สรุปข่าวประจำสัปดาห์ (15-19 พฤษภาคม 2566)

สรุปข่าวประจำสัปดาห์ (15-19 พฤษภาคม 2566)
การเมือง/มั่นคง
15 พฤษภาคม 2566
พรรคก้าวไกล ประกาศพร้อมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ประสาน 5 พรรค ร่วมตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ประกาศความพร้อมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ในฐานะที่ได้คะแนนเลือกตั้งเป็นอันดับ 1 โดนจะพลิกขั้วจากฝ่ายค้านมาจัดตั้งรัฐบาลและตนเองพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของประเทศไทย ตามที่ได้รับฉันทามติจากประชาชน ซึ่งยืนยันว่าพร้อมรับฟังทุกความคิดเห็นที่แตกต่าง
เพื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีขึ้นในอนาคต พร้อมน้อมรับทุกอย่างเพื่อประชาธิปไตย คืนศรัทธาให้ระบบรัฐสภา สร้างความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ได้ติดต่อประสานงานกับ 5 พรรคการเมือง เพื่อเชิญชวนมาร่วมจัดตั้งรัฐบาลแล้วคือ พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย และพรรคเสรีรวมไทย ทำให้รวมที่นั่งได้จำนวน 308 เสียง และกำลังติดต่อพรรคเป็นธรรมอีก 1 พรรค ซึ่งจะทำให้ได้ที่นั่ง จำนวน 309 เสียง โดยมั่นใจว่าจำนวนดังกล่าวเพียงพอในการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก ซึ่งจะเป็นการปิดประตูจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยด้วย โดยในส่วนของพรรคเพื่อไทย ได้ติดต่อผ่านนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครอบและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ซึ่งต่างแสดงความยินดีให้กัน และตนเองชื่นชมถึงความมุ่งมั่นตั้งใจทำงานของนางสาวแพรทองธาร
นายพิธา ยืนยันจะจัดตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้มีความเสี่ยง หรือมีสุญญากาศทางการเมือง อีกทั้งไม่กังวลเสียง ส.ว. ที่จะให้การสนับสนุนหรือไม่ โดยขอทุกฝ่ายน้อมรับผลการเลือกตั้งของประชาชน ขณะเดียวกัน ยังไม่จำเป็นต้องเชิญพรรคภูมิใจไทยมาร่วมจัดตั้งรัฐบาล และนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็ยังไม่ได้ติดต่อมาเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะเจรจาจัดตั้งรัฐบาล โดยนำโรดแมปไปพูดคุยกับพรรคที่จะร่วมจัดตั้งรัฐบาล เพื่อให้เป็น mou ร่วมกันว่ารัฐบาลจะทำอะไรเพื่อประเทศและประชาชนบ้าง ทั้งการแก้ปัญหาเก่า เผชิญปัญหาใหม่ ตั้ง สสร.แก้ไขรัฐธรรมนูญ แก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องและลดความเหลื่อมล้ำ รวมถึงตั้งทีมงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาลอย่างมีรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ ตลอดจนเดินสายพบประชาชน ข้าราชการ ภาคธุรกิจ และทุกภาคส่วน เพื่อแสดงความพร้อมเดินหน้าทำความเข้าใจนโยบายของพรรค เพื่อให้ผลของการเลือกตั้งเป็นฉันทามติและเป็นการประสานทำงานกับทุกภาคส่วนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นำพาประเทศไทยไปสู่อนาคตที่ดียิ่งขึ้น
นายพิธา ระบุด้วยว่า ขณะนี้หมดเวลาของการทำรัฐประหารแล้ว ควรเดินหน้าพัฒนาประเทศและประชาธิปไตยต้องไม่สะดุดลง
พรรคเพื่อไทย ยินดีพรรคก้าวไกลได้รับคะแนนเสียงอันดับ 1 ในการเลือกตั้ง ส.ส. พร้อมให้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
พรรคเพื่อไทย ประชุมกรรมการบริหารพรรคหารือทิศทางหลังการเลือกตั้ง ส.ส. โดยนายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจากผลคะแนนการเลือกตั้งที่ชัดเจนแล้วว่า พรรคเพื่อไทยได้คะแนนเป็นอับดับ 2 ซึ่งพรรคเพื่อไทยเคารพเสียงของประชาชนที่ไว้วางใจให้พรรคก้าวไกล เป็นอันดับ 1 จึงขอแสดงความยินดีกับพรรคก้าวไกลและยินดีให้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ส่วนจะร่วมมือกันอย่างไรต้องฟังเสียงของพรรคอันดับ 1 ว่า จะมีท่าที หรือทิศทางอย่างไร รวมถึงต้องหารือกันว่ามีข้อไหนที่ร่วมกันได้หรือไม่ได้ และจะผ่อนคลายกันได้แค่ไหน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบเนื้อหาหรือเงื่อนไขในร่างลงนาม MOU ของพรรคก้าวไกล
เบื้องต้นทราบว่าจะเน้นไปทางการทำงานตามนโยบาย จึงยังตอบไม่ได้ถึงการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม ย้ำว่าต้องคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก ซึ่งเมื่อประชาชนมอบคะแนนให้กับฝ่ายประชาธิปไตยเจตจำนงต้องการให้ฝ่ายประชาธิปไตยเข้ามาทำงานเป็นรัฐบาลมากกว่าจะคิดว่าตัวเองต้องการอะไร
นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย แสดงความยินดีกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ได้รับคะแนนเป็นอันดับ 1 สะท้อนให้เห็นว่าคะแนนเสียงของฝ่ายประชาธิปไตยเป็นผู้ชนะ ดังนั้นเป็นหน้าที่ของพรรคก้าวไกลที่จะจัดตั้งรัฐบาล ส่วนโอกาสของพรรคเพื่อไทยในการร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกลจะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของกรรมการบริหารพรรคเป็นหลัก ส่วนจำนวน ส.ส.ของพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ยังรวมกันไม่ถึง 376 เสียง จำเป็นต้องมีพรรคการเมืองที่ 3 เข้ามาร่วมหรือไม่ นั้น ส่วนตัวไม่ทราบแต่หากฝ่ายใดรวมกันแล้วเกินกึ่งหนึ่งของ 500 เสียง ถือเป็นฉันทามติของประชาชน จึงขอแสดงจุดยืนอย่างชัดเจน ว่า ส.ว. ควรลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีตามความต้องการของประชาชน และไม่ทราบเรื่องที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส่งข้อความไปคุยกับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เรื่องจัดตั้งรัฐบาล โดยพร้อมย้ำว่าตัวเองไม่มีหารือส่วนตัวหรือลับอะไรในการตั้งรัฐบาล
ตรวจสอบปัญหาการร้องเรียน รับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการภายใน 60 วัน
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวว่า การประกาศผลเลือกตั้งหลังจากนี้ กกต. จะตรวจสอบความถูกต้องและตรวจสอบปัญหาการร้องเรียน เพื่อพิจารณาว่าจะต้องมีการจัดการเลือกตั้งใหม่ในหน่วยใด หรือเขตใด หรือใหม่ โดย กกต. มีเวลาตามกฏหมาย จะต้องประกาศผลอย่างเป็นทางการภายใน 60 วัน พร้อมยืนยันว่า ภาพรวมการจัดการเลือกตั้งเมื่อวานนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีหน่วยเลือกตั้งที่ต้องงดการลงคะแนน 1 หน่วย ที่จังหวัดนครปฐมเนื่องจากเกิดสถานการณ์พายุฝน ทำให้เต็นท์ล้มเสียหาย ส่วนปัญหาฉีกบัตรเลือกตั้ง มีทั้งสิ้น 24 ราย จำหน่ายสุรา 7 ราย ถ่ายรูปบัตร 4 ราย
สำหรับกรณีคำร้องเรื่องคุณสมบัติของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ประธาน กกต. ยืนยันว่า ขณะนี้ คำร้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาแล้ว หลังจากนี้ กกต. จะพิจารณาต่อไปว่าจะรับไว้เป็นคำร้องหรือไม่ เพื่อเข้าสู่กระบวนการสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงตามกระบวนการ ส่วนปัญหาคุณสมบัติ นายพิธา จะส่งผลต่อผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคก้าวไกลหรือไม่ เนื่องจากนายพิธา เป็นผู้เซ็นต์รับรอง ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรค ประธาน กกต. กล่าวว่า ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะการจะพูดว่ามีผลหรือไม่มีผลอาจจะไม่เหมาะสม แต่เรื่องนี้ถือเป็นคำร้องที่เข้าสู่กระบวนการพิจารณาแล้ว
16 พฤษภาคม 2566
สมาชิกวุฒิสภา เผยยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกผู้ใดเป็นนายกรัฐมนตรีต้องรอ กกต. รับรองผลการเลือกตั้งก่อน
นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวถึงการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ว่า เป็นเรื่องดีที่ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์เป็นจำนวนมาก คาดว่าเดือนกรกฎาคมนี้ จะสามารถเปิดประชุมรัฐสภาได้ จากนั้นภายใน 15 วัน จะเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอน ประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี แต่จนถึงขณะนี้ยังตอบไม่ได้ว่า ส.ว. จะเลือกใคร
เบื้องต้นทราบว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เสนอตัวเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี แต่ยังไม่ยืนยันว่าจะมีเพียงชื่อเดียวหรือไม่ เพราะพรรคอื่นอาจเสนอชื่อมาอีก จึงยังบอกไม่ได้ว่าจะเลือกใครต้องรอให้ กกต. รับรองผลการเลือกตั้งก่อน ทั้งนี้ ส่วนตัวมีกติกาชัดเจนว่า ผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต มีวิสัยทัศน์นำพาประเทศไปสู่ความเจริญ ไม่สร้างความขัดแย้งและไม่ก่อให้เกิดสงครามกลางเมือง ที่สำคัญต้องมีความรอบรู้ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ การบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน
ขณะเดียวกัน ยังมีปัจจัยแวดล้อมที่ต้องพิจารณา เช่น รัฐบาลใหม่จะสามารถพาประเทศไปสู่การเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม เห็นว่าไม่ควรสร้างแรงกดดันให้ ส.ว. เพราะเชื่อว่า ส.ว. มีวุฒิภาวะในการพิจารณาเลือก
นายสมชาย แสวงการ ยังเชื่อว่า พรรคก้าวไกลอาจรวมเสียงได้ไม่ถึง 309 เสียง เพราะยังมีบางพรรคที่มีปัญหาต้องพิจารณาอีกหลายอย่างประกอบ เช่นการเสนอแก้ไขมาตรา 112 ที่หลายคนเป็นกังวล ดังนั้นต้องระบุให้ชัดเจนว่าจะแก้ไขหรือยกเลิก นอกจากนี้ นายพิธา ต้องพิสูจน์เรื่องการถือครองหุ้นในบริษัทสื่อมวลชนที่ยังประกอบกิจการอยู่ด้วย ซึ่ง กกต. จะต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพื่อให้การขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีของนายพิธา เป็นที่ยอมรับของสังคม เช่นเดียวกับหลายคนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีต้องตรวจสอบการถือครองหุ้นของตัวเองให้ชัดเจนด้วย
17 พฤษภาคม 2566
นายกรัฐมนตรียืนยัน โหวตนายกรัฐมนตรียึดตามรัฐธรรมนูญ หลังเกิดกระแสกดดันสมาชิกวุฒิสภา ให้ยกมือสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกระแสสังคม ที่เริ่มกดดันให้สมาชิกวุฒิสภา ลงมติเลือกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป เพียงว่า เป็นไปตามกฎหมาย ตามรัฐธรรมนูญ
ส่วนคลิปประชาสัมพันธ์ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่พลเอก ประยุทธ์ ออกมากล่าวขอบคุณประชาชนและเผยแพร่เมื่อวานนี้ เพื่อต้องการขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่มีให้กับพรรคและหลังจากที่คณะรัฐมนตรี รับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานตามแผนฟื้นฟูของบริษัท การบินไทย จำกัด มหาชน เมื่อวานนี้ พลเอก ประยุทธ์ เชื่อว่า บริษัทการบินไทย จะสามารถดำเนินการฟื้นตัวได้เร็ว
18 พฤษภาคม 2566
กกต. นับคะแนนจำนวน 400 เขตเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้ว ยกเว้นหน่วยเลือกตั้งที่ 10 เขตเลือกตั้งที่ 1 นครปฐม
ตามที่ สำนักงาน กกต. ร่วมกับสถาบันส่งเสริมการวิเคราะห์และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ (สวข.) รายงานผลคะแนนเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอย่างไม่เป็นทางการ หรือ ECT Report ที่แสดงผ่านหน้าจอแสดงผล หรือ Dashboard ให้สื่อมวลชนได้รับทราบ และ www.ectreport.com ล่าสุดการรายงานผลการนับคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการทั่วไป อย่างไม่เป็นทางการ ผ่านทางเว็บไซต์ www.ectreport.com ได้ดำเนินการครบตามที่กำหนดแล้ว และการนับคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 จำนวน 400 เขตเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้ว ยกเว้นเขตเลือกตั้งที่ 1 หน่วยเลือกตั้งที่ 10 จังหวัดนครปฐม ที่งดลงคะแนนเนื่องจากพายุกระหน่ำ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลจากรายงานผลการนับคะแนน ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และแบบบัญชีรายชื่อ ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนำส่ง แล้วจะได้ปรับปรุงหน้าจอแสดงผลเพื่อนำเสนอผลคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 อย่างเป็นทางการต่อไป
8 พรรคการเมือง ร่วมแถลงจัดตั้งรัฐบาล ภายใต้ชื่อ “จัดตั้งรัฐบาลของประชาชน”
พรรคก้าวไกล นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ร่วมแถลงจัดตั้งรัฐบาล ภายใต้ชื่อ “จัดตั้งรัฐบาลของประชาชน” ที่โรงแรมโอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ มี 8 พรรคการเมืองเข้าร่วม ประกอบด้วย พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคเป็นธรรม พรรคพลังสังคมใหม่ และพรรคเพื่อไทรวมพลัง โดยนายพิธา ได้แถลงถึงจุดยืนการร่วมจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยของประชาชน และขอบคุณทุกเสียงของประชาชนที่มอบให้ โดยยืนยันว่า รัฐบาลชุดใหม่จะทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ต่ออำนาจของประชาชน และจะเป็นรัฐบาลของคนไทยทุกคน ซึ่งทุกพรรคมีจุดยืนร่วมกันในการตั้งรัฐบาล 3 ข้อคือ เห็นชอบสนับสนุนหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ทุกพรรคจะทำข้อตกลงร่วมกัน หรือ MOU ในการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อแสดงถึงแนวร่วมในการทำงานร่วมกัน และวาระร่วมของทุกพรรคก่อนจะแถลงต่อประชาชน ในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ เพื่อแก้ไขทางการเมืองเศรษฐกิจและสังคม และข้อสุดท้ายทุกพรรคจะจัดตั้งรัฐบาล โดยมีคณะทำงานเพื่อเปลี่ยนผ่านรัฐบาลเตรียมความพร้อมให้สามารถบริหารราชการแผ่นดินต่อจากรัฐบาลเดิมได้อย่างไร้รอยต่อ โดยความเคารพเสียงข้างมากของประชาชน พร้อมยืนยันไม่กังวลและมั่นใจจะได้รับการลงมติเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อจัดตั้งรัฐบาลของประชาชน
ด้านพรรคการเมืองที่เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลของประชาชน เช่น นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ต่างยืนยันสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี และพร้อมเดินหน้าทำตามความต้องการของประชาธิปไตย พร้อมยืนยันทุกพรรคปกป้องสถานบันและไม่อยากให้นำเรื่องประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มาเป็นประเด็นปัญหา เป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยกันในรายละเอียด เพราะสิ่งสำคัญต้องเคารพเสียงของประชาชน
วิษณุเชื่อ พรรคก้าวไกลตั้งรัฐบาลได้ รวมเสียงได้มากถึง 313 เสียง เกิน 250 เสียงถือว่ามั่นคงแล้ว
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง เชื่อว่า การจัดตั้งรัฐบาลโดยพรรคก้าวไกล จะเดินหน้าขั้นตอนของรัฐสภา เพราะขณะนี้ สามารถรวมเสียงได้มากถึง 313 เสียง เกิน 250 เสียง ก็ถือว่ามั่นคงแล้ว ส่วนที่จำเป็นจะต้องอาศัยเสียงสมาชิกวุฒิสภา อีกกว่า 60 เสียง นายวิษณุ กล่าวว่า อาจจะต้องอาศัยอีกในตอนแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขอให้ค่อยๆ พูดจากัน ยังมีเวลาอีก 60 วัน กว่าจะประกาศรายชื่อ ส.ส. และกว่าจะถึงเวลาเลือกนายกรัฐมนตรี ต้องใช้เวลาอีก 30 วัน รวม 3 เดือน ต้องใช้เวลาเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์ในการทำความเข้าใจ เพราะนอกจากการเลือกนายกรัฐมนตรี ยังมีการผ่านกฎหมายด้วย
ส่วนที่มีการประเมินว่าในรัฐสภา จะไม่สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่ได้ประเมิน เมื่อถามว่า ในทางกฎหมาย หากโหวตชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คนใดคนหนึ่งไปแล้ว แต่ไม่ผ่านจะสามารถนำชื่อเดิมกลับมาโหวตอีกได้หรือไม่ นายวิษณุ ระบุว่า ได้ ชื่อเดิมก็ได้ หรือพรรคอันดับ 2 จะเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีก็สามารถทำได้ โดยต้องอาศัยเสียงกึ่งหนึ่งในรอบแรก เพราะมาตรา 272 วรรคหนึ่ง ระบุว่า ต้องมีความเห็นชอบไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกทั้งสองสภาที่มีอยู่คือ 376 เสียง แต่ถ้าไม่สำเร็จก็โหวตอีก จนกระทั่งในที่สุดจะเปลี่ยนไปใช้มาตรา 272 วรรคสอง หรือจะโหวตซ้ำมาตรา 272 วรรคหนึ่งได้ เพราะอาจจะมีเหตุผลใหม่ๆ และมีคนเปลี่ยนใจเพิ่มขึ้น
ไทยและเนปาล พร้อมผลักดันความร่วมมือทุกมิติ ส่งเสริมการค้าการลงทุน การท่องเที่ยวทางศาสนาและวัฒนธรรม
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้การต้อนรับ นายคเณศ ประสาท ธกาล เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาลประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะในโอกาสพ้นจากหน้าที่ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงความร่วมมือประเด็นต่างๆ ทั้งการแลกเปลี่ยนทางศาสนา วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ยินดีส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและการท่องเที่ยวระหว่างกันโดยเฉพาะเส้นทางการท่องเที่ยวทางศาสนาและวัฒนธรรม ซึ่งเอกอัครราชทูตเนปาลฯ กล่าวว่า มีนักท่องเที่ยวไทยให้ความสนใจเดินทางมายังเนปาลมากขึ้น จากเส้นทางการท่องเที่ยวเพื่อแสวงบุญที่เนปาล โดยรัฐบาลเนปาลพร้อมให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกให้เป็นอย่างดี
ด้านเศรษฐกิจ พร้อมที่จะประสานความร่วมมือกับรัฐบาลเนปาล ขยายโอกาสทางการค้าเพื่อการพัฒนาในสาขาที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน รวมไปถึงการเข้าร่วมการประชุม BIMSTEC เชื่อมั่นว่า จะสามารถผลักดันความร่วมมือได้อย่างมีประสิทธิภาพในระดับพหุภาคี และด้านวิชาการ ไทยยินดีสนับสนุนการเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาในสาขาที่จะเป็นประโยชน์ต่อเนปาล โดยเฉพาะการพัฒนาบุคลากรผ่านการมอบทุนอบรมในระดับต่างๆ รวมถึงในสาขาที่จำเป็นในสภาวะปัจจุบัน เช่น สาธารณสุข การพัฒนาสตรีและเด็ก รวมถึงการส่งเสริมการพัฒนาตามหลัก BCG Economy ซึ่งเอกอัครราชทูตเนปาลฯ ยินดีจะส่งเสริมความร่วมมือในสาขาที่มีศักยภาพร่วมกัน พร้อมชื่นชมหลัก BCG Economy ที่นายกรัฐมนตรีผลักดันให้เป็นวาระสำคัญเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมกัน
19 พฤษภาคม 2566
กกต. กำหนดให้เลือกตั้งใหม่ เขต 1 หน่วยเลือกตั้งที่ 10 จังหวัดนครปฐม วันอาทิตย์ที่ 21 พฤษภาคมนี้
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง ลงนามคำสั่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่องให้มีการลงคะแนนเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หน่วยเลือกตั้งที่ 10 เขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดนครปฐมใหม่ โดยมีสาระสำคัญระบุว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้รับรายงานกรณีคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งได้ประกาศงดลงคะแนน ตามมาตรา 102 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.2561 ด้วยในวันที่ 14 พ.ค.66 เวลา 16.45 น.เกิดเหตุฝนตกหนักและลมพัดแรง ทำให้ปะรำที่เลือกตั้งล้มและในระหว่างนั้นมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งบางส่วนมาปรากฏตัวในที่เลือกตั้ง แต่คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งที่ 10 ได้ประกาศงดการลงคะแนนจึงไม่อาจใช้สิทธิเลือกตั้งได้ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 102 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.2561 ประกอบข้อ 5 และข้อ 166 ระเบียบ กกต.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.2566 กกต.จึงมีมติให้ยกเลิกการเลือกตั้งของหน่วยเลือกตั้งที่ 10 วันที่ 14 พ.ค.66 และกำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 21 พ.ค. 66 เป็นวันลงคะแนนใหม่
ขณะเดียวกัน สำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดนครปฐม ได้ออกประกาศเชิญชวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่อยู่บ้านเลขที่ 1 ถึงบ้านเลขที่ 88/100 หมู่ 8 ตำบลบางแขม อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม จำนวน 943 คน ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.ในวันอาทิตย์ที่ 21 พ.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 08.00 น.-17.00 น. บริเวณองค์การบริหารส่วนตำบลบางแขม อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม
เศรษฐกิจ/ท่องเที่ยว
15 พฤษภาคม 2566
ททท.ต่อยอดการท่องเที่ยวเชิงอาหาร ยกระดับอาหารไทยสู่สากล
นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ททท.จัดโครงการ Thailand Culinary City ขึ้น เพื่อยกระดับและสร้างคุณค่าอาหารไทยสู่สากล อีกทั้งยังเป็นการสร้างการรับรู้ข้อมูลการท่องเที่ยวเชิงอาหาร ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจ BCG ซึ่งจะถือเป็นการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และชุมชน
ขณะเดียวกัน ททท. ได้ส่งเสริมนโยบาย Zero Food Waste เพื่อลดปริมาณขยะอาหารที่เกิดจากกระบวนการการผลิต ที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว นอกจากนี้ ภายในงานมีการจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับอาหารไทย ผ่านการนำเสนอเรื่องราวของอาหารไทยที่ได้รับรางวัลระดับโลกและเมนูอาหารยอดนิยม รวมถึงจัดนิทรรศการเพื่อแนะนำวัตถุดิบท้องถิ่นภูมิปัญญาไทย โดยเป็นการจัดแสดงอาหารไฮไลท์หลักในแต่ละภูมิภาค ตลอดจนจัดกิจกรรม Workshop สอนทำขนมไทยที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละภูมิภาคอีกด้วย
สำหรับโครงการดังกล่าว แบ่งออกเป็น 2 กิจกรรม ประกอบด้วย กิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวเชิงอาหาร จำนวน 36 ราย จัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในวันที่ 31 พฤษภาคม - 2 มิถุนายน และกิจกรรมสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไปที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงอาหาร โดยจัดขึ้นใน 4 จังหวัด ประกอบด้วยจังหวัดเชียงใหม่ จัดขึ้นวันที่ 19-21 พฤษภาคม จังหวัดขอนแก่น วันที่ 9-11 มิถุนายน จังหวัดภูเก็ต วันที่ 16-18 มิถุนายน และจังหวัดจันทบุรี จัดขึ้นวันที่ 23-25 มิถุนายนนี้
16 พฤษภาคม 2566
ผู้ประกอบการกังวลค่าไฟ - ราคาน้ำมัน ส่งผลดัชนีเชื่อมั่นอุตสาหกรรมติดลบ
นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พร้อมนายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ เปิดเผยว่า ผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนเมษายน 2566 จากการสำรวจผู้ประกอบการจำนวน 1,164 ราย ครอบคลุม 45 กลุ่มอุตสาหกรรม อยู่ที่ระดับ 95.0 ปรับตัวลดลงจากระดับ 97.8 ในเดือนมีนาคมปรับตัวลดลงครั้งแรกใน 4 เดือน
นอกจากนี้ พบว่าปรับตัวลดลงเกือบทุกองค์ประกอบ คำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิตและผลประกอบการยกเว้นตันทุนประกอบการที่ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม ที่ปรับตัวลดลงโดยมีปัจจัยลบจากการชะลอตัวเนื่องจากวันหยุดต่อเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ทั้งนี้ผลกระทบเศรษฐกิจโลกถดถอย ขณะเดียวกันความเชื่อมั่นด้านต้นทุนประกอบการยังอยู่ในระดับต่ำ ผู้ประกอบการมีความกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของค่าไฟฟ้าและราคาน้ำมันขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทยอยปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะ SMEs มีภาระหนี้เพิ่มขึ้น
คาดการณ์ว่า 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 105.0 ปรับตัวลดลง จาก 106.3 ในเดือนมีนาคม เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอนสูง ประเทศคู่ค้าชะลอตัวส่งผลลบต่อภาคการส่งออกของไทย ส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานและราดาวัตถุดิบในตลาดโลก ทำให้ต้นทุนการผลิตยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะค่าไฟฟ้า
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกจากอัตราค่าระวางเรือ ที่ทยอยปรับลดลงตั้งแต่ช่วงตันปี 2566 การขยายตัวการบริโภคในประเทศและนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในประเทศ
17 พฤษภาคม 2566
คาดหวังให้รัฐบาลใหม่ แก้ไขกฏหมายที่ล้าสมัย ไม่เอื้ออำนวยกับการทำธุรกิจ
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงผลกระทบของภาคธุรกิจในช่วงการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ว่า สัญญาณการเลือกตั้งที่ผ่านมา เป็นภาพลักษณ์ที่ดีประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ร้อยละ 75.22 และแต่ละพรรคการเมืองก็เคารพเสียงส่วนใหญ่ ให้พรรคที่มีคะแนนลำดับที่ 1 จัดตั้งรัฐบาล จึงเชื่อว่า ไม่ส่งผลกระทบกับภาคธุรกิจ ซึ่งนโยบายที่แต่ละพรรคนำเสนอ ก็ทำการบ้านมาดี จึงเชื่อว่า จะมีการแก้ไขกฎหมายที่ล้าหลัง และกฎระเบียบต่างๆ ที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการทำธุรกิจ นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการอำนวยความสะดวก เพื่อความรวดเร็วและโปร่งใสในการบริหารประเทศ รวมถึงนโยบายที่เน้นแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนการผลิตพลังงานที่สูง ราคาค่าไฟฟ้า ถือเป็นสัญญาณที่ดี ซึ่งสิ่งที่ภาคเอกชนต้องการคือ ให้รัฐบาลใหม่สานต่อนโยบายของรัฐบาลเดิม อาทิ การขับเคลื่อน BCG Model เพื่อความยั่งยืนของประเทศ การยกระดับ EEC เพื่อดึงดูดนักลงทุน รวมทั้งการทำ FTA กับสหภาพยุโรป
นายสนั่น กล่าวว่า ต้องการให้รัฐบาลใหม่ หาแหล่งเงินทุนช่วย SME ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกันเรื่องที่ต้องขับเคลื่อนไปด้วยกันคือ รัฐบาลต้องจัดตั้งให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้กระทบกับการใช้จ่ายงบประมาณที่อาจจะไม่ต่อเนื่อง ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว 5 เดือนที่ผ่านมา จะเป็นกลไกสำคัญ หากรัฐบาลจัดตั้งได้เร็วและมีนโยบายชัดเจน สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนต่างชาติ จะทำให้เศรษฐกิจของไทยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
กระทรวงพาณิชย์ ยืนยันราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มและราคาขายปลีก ยังอยู่ในราคาที่กำกับดูแลได้
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรณีที่สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ แจ้งปรับราคาไข่คละหน้าฟาร์มขึ้น 0.20 บาท/ฟอง จาก 3.60 เป็นฟองละ 3.80 บาท กรมฯ ได้ติดตามสถานการณ์ราคาไข่ไก่ทั่วประเทศ (ณ วันที่ 15 พ.ค. 66) พบว่าราคาขายปลีกไข่ไก่เบอร์ 3 เฉลี่ยทั่วประเทศอยู่ที่ฟองละ 3.90 บาท โดยราคาขายปลีกที่ตลาดสด อยู่ที่ฟองละ 3.2 - 4.4 บาท ส่วนห้างค้าปลีกค้าส่งราคาอยู่ที่ฟองละ 3.7 – 4.1 บาท ซึ่งยังอยู่ภายใต้โครงสร้างราคาไข่ไก่ที่กรมการค้าภายในกำกับดูแล โดยได้มีการควบคุมราคาให้เป็นไปตามโครงสร้างและคุมเข้มไม่ให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคาเกินสมควร ทั้งนี้ การปรับราคาไข่ไก่ มีสาเหตุมาจากต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ประกอบกับสภาพอากาศร้อนจัด ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้แม่ไก่ออกไข่ได้น้อยลงและมีขนาดเล็กลง
อย่างไรก็ตาม กรมการค้าภายใน ได้มีมาตรการช่วยเหลือผู้บริโภค โดยจำหน่ายไข่ไก่ราคาต่ำกว่าท้องตลาดผ่านรถโมบายพาณิชย์ และโครงการ “พาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน” เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชน มั่นใจว่าการจำหน่ายไข่ไก่ราคาถูก ในราคาประหยัดแก่ผู้บริโภค จะเป็นช่องทางในการบรรเทาภาระค่าครองชีพให้กับผู้บริโภคได้ รวมทั้งได้มีการกำกับดูแลและติดตามสถานการณ์ราคาไข่ไก่อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้มีการเอาเปรียบผู้บริโภค หากพบผู้ค้ารายใดมีพฤติกรรมจำหน่ายไข่ไก่ในราคาสูงเกินสมควร สามารถร้องเรียนได้ที่ สายด่วน 1569
18 พฤษภาคม 2566
กรมการค้าภายใน รักษาระดับราคา นำผู้ประกอบการซื้อมะม่วงจากกลุ่มเกษตรกร จังหวัดเชียงใหม่กว่า 39,000 ตัน
นายวัฒนศักดิ์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดกิจกรรมอมก๋อยโมเดล@เชียงใหม่ สินค้ามะม่วง ณ อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ ว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน ร่วมกับผู้ประกอบการห้างค้าปลีกค้าส่งรายใหญ่ รวมทั้งผู้ประกอบการในพื้นที่ รวม 10 ราย และสถานีบริการน้ำมัน PT และบางจาก เข้ารับซื้อผลผลิตมะม่วงจากกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่มะม่วงท่าล้อ อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ รวมกว่า 39,800 ตัน ในราคานำตลาด เพื่อนำไปกระจายตามช่องทางต่างๆ ให้เข้าถึงผู้บริโภค โดยหวังว่าจะช่วยรักษาระดับราคามะม่วงให้อยู่ในเกณฑ์ดี ในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดพร้อมกันปริมาณมาก ซึ่งพื้นที่ อำเภอดอยหล่อ มีพื้นที่ปลูกมะม่วงกว่า 3,126 ไร่ หลายสายพันธุ์ อาทิ แดงจักรพรรดิ์ งาช้างแดง และ R2E2 มั่นใจว่าจะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้มากขึ้น รวมมูลค่าการรับซื้อครั้งนี้กว่า 460 ล้านบาท
อธิบดีกรมการค้าภายใน ย้ำว่าขอให้เกษตรกรรักษาคุณภาพผลผลิตให้ได้มาตรฐาน เพื่อให้สินค้าเป็นที่ต้องการของตลาดและจำหน่ายได้ในราคาที่สูงขึ้น ลดปัญหาการถูกกดราคาจากพ่อค้าคนกลาง ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งในมาตรการบริหารจัดการผลไม้เชิงรุกปี 2566 ของกระทรวงพาณิชย์ ภายใต้โครงการอมก๋อยโมเดล โดยกรมฯ จะเข้าไปดูดซับผลผลิตและเชื่อมโยงตลาดกับผู้ประกอบการ เพื่อรักษาระดับราคาให้อยู่ในเกณฑ์ดีตลอดฤดูกาล
ไทยและจีน พร้อมผลักดันการเชื่อมโยงนครเซี่ยงไฮ้ กับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา นายกเทศมนตรีนครเซี่ยงไฮ้ นำคณะผู้บริหารระดับสูงของนครเซี่ยงไฮ้ เดินทางมาเยือนประเทศไทยเพื่อร่วมงาน “ลงทุนเซี่ยงไฮ้ ร่วมแบ่งปันอนาคต” ซึ่งคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ดำเนินการร่วมกับนครเซี่ยงไฮ้และภาคเอกชนจัดขึ้น เพื่อขยายความร่วมมือทางด้านการค้าและการลงทุนระหว่างทั้งสองประเทศ รวมถึงต่อยอดจากการเดินทางไปโรดโชว์ ส่งเสริมการลงทุนที่ประเทศจีนของ BOI เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ประเทศไทยยังเป็นที่สนใจของนักลงทุนชาวจีน โดยมีทำเลที่ตั้งซึ่งสามารถเชื่อมโยงกับภูมิภาค รวมถึงมีระบบขนส่งและโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานและนิคมอุตสาหกรรมที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ในอนาคตสามารถเชื่อมโยงกับเขตพิเศษหลินกังของนครเซี่ยงไฮ้ได้อีกด้วย
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่การค้าและการลงุทนระหว่างไทยและจีนยังคงเดินหน้าเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ทั้งอุตสาหกรรมสุขภาพและการแพทย์ ยานยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะและดิจิทัล สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทย ทั้งนี้ รัฐบาล และ BOI ซึ่งมีสำนักงานในจีน 3 แห่ง ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง และกว่างโจว พร้อมขยายโอกาสเชื่อมโยงการลงทุนระหว่างทั้งสองประเทศให้เติบโตมากยิ่งขึ้น
19 พฤษภาคม 2566
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เปิดระบบซื้อบัตร-ชำระค่าบริการผ่านแอปฯ QueQ ลดปัญหาจราจร เริ่ม 1 กรกฎาคมนี้
Facebook Page "อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่" ได้โพสต์ภาพประกาศ การจำหน่ายบัตรค่าบริการผ่านเข้าไปในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ด้วยระบบการจำหน่ายบัตรค่าบริการอิเล็กทรอนิกส์ โดยระบุว่า อุทยานฯ มีข้อบังคับใช้ระบบจำหน่ายบัตร (E-Ticket) ผ่านแอปพลิเคชัน QueQ ลดปัญหาด้านการจราจรติดขัดและวัตถุประสงค์ตามเป้าหมายของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อประโยชน์และความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จึงกำหนดให้ผู้ที่เข้ามาเยือนทุกท่าน จองบัตรค่าบริการอิเล็กทรอนิกส์ (E-Ticket) นักท่องเที่ยวชาวไทยชำระค่าบริการผู้ใหญ่ 40 บาท และเด็ก 20 บาท ผ่าน App QueQ เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ในส่วนของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ต้องชำระค่าบริการ 2 ครั้ง โดยชำระผ่าน App QueQ ในราคาผู้ใหญ่ 200 บาทและเด็ก 100 บาท และต้องชำระเป็นเงินสดก่อนเข้าพื้นที่อีกครั้ง บริเวณด่านตรวจศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ หรือเนินหอมในราคาผู้ใหญ่ 200 บาท และเด็ก 100 บาท ทั้งนี้ ระบบการจำหน่ายบัตรอิเล็กทรอนิกส์ จะเปิดให้ใช้บริการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ เป็นต้นไป หากมีการเปลี่ยนแปลงจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
กระทรวงพาณิชย์ อนุมัติเงินส่วนต่างประกันรายได้ข้าว งวดที่ 32 เตรียมจ่าย เกษตรกร 24 พฤษภาคมนี้
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ได้พิจารณาราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 งวดที่ 32 สำหรับเกษตรกรที่แจ้งวันคาดว่าจะเก็บเกี่ยวระหว่างวันที่ 13-19 พฤษภาคม 2566 โดยข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ชดเชยส่วนต่างตันละ 313.05 บาท สูงสุดครัวเรือนละ 5,008.80 บาท สำหรับข้าวเปลือกปทุมธานี ข้าวเปลือกเจ้า และข้าวเปลือกเหนียว มีราคาเกณฑ์กลางสูงกว่าราคาประกัน จึงไม่มีส่วนต่างชดเชยในงวดนี้ ส่วนข้าวเปลือกหอมมะลิ สิ้นสุดฤดูเก็บเกี่ยวแล้ว โดย ธ.ก.ส. จะจ่ายเงินให้เกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์ภายในวันที่ 24 พฤษภาคม 2566
การที่ราคาข้าวอยู่ในเกณฑ์ดี ในระดับที่สูงกว่าราคาประกัน ทำให้ไม่มีส่วนต่างชดเชย ส่งผลให้รัฐบาลจ่ายชดเชยส่วนต่างน้อยลง ช่วยให้ประหยัดงบประมาณที่ใช้ในการดำเนินโครงการได้อีกทางหนึ่งด้วย
สำหรับในงวดที่ 1 - 31 ที่ผ่านมา มีเกษตรกรได้รับเงินส่วนต่างประกันรายได้แล้ว กว่า 2.636 ล้านครัวเรือน วงเงิน 7,866.81 ล้านบาท เกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์แต่ยังไม่ได้รับเงิน ขอให้ ติดต่อ ธ.ก.ส. สาขาใกล้บ้าน เพื่อให้ ธ.ก.ส. ตรวจสอบต่อไป
สังคม
15 พฤษภาคม 2566
สถานการณ์โควิด-19 เป็นขาขี้น เร่งฉีดวัคซีนคู่ ลดป่วยหนักและเสียชีวิต
นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องภายหลังเทศกาลสงกรานต์ สัปดาห์ที่ผ่านมาพบผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 2,356 ราย เฉลี่ยวันละ 336 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 39 เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ผู้ป่วยอาการหนักแพทย์วินิจฉัยปอดอักเสบและผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ เพิ่มขึ้นประมาณร้อย 45 ส่วนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า โดยมากกว่าครึ่ง ร้อยละ 55% เป็นกลุ่ม 608 ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ที่เหลือเป็นผู้ที่มีระดับภูมิคุ้มกันต่อโรคโควิด-19 ลดลงมาก ได้แก่ ผู้ที่ฉีดวัคซีนเข็มล่าสุด หรือติดเชื้อแล้วนานเกิน 6 เดือน
แนะนำประชาชนเข้ารับวัคซีนโควิด-19 พร้อมวัคซีนไข้หวัดใหญ่โดยเร็ว เพื่อลดความเสี่ยงต่อการป่วยหนักจากทั้ง 2 โรค และเน้นย้ำหากป่วยด้วยอาการทางเดินหายใจ ให้ตรวจ ATK พร้อมเลี่ยงใกล้ชิดกลุ่ม 608 เมื่อตรวจพบผลบวก 2 ขีด ให้สวมหน้ากากและสังเกตอาการ หากมีอาการมากให้ไปพบแพทย์ สำหรับผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ให้ไปรับบริการฉีดภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป หรือ LAAB ได้ที่โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลภาครัฐสังกัดอื่น ทั้งนี้ ประเทศไทยยังมี ยา เวชภัณฑ์สำรอง และเตียงเพียงพอต่อการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรง
ประกันสังคม เปิดรีไฟแนนซ์บ้าน รอบ 2 ดอกเบี้ยต่ำ วงเงินสินเชื่อยังคงเหลืออีกกว่า 7 พันล้านบาท
นางนิยดา เสนีย์มโนมัย ผู้อำนวยการกองนโยบายและแผนงาน ในฐานะโฆษกสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ร่วมกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดโอกาสให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 สามารถใช้สิทธิในการไถ่ถอนจำนองที่อยู่อาศัย หรือรีไฟแนนซ์ รวมถึงลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยในบัญชีเงินกู้ที่กู้อยู่กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ ซึ่งเปิดดำเนินการไปรอบที่ 1 ได้รับความสนใจจากผู้ประกันตนเป็นอย่างมาก
ล่าสุดได้เปิดโครงการรอบที่ 2 ไปเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2566 ปรากฎว่ามีผู้ประกันตนสนใจเข้าร่วมโครงการจองคิวแล้ว 117,697 ราย ยอดที่ธนาคารเรียกคิวขอสินเชื่อกว่า 60,000 ราย ยอดรวมอนุมัติสินเชื่อ 19,725 ราย จำนวนเงินสินเชื่อ 22,768 ล้านบาท
ขณะนี้วงเงินสินเชื่อยังคงเหลืออยู่ที่ 7,231 ล้านบาท ผู้ประกันตนที่สนใจ ต้องมีคุณสมบัติเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน และวงเงินกู้เดิมไม่ว่าจะกู้ซื้อบ้านกับธนาคารใดก็ตาม ยอดเงินต้นคงเหลือต้องไม่เกิน 2 ล้านบาท พร้อมเน้นย้ำต้องเป็นผู้กู้และถือกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยนั้น หรือเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมก็ได้ โดยโครงการนี้ไม่รวมกรณีซื้อบ้านใหม่ แต่ต้องเป็นการรีไฟแนนซ์เท่านั้น
สำหรับขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการ ให้ผู้ประกันตนเพิ่มเพื่อนพร้อมสมัครไลน์ GHB Buddy ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ จากนั้นกดเข้าแชทไลน์ GHB Buddy แล้วกดเมนูบริการพิเศษ จากนั้นกดเข้าร่วมโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตนมาตรา 33 เพื่อขอรหัสเข้าร่วมโครงการ จากนั้นต้องขอหนังสือรับรองสถานะความเป็นผู้ประกันตน เพื่อประกอบการยื่นกู้กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 มกราคม 2567 โดยสามารถขอรับหนังสือดังกล่าว ทางเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th ยื่นพร้อมเอกสารส่วนตัวประกอบด้วย บัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี) เอกสารแสดงรายได้ และเอกสารแสดงหลักประกัน (ที่อยู่อาศัย ที่จดจำนองกับธนาคาร) หากมีข้อสงสัยติดต่อสำนักงานประกันสังคมจังหวัด/สาขาทั่วประเทศ หรือโทรสายด่วน 1506 กด 1 หรือติดต่อได้ที่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ทุกสาขา
16 พฤษภาคม 2566
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ยืนยันไม่มีเป้าหมายยุบโรงเรียนขนาดเล็ก
นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.)อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงจัดตั้ง ยุบ รวม หรือเลิกสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอนั้น กรณีนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะเดิมมีระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการจัดตั้ง รวม หรือเลิกสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2550 บังคับใช้อยู่แล้ว แต่เมื่อมีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 19/2560 เรื่องการปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการออกมา เกรงว่าระเบียบดังกล่าวจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงต้องปรับแก้จากระเบียบกระทรวง มาเป็นกฎกระทรวงตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งเมื่อ ครม. ให้ความเห็นชอบแล้ว จะต้องเสนอร่างกฎกระทรวงฉบับดังกล่าวให้กฤษฎีกาพิจารณาอีกครั้ง ก่อนเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงนามก่อนประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาอย่างเป็นทางการต่อไป
นายอัมพร กล่าวเพิ่มเติมว่า กฎกระทรวงดังกล่าวจะมีความเปลี่ยนแปลงจากระเบียบเดิมในเรื่องการขอยุบสถานศึกษา ซึ่งเดิมจะต้องเสนอให้คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) พิจารณามาเป็นเสนอให้คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ให้ความเห็นชอบได้เลย เป็นการกระจายอำนาจ ลดขั้นตอนให้กระบวนการทุกอย่างจะจบลงที่จังหวัด การออกกฎกระทรวงนี้ มีการเพิ่มในเรื่องของการยุบสถานศึกษาเข้าไปนั้น ไม่ได้เปิดโอกาสให้ยุบโรงเรียนขาดเล็ก เพราะขณะนี้ สพฐ. เน้นในเรื่องการให้เด็กมาเรียนร่วมกัน โรงเรียนที่มีทรัพยากรพร้อม ช่วยเหลือโรงเรียนที่ขาดแคลน เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรที่คุ้มค่าเกิดประโยชน์สูงสุด
17 พฤษภาคม 2566
ธ.ก.ส. เตือนระวังมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นตัวแทนธนาคารปล่อยเงินกู้นอกระบบ
นายไพศาล หงษ์ทอง ผู้ช่วยผู้จัดการและโฆษกธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ มีกลุ่มผู้ไม่หวังดีแอบอ้างเป็นบริษัทตัวแทนธนาคารในการนำเสนอเงินกู้นอกระบบ จัดทำเอกสารนัดรับเงินกู้และแอบอ้างชื่อและตราสัญลักษณ์ รวมถึงลายเซ็นต์พนักงาน โดยให้ชำระค่าคิวล่วงหน้าก่อนการรับสินเชื่อ ธ.ก.ส. ขอเรียนว่า ธ.ก.ส. ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าว อีกทั้งธนาคารไม่มีนโยบายในการให้สินเชื่อผ่านตัวแทนบริษัท หรือมีการชำระค่าคิวล่วงหน้าก่อนรับสินเชื่อ ขอให้เกษตรกรลูกค้าและประชาชนทั่วไปอย่าหลงเชื่อบริษัท หรือบุคคลที่มีพฤติการณ์ดังกล่าว พร้อมย้ำเตือนให้ลูกค้าทุกท่าน เพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งขึ้นในการติดต่อหรือทำธุรกรรมออนไลน์ เนื่องด้วยปัจจุบันมิจฉาชีพมีรูปแบบการหลอกลวงที่หลากหลาย หากไม่แน่ใจสามารถติดต่อโดยตรงที่ธนาคาร หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02 555 0555 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งธนาคารจะดําเนินการเอาผิดตามขั้นตอนทางกฎหมายกับผู้ที่หลอกลวงในลักษณะดังกล่าวต่อไป
ธ.ก.ส. มีผลิตภัณฑ์ด้านสินเชื่ออย่างหลากหลายที่มีอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน เช่น สินเชื่อสานฝันสร้างอาชีพ สินเชื่อนวัตกรรมดี มีเงินทุนและสินเชื่อ SME เสริมแกร่ง อัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 4 เป็นต้น ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลและข่าวสารด้านผลิตภัณฑ์และบริการ ผ่านช่องทางการสื่อสารหลักของธนาคาร ได้แก่ เว็บไซต์ www.baac.or.th Facebook Page “ธกส BAAC Thailand” และ LINE Official Account : @baacfamily
กรมการศาสนา รวบรวมองค์ความรู้วิถีชุมชนต้นแบบ จัดทำเป็นคู่มือแนะนำการเข้าวัดปฏิบัติธรรมสวนะ
นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมเข้าวัดปฏิบัติธรรมสวนะ ครอบครัวหิ้วตะกร้า ศรัทธาอิ่มบุญ อุดหนุนชุมชน ส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าวัดทำบุญเป็นประจำทั้งในวันพระและวันธรรมดาเพิ่มมากขึ้น โดยนำร่องช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านที่วัดบำเพ็ญเหนือ กรุงเทพมหานคร และขยายผลไปยังส่วนภูมิภาค ซึ่งในวันที่ 19-20 พ.ค. นี้ จะมีการจัดกิจกรรมที่วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อ.ลี้ จ.ลำพูน ซึ่งเป็นวัดเครือข่ายศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ และโครงการพลังบวรในมิติศาสนาโดยชุมชนบ้านห้วยต้ม มีชาวปกาเกอะญอ ที่เลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า และกินมังสวิรัติ ก่อให้เกิดจารีตประเพณีการทำบุญตักบาตรด้วยผักและผลไม้ จนกลายเป็นจารีตประเพณีที่โดดเด่นของ จ.ลำพูน
โดยทุกวันธรรมสวนะ หรือวันพระ จะถือเป็นวันหยุดของชุมชน คนในชุมชมจะพาครอบครัวเข้าวัดปฏิบัติธรรม ในตอนเช้าจะหุงหาอาหารนำไปถวายเป็นภัตตาหารแด่พระสงฆ์ แล้วจึงกลับบ้านไปทานอาหาร พร้อมทั้งเก็บผักและผลไม้ที่ปลูกในสวน ไร่ นา บริเวณบ้าน นำไปตักบาตรผัก ผลไม้ ถวายแด่พระสงฆ์ในช่วงเพล เพื่อให้ทางวัดนำไปปรุงเป็นภัตตาหารถวายแด่พระสงฆ์สามเณรในวันต่อไป ทั้งนี้ หลังจากการจัดกิจกรรมแต่ละพื้นที่ ศน.จะรวบรวมองค์ความรู้ของวิถีแต่ละชุมชนต้นแบบ เพื่อนำมาจัดทำเป็นคู่มือแนะนำการเข้าวัดปฏิบัติธรรมสวนะ เผยแพร่ให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวใช้เป็นหลักปฏิบัติได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมด้วย
18 พฤษภาคม 2566
ปั้นแรงงานสู่ผู้ประกอบการร้านสตรีทฟู้ด ตั้งเป้า 30,000 คนทั่วประเทศ สร้างงาน เพิ่มรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจ
นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดตัวโครงการพัฒนาส่งเสริมอาชีพผู้ประกอบการร้านสตรีทฟู้ด พร้อมซักซ้อมความเข้าใจแก่บุคลากร 5 หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ทั้งส่วนกลางและภูมิภาคร่วม 400 คน เพื่อนำเสนอแผนการฝึกอบรมในภาพรวมของประเทศและชี้แจงแนวทางการดำเนินงาน รวมถึงระดมความคิดเห็นเพื่อกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่สอดคล้องกับบริบทแต่ละจังหวัด ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนการขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า รัฐบาลสนับสนุนงบกลาง เพื่อส่งเสริมด้านอาชีพให้แก่แรงงานนอกระบบ โดยเฉพาะภาคธุรกิจร้านสตรีทฟู้ด ซึ่งมีผู้ประกอบการร้านสตรีทฟู้ดมากกว่า 560,000 ราย และมีมูลค่ากว่า 3.4 แสนล้านบาท มีอัตราการเติบโตประมาณร้อยละ 5 ต่อปี สตรีทฟู้ดยังเป็น Soft Power ของไทย ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาในประเทศ รัฐบาลจึงได้เร่งผลักดันให้สตรีทฟู้ดของไทยเกิดการขยายตัวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่ประชาชน โดยกำหนดเป้าหมายสร้างสตรีทฟู้ด 30,000 คนทั่วประเทศ โดยจัดฝึกอบรมให้แก่ผู้สนใจประกอบอาชีพสตรีทฟู้ดรวม 600 รุ่น แบ่งเป็นสตรีทฟู้ดรายใหม่ 300 รุ่น เป้าหมายจำนวน 15,000 คน เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าสู่เส้นทางอาชีพร้านสตรีทฟู้ด และอีก 300 รุ่น เป้าหมายผู้ประกอบการสตรีทฟู้ดรายเดิมจำนวน 15,000 คน เพื่อทำให้ดีขึ้น เก่งขึ้น ไปได้ไกลขึ้นและยังเสริมภูมิคุ้มกันหากเกิดวิกฤตขึ้นในอนาคต
ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ธุรกิจร้านสตรีทฟู้ดของไทยเกิดการขยายตัวและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่สำคัญจะเกิดประโยชน์ต่อประชาชนที่ผันตัวมาสู่เส้นทางอาชีพเป็นผู้ประกอบการสตรีทฟู้ดรายใหม่ สามารถสร้างงานให้แก่แรงงานได้มีทักษะฝีมือ มีอาชีพ มีรายได้ที่มั่นคงและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สำหรับผู้สนใจเข้าร่วมโครงการดังกล่าว ไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยสามารถติดต่อได้ที่ สำนักงานแรงงานจังหวัดทั่วประเทศ
สำหรับกิจกรรมแสดงร้านค้าสตรีทฟู้ด กำหนดไว้จำนวน 5 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 กรุงเทพมหานครจัดขึ้นวันที่ 25-31 พฤษภาคม 2566 ณ เซ็นทรัลพลาซ่ารามอินทรา ครั้งที่ 2 ภูเก็ต จัดขึ้นวันที่ 2-8 มิถุนายน 2566 ณ เซ็นทรัลพลาซ่าภูเก็ต ครั้งที่ 3 เชียงใหม่ จัดขึ้นวันที่ 13-19 มิถุนายน 2566 ณ เซ็นทรัลพลาซ่าเชียงใหม่แอร์พอร์ต ครั้งที่ 4 นครราชสีมา จัดขึ้นวันที่ 21-27 มิถุนายน 2566 ณ เซ็นทรัลพลาซ่าโคราช และครั้งที่ 5 ชลบุรี จัดขึ้นวันที่ 29 มิถุนายน - 5 กรกฎาคม 2566 ณ เซ็นทรัลพลาซ่าพัทยา
แก้หนี้ครูต่อเนื่อง หลังสมาชิกมากกว่า 4.6 แสนรายได้รับประโยชน์ หลังสหกรณ์ลดดอกเบี้ยเงินกู้
นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า จากปัญหาหนี้สินครูทั้งระบบที่มีมากถึง 1.4 ล้านล้านบาท ครูกว่าร้อยละ 80 จากทั่วประเทศ 9 แสนคน ต้องเผชิญกับภาวะหนี้สินจำนวนมหาศาล โดยเจ้าหนี้รายใหญ่สุดคือ สหกรณ์ออมทรัพย์ครู 8.9 แสนล้านบาท
ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมสหกรณ์ ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวและได้ร่วมลงนาม MOU ดำเนินการโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กับหน่วยงานและสถาบันการเงิน รวม 12 แห่ง ซึ่งกรมฯ มีบทบาทหน้าที่ ส่งเสริม สนับสนุน กำกับ ดูแล ให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้สินสมาชิกสหกรณ์ได้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม
ขณะนี้มีสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกว่า 70 แห่ง จากทั้งหมด 108 แห่ง เข้าร่วมปรับอัตราดอกเบี้ย โดยการลดดอกเบี้ยเงินกู้ และพบว่ามีสหกรณ์ 11 แห่ง สามารถปรับลดดอกเบี้ยให้ลงเหลือต่ำกว่า 5% โดยมีครูที่ได้รับประโยชน์ทันทีกว่า 460,000 คน ทั้งนี้ การให้เงินกู้แก่สมาชิกครู สหกรณ์ออมทรัพย์ครูจะปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการให้เงินกู้ ซึ่งในระเบียบจะมีการกำหนดหลักเกณฑ์ ได้ออกคำแนะนำการให้สินเชื่ออย่างเป็นธรรมของสหกรณ์ออมทรัพย์ เพื่อให้สหกรณ์ใช้เป็นแนวทางในการให้เงินกู้แก่สมาชิก พร้อมทั้งเป็นเครื่องมือในการแก้่ไขปัญหาหนี้สินของสมาชิก
ส่วนกรณีที่มีสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ต้องการให้ปรับปรุงข้อบังคับเพื่อให้สมาชิกสามารถถอนหุ้นซึ่งถือว่าเป็นเงินฝากของตนเอง โดยอ้างว่าจะช่วยให้เกิดผลดีต่อระบบสหกรณ์ และจะช่วยลดต้นทุนของสหกรณ์ลงนั้น ขอชี้แจงว่า ในการจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์มีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อส่งเสริมให้สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์สามารถสงวนส่วนแห่งรายได้ของตนไว้ในทางอันมั่นคงและได้รับประโยชน์ตามสมควร อีกทั้งกฎหมายสหกรณ์ก็ประสงค์จะคุ้มครองทุนของสหกรณ์โดยรวมเป็นพิเศษ ซึ่งทุนของสหกรณ์เกิดจากการถือหุ้นโดยสมาชิกและสมาชิกแต่ละรายก็ได้ส่งเงินค่าหุ้นเข้าสหกรณ์เป็นประจำทุกเดือน และกฎหมายสหกรณ์ก็มิได้บัญญัติให้อำนาจแก่สหกรณ์ให้แก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับเพื่อให้สมาชิกถอนหุ้นได้
JOB EXPO THAILAND 2023 “คนไทยมีงานทำ คนหางาน งานหาคน”
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงานมีกำหนดจัดงาน JOB EXPO THAILAND 2023 ภายใต้ธีมงาน “คนไทยมีงานทำ คนหางาน งานหาคน” ระหว่างวันที่ 8-10 มิถุนายน 2566 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา Hall 100-102 กรุงเทพมหานคร และใน 3 จังหวัดใหญ่ ได้แก่ ชลบุรี ภูเก็ต และนครราชสีมา ในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อรองรับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย เพื่อสนองความต้องการของประชาชนที่ต้องการมีงานทำ มีอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่ตนเอง ซึ่งเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างมั่นคงและยั่งยืนให้กับประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งผู้สำเร็จการศึกษาใหม่ ผู้พิการ ผู้สูงอายุ และประชาชนทุกคนที่ต้องการมีงานทำ
สำหรับงาน JOB EXPO ที่จะจัดขึ้นในเดือนมิถุนายนนี้ ถือเป็นมหกรรมการจัดหางานที่ยิ่งใหญ่ระดับประเทศ เพราะมีการรวบรวมตำแหน่งงานทั้งในประเทศและต่างประเทศไว้มากกว่า 500,000 อัตรา และมีไฮไลท์สำคัญอย่างการเชิญชวนนายจ้าง สถานประกอบการชั้นนำ เกือบ 400 แห่ง มารับสมัครและสัมภาษณ์ผู้สมัครงานภายในงาน ควบคู่กับการสัมภาษณ์งานออนไลน์ผ่านระบบ Zoom เพื่ออำนวยความสะดวกให้คนหางานจากทั่วประเทศที่ไม่สามารถมาร่วมงานได้ รวมทั้งยังรวบรวมงานสำหรับผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบาง และกลุ่มคนพิการ ทั้งงานประจำที่นายจ้างสถานประกอบการยินดีรับผู้ที่อายุมากกว่า 60 ปี และอาชีพอิสระสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการหารายได้เสริมอีกด้วย
ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวเสริมถึงการงาน JOB EXPO THAILAND 2023 ว่า นอกจากกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่กำลังมองหาโอกาสเปลี่ยนงาน ผู้ว่างงาน นักศึกษาจบใหม่ ยังมีการจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติศาสตร์แห่งพระราชา ศาสตร์แห่งความพอเพียง และโครงการจิตอาสา 904 โคก หนอง นา โมเดล กิจกรรมคนไทยไม่ทิ้งกัน คนหางาน งานหาคน Job Matching กิจกรรม Platform “ไทยมีงานทำ” กิจกรรมรวมใจสร้างงาน สร้างอาชีพ กิจกรรมส่งเสริมและสนับสนุนการมีงานทำ และกิจกรรมส่งเสริม พัฒนา คุณภาพแรงงาน และกลุ่มเปราะบาง โดยแต่ละกิจกรรมกรมการจัดหางานคิดเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของคนหางานแต่ละกลุ่ม ทั้งผู้ที่ต้องการทำงานเต็มเวลา ทำงานพาร์ทไทม์ หรือต้องการก้าวสู่ Start Up เป็นเจ้าของกิจการของตนเอง และยังเตรียมทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการไปหาประสบการณ์ทำงานต่างประเทศ รวมทั้งงานที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบาง
สำหรับสถานที่และกำหนดการจัดงาน JOB EXPO THAILAND 2023 ที่กรุงเทพมหานคร กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 8-10 มิถุนายน 2566 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา Hall 100-102 ขณะที่ในจังหวัดชลบุรี ระหว่างวันที่ 16-17 มิถุนายน 2566 ณ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ศรีราชา ส่วนที่จังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ 23-24 มิถุนายน 2566 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต และที่จังหวัดนครราชสีมา กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 28-29 มิถุนายน 2566 ณ โคราชฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า นครราชสีมา
19 พฤษภาคม 2566
หากมีร้านฝ่าฝืนขายกัญชาให้นักเรียนและผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ต้องถูกถอนใบอนุญาต
นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวถึงกรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ลงพื้นที่โรงเรียนเซนต์โยเซฟ คอนแวนต์ พบร้านกัญชา ตั้งอยู่ตรงข้ามโรงเรียน ว่า เรื่องนี้ ทางกรมการแพทย์แผนไทยฯ ได้รับการร้องเรียนเมื่อวาน (18 พ.ค.66) และวันนี้ (19 พ.ค.66) ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปตรวจสอบแล้วพบว่า ร้านปิด
ทั้งนี้ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2565 มีเงื่อนไขและให้อำนาจ เรื่องห้ามการจำหน่ายให้กับเด็กนักเรียน และผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี หากฝ่าฝืนต้องเพิกถอนใบอนุญาต ดังนั้นร้านที่ขออนุญาตต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ต้องมีการทำรายงานการซื้อขายกัญชา ส่งมากับมายังกรมการแพทย์แผนไทยฯ ด้วย โดยต้องระบุ อีเมลของผู้ซื้อกัญชา ซึ่งเรื่องนี้พึ่งมีการบังคับใช้ไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ส่วนเรื่องที่มีร้านกัญชาอยู่ตรงข้ามสถานศึกษานั้น อยากให้เข้าใจว่าเดิมมีเสนอเรื่องการจัดโซนนิ่งกัญชา แต่เรื่องยังคงค้างอยู่ในสภา หากรัฐบาลชุดใหม่เห็นควร ว่า ควรมีโซนนิ่ง ก็คงมีการเร่งพิจารณา หรือหากจะยกเลิก ก็แล้วแต่รัฐบาลชุดใหม่ ส่วนกรณีที่นายชูวิทย์ ขู่จะให้รัฐบาลชุดใหม่เล่นงาน ทั้งปลัดและอธิบดี ที่เกี่ยวข้องกับกัญชานั้น มองว่า คนที่จะมาเป็นรัฐมนตรี มีวุฒิภาวะและวิจารณญาณมากพอ เข้าใจการปฏิบัติของข้าราชการว่าปฏิบัติตามบทบาทและนโยบายของรัฐบาลและรัฐมนตรี
ชวนประชาชนร่วมกิจกรรมรณรงค์สัปดาห์วันความดันโลหิตสูงโลก ทดสอบคุณภาพเครื่องวัดความดันโลหิต ฟรี
นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงการจัดกิจกรรมรณรงค์สัปดาห์วันความดันโลหิตสูงโลก ว่าโรคความดันโลหิตสูงเป็นหนึ่งในโลกไม่ติดต่อเรื้อรัง ที่เป็นปัญหาสาธารณสุขสำคัญกำลังคุกคามสุขภาพคนไทยและคนทั้งโลก โดยพบคนไทยเป็นโรคความดันโลหิตสูงจำนวนมาก เป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมาเช่น โรคหลอดเลือด โรคหัวใจ
เครื่องวัดความดัน ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ปัจจุบันนอกจากจะมีสถานพยาบาลใช้งานแล้ว ประชาชนทั่วไปยังนิยมซื้อไปใช้เองอย่างแพร่หลาย ทั้งนี้เครื่องวัดความดันโลหิต ทั้งแบบพกพาหรือที่ใช้วัดเองที่บ้าน ควรหมั่นตรวจสอบมาตรฐานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่า เครื่องวัดความดันโลหิตนั้นอ่านค่าได้ถูกต้อง สมบูรณ์ วันนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จัดกิจกรรมรณรงค์สัปดาห์วันความดันโลหิตสูงโลก โดย สำนักรังสีและเครื่องมือแพทย์ ได้จัดให้บริการ ทดสอบคุณภาพเครื่องวัดความดันโลหิตและเครื่องวัดค่าออกซิเจนปลายนิ้ว บริการประชาชนฟรี ตั้งแต่เวลา 15.00 น.-18.00 น. ณ สถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีกระทรวงสาธารณสุข
ประชาชนตรวจสอบยอดเงินค่าไฟฟ้าเดือนพฤษภาคมนี้ หากชำระบิลค่าไฟแล้ว จะคืนส่วนลดให้เดือนถัดไป
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนจากสถานการณ์ราคาพลังงานที่ได้รับผลกระทบจากราคาไฟฟ้า ตามที่คณะรัฐมนตรีโดยให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าต่อเนื่อง 4 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2566 แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน และส่วนลดค่าไฟฟ้า (เพิ่มเติม) สำหรับงวดเดือนพฤษภาคม 2566 จำนวน 150 บาทต่อราย ให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วยต่อเดือน ทั้งนี้กำหนดให้เป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม
การไฟฟ้านครหลวง (MEA) แจ้งว่า สำหรับใบแจ้งค่าไฟฟ้าประจำเดือนพฤษภาคม 2566 ที่จดหน่วยและส่งใบแจ้งค่าไฟฟ้าในวันที่ 14-17 พฤษภาคม 2566 ที่ยังไม่มีส่วนลด MEA จะปรับปรุงในระบบรับชำระเงินค่าไฟฟ้า โดยผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถตรวจสอบยอดเงินค่าไฟฟ้าประจำเดือนพฤษภาคม 2566 ที่มีการปรับปรุงแล้วได้ที่แอปพลิเคชัน MEA Smart life หรือที่ทำการ MEA ทั้ง 18 เขต หากผู้ใช้ไฟฟ้าที่ชำระค่าไฟฟ้าแล้ว MEA จะคืนเงินส่วนลดดังกล่าวให้ในเดือนถัดไป ทั้งนี้ ใบแจ้งค่าไฟฟ้าประจำเดือนพฤษภาคม 2566 จะเป็นการจดหน่วยในวันใดวันหนึ่งระหว่างวันที่ 14 พฤษภาคม ถึงวันที่ 13 มิถุนายนนี้
นอกจากนี้ ตามที่มีประชาชนได้รับข้อความแอบอ้าง หน่วยงานการไฟฟ้านครหลวง เพื่อหลอกเก็บเงินค่าบริการต่างๆ นอกสถานที่ทำการ รวมถึงเพื่อล่อลวงให้รับบริการผ่านระบบออนไลน์ หรือคลิกลิงก์ต่างๆ MEA มีความห่วงใยต่อกรณีดังกล่าว แจ้งวิธีสังเกต SMS ของ MEA ที่ถูกต้อง ขอให้ประชาชนสังเกตบริเวณชื่อบุคคลผู้ส่ง โดยจะต้องระบุชื่อเป็น “MEA” เท่านั้น หากพบชื่อผู้ส่งเป็นตัวเลขเบอร์โทรศัพท์ หรือตัวอักษรที่ไม่ใช่การสะกดตามคำว่า “MEA” ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ MEA ยืนยันว่าจะไม่ส่ง SMS ให้กับบุคคลทั่วไป ยกเว้นเป็นผู้ที่กำลังติดต่อธุรกรรมกับ MEA หรือรับบริการ MEA e-Bill อยู่เท่านั้น
ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : ธนพิชฌน์ แก้วกา
ผู้เรียบเรียง : ธนพิชฌน์ แก้วกา
แหล่งที่มา : หน่วยงานสำนักข่าว