เดือนแรกของปี 2566 มีการลงทุนกว่า 38,702 ล้านบาท พร้อมชื่นชม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ที่สามารถดึงดูดบริษัทกลุ่มเป้าหมายจากเกาหลีใต้มาลงทุนในประเทศไทยได้เพิ่มเติม โดยในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2566 (มกราคม-เมษายน) มีต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทยกว่า 38,702 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 6 หรือคิดเป็นมูลค่าเพิ่มขึ้น 2,321 ล้านบาท เกิดการจ้างงานคนไทย 2,419 คน โดยชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุน 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น 55 ราย (ร้อยละ 25) เงินลงทุน 14,024 ล้านบาท สิงคโปร์ 35 ราย (ร้อยละ 16) เงินลงทุน 4,854 ล้านบาท สหรัฐอเมริกา 34 ราย (ร้อยละ 15) เงินลงทุน 1,725 ล้านบาท// จีน 14 ราย (ร้อยละ 6) เงินลงทุน 11,230 ล้านบาท และสมาพันธรัฐสวิส 11 ราย (ร้อยละ 5) เงินลงทุน 1,692 ล้านบาท ส่วนชาติอื่นๆ มี 68 ราย (ร้อยละ 33) เงินลงทุน 5,177 ล้านบาท
ข้อมูลของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) พบว่า นักลงทุนสนใจจะเช่าพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และบริเวณใกล้เคียง ด้วยเงินลงทุนจำนวนกว่า 2,000 ล้านบาท และยังมีนักลงทุนอีก 1 ราย ที่สนใจลงทุนกับ กนอ. โดยจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม และพัฒนาระบบสาธารณูปโภคพลังงานทางเลือก มูลค่าการลงทุนประมาณ 5,000 ล้านบาทอีกด้วย
นายกรัฐมนตรี สั่งการให้อำนวยความสะดวก ส่งเสริมการค้าและการลงทุนจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งภาคเอกชนจากต่างชาติมองเห็นถึงศักยภาพ และความพร้อมของนิคมอุตสาหกรรมในไทย โดยการเข้ามาลงทุนเหล่านี้ จะนำไปสู่การถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคโนโลยีเฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทยอีกด้วย นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าต่างชาติจะยังคงเชื่อมั่นขยายการลงทุนในไทย ด้วยโครงสร้างการพัฒนา ข้อได้เปรียบทางภูมิศาสตร์และปัจจัยสนับสนุนอื่นๆ
สังคม
22 พฤษภาคม 2566
กรมบัญชีกลาง เตือนระวังมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อผู้บริหารกรมบัญชีกลาง หลอกให้กู้เงินออนไลน์
นางสาววารี แว่นแก้ว รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากประชาชนที่เข้าไปกู้ยืมเงินออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน โดยถูกมิจฉาชีพหลอกให้กรอกเอกสารข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลทางการเงินเพื่อกู้ยืมเงิน ซึ่งในขั้นตอนการถอนเงินจากแอปพลิเคชัน มิจฉาชีพได้แจ้งผู้เสียหายว่ากรอกเลขบัญชีผิด ไม่สามารถโอนให้ได้ และขออายัดจำนวนเงินชั่วคราว พร้อมจัดส่งหนังสือแก้ไขการปลดล็อคและการยกเลิกการอายัดวงเงินในระบบ ที่ลงนามโดยผู้บริหารกรมบัญชีกลาง ให้กับผู้เสียหาย ทั้งนี้ เอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารปลอม และผู้บริหารกรมบัญชีกลางไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการกระทำดังกล่าว
ขอเตือนให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่ Call Center กรมบัญชีกลาง 0 2270 6400
กยศ. เปิดให้กู้ยืมเงินประจำปีการศึกษา 2566 ผ่านแอปพลิเคชัน “กยศ. Connect” หรือเว็บไซต์ กยศ.
นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เปิดระบบให้กู้ยืมเงินประจำปีการศึกษา2566 โดยนักเรียน นักศึกษา ผู้กู้ยืมรายใหม่ ยื่นแบบคำขอกู้ยืมเงินผ่านทางแอปพลิเคชัน “กยศ. Connect” หรือเว็บไซต์ กยศ. ภายในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ สำหรับผู้กู้ยืมเงินรายใหม่/รายเก่า ต้องยื่นแบบยืนยันการเบิกเงินกู้ยืมและลงนามแบบยืนยันเบิกเงินกู้ยืม ถึงวันที่ 31 สิงหาคม
ผู้กู้ยืมจะได้รับเงินค่าครองชีพเดือนแรกภายใน 30 วัน นับจากวันที่สถานศึกษาทำการตรวจสอบยืนยันข้อมูล และแนบเอกสารการกู้ยืมของผู้กู้ยืมในระบบ DSL เรียบร้อยแล้ว สถานศึกษาจะต้องจัดส่งเอกสารการกู้ยืมที่ถูกต้องและครบถ้วนให้ธนาคารเพื่อกองทุนจะโอนเงินในงวดถัดไป
การให้กู้ยืมในปีการศึกษา 2566 กองทุนฯ ได้จัดเตรียมวงเงินกู้ยืมกว่า 40,000 ล้านบาท สำหรับนักเรียน นักศึกษากว่า 640,000 ราย ที่ขอกู้ยืมใน 4 ลักษณะ ได้แก่ นักเรียนหรือนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ศึกษาในสาขาวิชาที่เป็นความต้องการหลักซึ่งมีความชัดเจนของการผลิตกำลังคนและมีความจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศ ศึกษาในสาขาวิชาขาดแคลน หรือที่กองทุนมุ่งส่งเสริมเป็นพิเศษ และเรียนดีเพื่อสร้างความเป็นเลิศ (ระดับประกาศนียบัตรบัณทิตและปริญญาโท) โดยกองทุน จะเป็นหลักประกันให้ทุกครอบครัวว่าเด็กทุกคนที่เกิดมาในประเทศนี้ จะมีโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียมกันทุกคน โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.studentloan.or.th
คัดสุดยอดเยาวชนฝีมือแรงงาน สู่เวทีระดับสากล
นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เปิดการแข่งขันฝีมือแรงงานแห่งชาติ ครั้งที่ 29 ณ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 1 สมุทรปราการ โดยกล่าวว่า การแข่งขันฝีมือแรงงานแห่งชาติเป็นภารกิจของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อเป็นเวทีสำหรับเยาวชนในการแสดงความสามารถด้านทักษะฝีมือ กระตุ้นให้เยาวชนมีใจรักในงานอาชีพและสนใจที่จะพัฒนาตนเองให้มีศักยภาพสร้างความก้าวหน้าในการศึกษาและหน้าที่การงาน รวมทั้งเป็นการส่งเสริมความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างประเทศมั่นใจลงทุนในไทยที่มีแรงงานทักษะฝีมือ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
การแข่งขันครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-24 พฤษภาคมนี้ โดยมีเยาวนอายุระหว่าง 15-21 ปี เข้าร่วมการแข่งขัน จำนวน 390 คนจากทั่วประเทศ แข่งขันทั้งหมด 26 สาขา เช่น สาขาเมคคาทรอนิกส์ สาขาเทคโนโลยี งานเชื่อม สาขาระบบอัตโนมัติทางอุตสาหกรรม สาขาการจัดดอกไม้ สาขาแฟชั่นเทคโนโลยี สาขาการประกอบอาหาร และสาขาการสร้างโมเดลในเกมสามมิติ ซึ่งแบบข้อสอบที่ใช้ในการแข่งขันครั้งนี้ได้ประยุกต์จากการแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติครั้งล่าสุด และได้รับการพัฒนาจากคณะผู้เชี่ยวชาญจากภาคอุตสาหกรรมและภาคการศึกษา เป็นไปตามมาตรฐานขององค์การการแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติ (WorldSkilts International) จึงเป็นการการันตีว่าเยาวชนที่ชนะการแข่งขันมีศักยภาพและทักษะที่พร้อมแข่งขันในเวทีระดับโลกต่อไป
ด้านนางสาวบุปผา เรืองสุด อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวว่า การแข่งขันฝีมือแรงงานแห่งชาติ ครั้งที่ 29 แบ่งการแข่งขันที่สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 1 สมุทรปราการ จำนวน 18 สาขา ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา จัดแข่งขันสาขาหุ่นยนต์เคลื่อนที่ ที่สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา จัดแข่งขันสาขาการประกอบอาหาร ที่วิทยาลัยแรงงาน สถาบันพัฒนาฝีมือแรงาน 13 กรุงเทพมหานคร จัดแข่งขันสาขาการบริการอาหารและเครื่องดื่ม ที่มหาวิทยาศรีปทุม จัดแข่งขันสาขาการสร้างโมเดลในเกมสามมิติ เพื่อค้นหาเยาวชนผู้ชนะการแข่งขันเพื่อเป็นตัวแทนทีมชาติไทยไปเข้าร่วมการแข่งขันฝีมือแรงงานอาเซียน ครั้งที่ 13 ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 18-28 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้ จากนั้นจะเข้าสู่เวทีการแข่งขันฝีมือแรงงานเอเชีย ณ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และการแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติ ณ สาธารณรัฐฝรั่งเศส ตามลำดับ
23 พฤษภาคม 2566
รัฐบาลเชิญชวนประชาชนร่วมงานอัตลักษณ์แห่งสยาม ครั้งที่ 14 “ภูมิใจ ภูมิปัญญา สืบสาน งานหัตถศิลป์ล้ำค่า คู่พระบารมี”
นายภาวี โพธิ์ยี่ รักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย และคณะผู้บริหาร พร้อมด้วยคณะครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม และตัวแทนเด็กและเยาวชนโขนคณะเพชรจรัสแสง เข้าพบ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อประชาสัมพันธ์งาน “อัตลักษณ์แห่งสยาม ครั้งที่ 14” ที่กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-28 พฤษภาคม 2566 ณ โถงนิทรรศการ 100 ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา ภายใต้แนวคิด “ภูมิใจ ภูมิปัญญา สืบสาน งานหัตถศิลป์ล้ำค่า คู่พระบารมี” เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ส่งเสริมและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยและงานศิลปาชีพจากทั่วประเทศ เพิ่มช่องทางการตลาดแก่ผู้ผลิต พร้อมยกระดับงานศิลปหัตถกรรมไทยขึ้นสู่ระดับชิ้นงานที่มีมูลค่าและเผยแพร่เกียรติประวัติ รวมถึงแนวคิดแรงบันดาลใจในการทำงานของครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรมและทายาทช่างศิลปหัตถกรรม
นายกรัฐมนตรีได้สอบถามกระบวนการผลิต รวมทั้งการออกแบบ โดยเน้นย้ำผลงานศิลปหัตถกรรมไทยเป็น Soft Power ที่มีคุณค่า ฝากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมผลักดันและพัฒนาให้เป็นงานศิลปหัตถกรรมร่วมสมัย ปรับรูปแบบ ลวดลาย ประยุกต์ให้สามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวัน โดยคงไว้ซึ่งอัตลักษณ์และเอกลักษณ์ของไทย รวมทั้งการสนับสนุน ส่งเสริมการขาย เพื่อเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ
สำหรับงาน “อัตลักษณ์แห่งสยาม ครั้งที่ 14” ภายในงานมีกิจกรรมต่างๆ ประกอบด้วย นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้านการสนับสนุนและส่งเสริมงานศิลปหัตถกรรมไทยในโครงการศิลปาชีพ นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี โดยจัดแสดงพระบรมฉายาลักษณ์ฉลองพระองค์ที่ตัดเย็บจากผ้าไหม ผ้าฝ้าย และผ้าพื้นถิ่นต่างๆ ในแต่ละภูมิภาคทั่วประเทศ
24 พฤษภาคม 2566
นายกรัฐมนตรี กำลังใจดี พร้อมสู้ทุกสถานการณ์ ขอให้คนไทยมีความรักความสามัคคี
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการลงพื้นที่จังหวัดพิจิตร ว่าขณะนี้กำลังใจยังดี พร้อมสู้และทำงานต่อ ส่วนการลงพื้นที่ครั้งนี้มีประชาชนมาให้กำลังใจ ก็อยากให้มีความรักความสามัคคีเช่นนี้ ส่วนบรรยากาศที่โรงพยาบาลพิจิตร มีประชาชน แพทย์ พยาบาลมาให้การต้อนรับ รวมทั้งให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีให้สู้และอยู่ต่อ พร้อมถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
รัฐบาล เตือนประชาชนผู้มีสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อย่าให้รหัสและเลขบัตรประจำตัวประชาชนกับบุคคลอื่น หลังมิจฉาชีพหลอก
นางสาวทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเตือนประชาชนผู้สิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อย่าหลงเชื่อให้รหัสบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือเลขบัตรประจำตัวประชาชนแก่บุคคลอื่นโดยเด็ดขาด เนื่องจากขณะนี้มีกลุ่มมิจฉาชีพได้กระทำการหลอกลวงพี่น้องประชาชน ด้วยวิธีการใหม่ โดยออกรถเร่ ตระเวนแจกสิ่งของอุปโภคบริโภค ไม่ว่าจะเป็น ไข่ไก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำยาล้างจาน และอื่นๆ พร้อมอ้างว่าจะโอนเงินจำนวนหนึ่งเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อแลกกับรหัสบัตรของชาวบ้าน โดยยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีนโยบายในการดำเนินการดังกล่าว
ทั้งนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนระมัดระวังอย่าตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้ พร้อมกำชับให้ดำเนินการตรวจสอบและติดตามกลุ่มผู้กระทำผิดมาดำเนินการลงโทษโดยเร็วที่สุด และดำเนินการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด
สำหรับผู้ใดที่หลงเชื่อให้รหัสบัตรสวัสดิการแห่งรัฐกับบุคคลอื่นไปแล้ว ขอให้รีบดำเนินการแจ้งเปลี่ยนรหัสบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้ที่ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน หรือธนาคาร ธ.ก.ส. โดยทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย
ประกันสังคม เพิ่มช่องทางรับสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
นางนิยดา เสนีย์มโนมัย โฆษกสำนักงานประกันสังคม กล่าวถึงการสมัครขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ว่า เดิมผู้ที่ออกจากการจ้างงาน หรือสิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 แล้ว แต่ประสงค์สมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 เพื่อใช้สิทธิประโยชน์ประกันสังคมต่อเนื่อง ต้องไปสมัครขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่สำนักงานประกันสังคมด้วยตนเองเท่านั้น แต่ปัจจุบันสำนักงานประกันสังคม ได้พัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเพิ่มช่องทางการให้บริการรับสมัครขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนมาตรา 39 ผ่านเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th โดยสามารถขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปติดต่อที่สำนักงานประกันสังคม ทั้งนี้ระบบจะพิจารณาอนุมัติภายใน 2-4 วันทำการ โดยมีคุณสมบัติคือผู้ที่จะสมัครขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ต้องเคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 มาก่อน โดยต้องส่งเงินสมทบมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 12 เดือน และต้องสมัครไม่เกิน 6 เดือนภายหลังออกจากงาน
โฆษกสำนักงานประกันสังคม กล่าวย้ำว่า เมื่อได้รับการอนุมัติเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 สามารถจ่ายเงินสมทบเดือนแรกได้ทันที ในอัตรา 432 บาทต่อเดือน โดยสามารถจ่ายเงินสมทบแบบหักผ่านบัญชีธนาคาร เพื่อป้องกันการลืมจ่ายเงินสมทบติดต่อกัน 3 เดือน ซึ่งจะทำให้สิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ทันที ทั้งนี้ผู้ที่ประสงค์สมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 สามารถดาวน์โหลดคู่มือและวิธีการใช้งานได้ที่ www.sso.go.th หรือโทร.1506 กด 1 ให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
25 พฤษภาคม 2566
เชิญชวนผู้กู้ยืมที่เป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ร่วมงานมหกรรมการเงินเพื่อครูไทย
นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ร่วมจัดงานมหกรรมการเงินเพื่อครูไทย 4 ภูมิภาค “Unlock a better life” สร้างโอกาสใหม่ เพื่อชีวิตครูไทยที่ดีกว่า จัดโดยกระทรวงศึกษาธิการและพันธมิตร กลุ่มสถาบันการเงิน เพื่อเปิดโอกาสให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่ภูมิภาคจังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดระนอง จังหวัดชุมพร จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดกระบี่ จังหวัดพังงา และจังหวัดพัทลุง ที่ประสบปัญหาหนี้สินได้รับการช่วยเหลือ โดยจะเปิดการเจรจาแก้ไขปัญหาหนี้ร่วมกัน ตลอดจนการให้บริการอบรมความรู้ทางการเงิน โดยบูรณาการความร่วมมือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
กองทุนขอเชิญชวนข้าราชการครูหรือบุคลากรทางการศึกษา ที่เป็นผู้กู้ยืม กยศ. เข้าร่วมงาน โดยสามารถติดต่อขอรับคำปรึกษาการชำระหนี้ได้ที่บูธ กยศ. ระหว่างวันที่ 27-28 พฤษภาคมนี้ ณ หอประชุมวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี
26 พฤษภาคม 2566
กทม. เริ่มโครงการผ้าอนามัยฟรีในโรงเรียน สังกัดกรุงเทพมหานคร ส่งเสริมความรู้ด้านสุขภาวะอนามัยของเด็กผู้หญิง
นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่โรงเรียนวัดราชสิงขร เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร เปิดงานโครงการนำร่องนโยบายผ้าอนามัยฟรีในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 7 โรงเรียนในเขตบางคอแหลม ประกอบด้วย โรงเรียนวัดราชสิงขร โรงเรียนวัดไผ่เงินโชตนาราม โรงเรียนวัดลาดบัวขาว โรงเรียนวัดจันทร์ใน โรงเรียนวัดจันทร์นอก โรงเรียนวัดไทร และโรงเรียนวัดบางโคล่นอก
โดยโครงการนำร่องครั้งแรกที่โรงเรียนวัดราชสิงขร ซึ่งเป็นสังกัด กทม. โรงเรียนเดียวในเขตบางคอแหลมที่มีตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษาตอนต้น นักเรียนราว 1,100 คน นักเรียนหญิงที่ร่วมโครงการประมาณ 200 คน อยู่ระหว่างชั้น ป.4-ม.3 ซึ่งก่อนหน้านี้ต้องใช้งบประมาณของทางโรงเรียนในการจัดซื้อผ้าอนามัยให้เด็ก
นายศานนท์ กล่าวว่า นโยบายนำร่องผ้าอนามัยฟรีของกรุงเทพมหานคร เกิดขึ้นเพื่อแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง ช่วยเหลือนักเรียนหญิงที่อยู่ในระดับชั้น ป.4-ม.6 ของโรงเรียนในสังกัด กทม.จำนวนกว่า 100,000 คน ให้เข้าถึงการใช้ผ้าอนามัยและมีความรู้ในการดูแลสุขอนามัยของตนเองและความรู้ด้านเพศศึกษาอย่างถูกต้องและถูกวิธี โดยปี 2566 ได้นำร่องแจกผ้าอนามัย 7 โรงเรียนในสังกัดที่เขตบางคอแหลม และจะเพิ่มเติมอีก 3 เขต ในกรุงเทพมหานคร ในปี 2567 อยู่ระหว่างของบประมาณ เพื่อขยายผลโครงการในอีก 109 โรงเรียน ให้เด็กนักเรียนหญิงมีผ้าอนามัยใช้ทุกเดือน โดยจัดให้คนละ 15 ชิ้นต่อเดือน
ด้านนางสายพิณ ล้อมพงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดไผ่เงินโชตนาราม กล่าวว่า ทางโรงเรียนมีนักเรียนถึงระดับชั้น ป.6 เมื่อเด็กนักเรียนหญิงอายุถึง 10 ปี เริ่มมีประจำเดือน พบปัญหาเด็กบางคนที่ไม่ทราบภาวะการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากอาศัยกับคุณพ่อ หรือผู้สูงอายุ บางครั้งมีประจำเดือนขณะอยู่ที่โรงเรียนโดยไม่รู้ตัว ซึ่งทางโรงเรียนมีครูผู้หญิงช่วยเป็นที่ปรึกษา สามารถขอผ้าอนามัยได้ที่ห้องพักครู ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายผู้ปกครองและให้เด็กนักเรียนมีความรู้ด้านสุขอนามัยอีกด้วย
กรมควบคุมโรค เปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ ระดมสรรพกำลังสกัดโรคไข้เลือดออก
นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยพบรายงานผู้ป่วยโรคติดต่อนำโดยยุงลายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโรคไข้เลือดออก จากรายงานในปี 2566 ตั้งแต่ต้นปีจนถึงสัปดาห์ที่ 19 ของปี พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกสะสม 15,399 ราย เพิ่มขึ้น 5.4 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน (ปี 2565) ทั้งยังพบผู้ป่วยเสียชีวิตด้วยโรคไข้เลือดออกยืนยันแล้ว 13 ราย
กรมควบคุมโรค ให้ความสำคัญเรื่องนี้ที่ไม่ใช่เหตุการณ์ปกติ และเข้าเกณฑ์ที่จะต้องเปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ของกรมควบคุมโรค ซึ่งได้เปิดศูนย์ฯ ไปแล้วเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ดำเนินการไปพร้อมกับหน่วยงานเครือข่ายในพื้นที่ระบาด เพื่อระดมสรรพกำลังและทรัพยากรจากส่วนอื่นๆ เข้ามาจัดการป้องกันควบคุมโรคให้เกิดประสิทธิผลให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้ได้มอบข้อสั่งการเพื่อเร่งรณรงค์ป้องกันควบคุมโรคอย่างเร่งด่วน ดำเนินการร่วมกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) ซึ่งเป็นผู้ดูแลกำกับ อสม. กว่าล้านคนทั่วประเทศ ให้ช่วยมาเป็นแรงผลักดันให้ประชาชนร่วมมือกันกำจัดลูกน้ำยุงลายให้หมดไปจากพื้นที่ตนเอง
ข้อมูลการสำรวจดัชนีลูกน้ำยุงลายของกองโรคติดต่อนำโดยแมลง ที่สำรวจลูกน้ำยุงลายในภาชนะน้ำขังตามสถานที่ต่างๆ พบว่า วัด ยังเป็นสถานที่ที่พบลูกน้ำสูงสุดร้อยละ 64.6 รองลงมาคือ โรงเรียน สถานที่ราชการ และโรงงาน
ด้านนายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ช่วงนี้เข้าสู่ฤดูฝนแล้ว ฝนที่ตกลงมาจะไปเพิ่มปริมาณแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในสถานที่ต่างๆ มากขึ้น ดังนั้นการป้องกันควบคุมโรคให้สำเร็จต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ดำเนินมาตรการทั้งในมิติของคน เชื้อโรค ยุงพาหะ โดยใช้หลายวิธีการร่วมกัน พร้อมฝากประชาชนว่าหากมีอาการป่วยหรือสงสัยว่าป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก ต้องรีบไปพบแพทย์ ไม่ซื้อยากินเองโดยเฉพาะยาในกลุ่ม NSAIDs เช่น ไอบูโพรเฟน ไดโครฟีแนก แอสไพริน รวมถึงยาชุด เพราะมีผลทำให้เลือดออกง่าย ยากต่อการรักษา เสี่ยงต่อการเสียชีวิต
ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : ธนพิชฌน์ แก้วกา
ผู้เรียบเรียง : ธนพิชฌน์ แก้วกา
แหล่งที่มา : หน่วยงานสำนักข่าว
