ประมวลข่าวทั่วไทยประจำวันที่ 17 พฤษภาคม 2566

ประมวลข่าวทั่วไทยประจำวันที่ 17 พฤษภาคม 2566
การเมือง/มั่นคง
นายกรัฐมนตรียืนยัน โหวตนายกรัฐมนตรียึดตามรัฐธรรมนูญ หลังเกิดกระแสกดดันสมาชิกวุฒิสภา ให้ยกมือสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกระแสสังคม ที่เริ่มกดดันให้สมาชิกวุฒิสภา ลงมติเลือกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป เพียงว่า เป็นไปตามกฎหมาย ตามรัฐธรรมนูญ
ส่วนคลิปประชาสัมพันธ์ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่พลเอก ประยุทธ์ ออกมากล่าวขอบคุณประชาชนและเผยแพร่เมื่อวานนี้ เพื่อต้องการขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่มีให้กับพรรคและหลังจากที่คณะรัฐมนตรี รับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานตามแผนฟื้นฟูของบริษัท การบินไทย จำกัด มหาชน เมื่อวานนี้ พลเอก ประยุทธ์ เชื่อว่า บริษัทการบินไทย จะสามารถดำเนินการฟื้นตัวได้เร็ว
เศรษฐกิจ/ท่องเที่ยว
คาดหวังให้รัฐบาลใหม่ แก้ไขกฏหมายที่ล้าสมัย ไม่เอื้ออำนวยกับการทำธุรกิจ
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงผลกระทบของภาคธุรกิจในช่วงการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ว่า สัญญาณการเลือกตั้งที่ผ่านมา เป็นภาพลักษณ์ที่ดีประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ร้อยละ 75.22 และแต่ละพรรคการเมืองก็เคารพเสียงส่วนใหญ่ ให้พรรคที่มีคะแนนลำดับที่ 1 จัดตั้งรัฐบาล จึงเชื่อว่า ไม่ส่งผลกระทบกับภาคธุรกิจ ซึ่งนโยบายที่แต่ละพรรคนำเสนอ ก็ทำการบ้านมาดี จึงเชื่อว่า จะมีการแก้ไขกฎหมายที่ล้าหลัง และกฎระเบียบต่างๆ ที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการทำธุรกิจ นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการอำนวยความสะดวก เพื่อความรวดเร็วและโปร่งใสในการบริหารประเทศ รวมถึงนโยบายที่เน้นแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนการผลิตพลังงานที่สูง ราคาค่าไฟฟ้า ถือเป็นสัญญาณที่ดี ซึ่งสิ่งที่ภาคเอกชนต้องการคือ ให้รัฐบาลใหม่สานต่อนโยบายของรัฐบาลเดิม อาทิ การขับเคลื่อน BCG Model เพื่อความยั่งยืนของประเทศ การยกระดับ EEC เพื่อดึงดูดนักลงทุน รวมทั้งการทำ FTA กับสหภาพยุโรป
นายสนั่น กล่าวว่า ต้องการให้รัฐบาลใหม่ หาแหล่งเงินทุนช่วย SME ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกันเรื่องที่ต้องขับเคลื่อนไปด้วยกันคือ รัฐบาลต้องจัดตั้งให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้กระทบกับการใช้จ่ายงบประมาณที่อาจจะไม่ต่อเนื่อง ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว 5 เดือนที่ผ่านมา จะเป็นกลไกสำคัญ หากรัฐบาลจัดตั้งได้เร็วและมีนโยบายชัดเจน สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนต่างชาติ จะทำให้เศรษฐกิจของไทยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
กระทรวงพาณิชย์ ยืนยันราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มและราคาขายปลีก ยังอยู่ในราคาที่กำกับดูแลได้
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรณีที่สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ แจ้งปรับราคาไข่คละหน้าฟาร์มขึ้น 0.20 บาท/ฟอง จาก 3.60 เป็นฟองละ 3.80 บาท กรมฯ ได้ติดตามสถานการณ์ราคาไข่ไก่ทั่วประเทศ (ณ วันที่ 15 พ.ค. 66) พบว่าราคาขายปลีกไข่ไก่เบอร์ 3 เฉลี่ยทั่วประเทศอยู่ที่ฟองละ 3.90 บาท โดยราคาขายปลีกที่ตลาดสด อยู่ที่ฟองละ 3.2 - 4.4 บาท ส่วนห้างค้าปลีกค้าส่งราคาอยู่ที่ฟองละ 3.7 – 4.1 บาท ซึ่งยังอยู่ภายใต้โครงสร้างราคาไข่ไก่ที่กรมการค้าภายในกำกับดูแล โดยได้มีการควบคุมราคาให้เป็นไปตามโครงสร้างและคุมเข้มไม่ให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคาเกินสมควร ทั้งนี้ การปรับราคาไข่ไก่ มีสาเหตุมาจากต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ประกอบกับสภาพอากาศร้อนจัด ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้แม่ไก่ออกไข่ได้น้อยลงและมีขนาดเล็กลง
อย่างไรก็ตาม กรมการค้าภายใน ได้มีมาตรการช่วยเหลือผู้บริโภค โดยจำหน่ายไข่ไก่ราคาต่ำกว่าท้องตลาดผ่านรถโมบายพาณิชย์ และโครงการ “พาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน” เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชน มั่นใจว่าการจำหน่ายไข่ไก่ราคาถูก ในราคาประหยัดแก่ผู้บริโภค จะเป็นช่องทางในการบรรเทาภาระค่าครองชีพให้กับผู้บริโภคได้ รวมทั้งได้มีการกำกับดูแลและติดตามสถานการณ์ราคาไข่ไก่อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้มีการเอาเปรียบผู้บริโภค หากพบผู้ค้ารายใดมีพฤติกรรมจำหน่ายไข่ไก่ในราคาสูงเกินสมควร สามารถร้องเรียนได้ที่ สายด่วน 1569
เกษตรกรรม/สิ่งแวดล้อม
พระยาแรกนาเสี่ยงทายหยิบผ้าได้ 5 คืบ พยากรณ์ว่า น้ำในปีนี้จะมีปริมาณพอดี
เวลาประมาณ 08.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต มายังพลับพลาที่ประทับเพื่อเป็นองค์ประธานในงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ปีพุทธศักราช 2566 ณ บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง
พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ สำหรับในปีนี้ ผู้ทำหน้าที่พระยาแรกนาคือ นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้ทำหน้าที่พระยาแรกนา เทพีคู่ หาบทอง เทพีคู่หาบเงิน ผู้เชิญเครื่องอิสริยยศ และคู่เคียงในกระบวนแห่อิสริยยศพระยาแรกนา และมีพระโคแรกนา ได้แก่ พระโคพอและพระโคเพียง
สำหรับผลการพยากรณ์ถึงความสมบูรณ์ของพืชพันธุ์ธัญญาหารของประเทศ นายอภัย สุทธิสังข์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำหน้าที่ถวายรายงานการพยากรณ์ ผลการเสี่ยงทายผ้านุ่งแต่งกาย และพระโคกินเลี้ยง ในปี พ.ศ.2566 นี้ พระยาแรกนาได้ตั้งสัตยาธิษฐาน หยิบได้ผ้านุ่ง 5 คืบ พยากรณ์ว่า น้ำในปีนี้จะมีปริมาณพอดี ข้าวกล้าในนา จะได้ผลบริบูรณ์และผลาหาร มังสาหาร จะอุดมสมบูรณ์ดี ผลการเสี่ยงทายของกิน 7 สิ่ง ที่ตั้งเลี้ยงพระโค พระโคกินหญ้าและเหล้า ซึ่งผลเสี่ยงทายกล่าวว่า ถ้าพระโคกินหญ้า พยากรณ์ว่า น้ำท่าจะบริบูรณ์พอสมควร ธัญญาหาร ผลาหาร ภักษาหาร มังสาหาร จะอุดมสมบูรณ์ดี และพระโคกินเหล้า พยากรณ์ว่า การคมนาคมสะดวกขึ้น การค้าขายกับต่างประเทศดีขึ้น ทำให้เศรษฐกิจรุ่งเรือง
ในโอกาสเดียวกันนี้ ปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน เกษตรกรและบุคคลทางการเกษตรดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2565 จำนวน 3 ราย และเกษตรกร สถาบันเกษตรกร สหกรณ์ดีเด่นแห่งชาติ และปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน ประจำปี 2566 จำนวน 33 ราย รวม 35 ราย ได้รับพระราชทานโล่เกียรติคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ประชาชน เกษตรกรจากทั่วสารทิศ เก็บเมล็ดพันธุ์ข้าว ในงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญปี 2566
บรรยากาศภายหลังจากเสร็จงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญปี 2566 ที่บริเวณท้องสนามหลวง มีประชาชน เกษตรกร ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดต่างตั้งใจเข้าเก็บเมล็ดพันธุ์ข้าว บนแปลงนาพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ โดยส่วนใหญ่มีความตั้งใจจะนำเมล็ดพันธุ์เหล่านี้กลับไปเก็บบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคลของการเริ่มต้นฤดูกาลทำนาปี
จากการสอบถามประชาชนส่วนใหญ่ ที่มารอรับเสด็จและตั้งใจมารับเมล็ดพันธุ์ข้าวต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า มีความตั้งใจเป็นอย่างยิ่งที่จะมารอเก็บเมล็ดเพื่อจะนำเมล็ดพันธ์ข้าวไปปลูก ซึ่งเชื่อว่าเมล็ดพันธุ์จะให้ความสมบูรณ์
สำหรับพันธุ์ข้าวพระราชทานที่ใช้ในพระราชพิธีปีนี้มีทั้งสิ้น 6 สายพันธุ์ น้ำหนักรวมทั้งสิ้น 2,244 กิโลกรัม แต่ละสายพันธุ์มีความโดดเด่นที่แตกต่างกันได้แก่ พันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 ,พันธุ์ปทุมธานี 1 ,พันธุ์กข 6 ,พันธุ์กข 87 ,พันธุ์กข 85 และ พันธุ์กข 43 เป็นต้น
สังคม
ธ.ก.ส. เตือนระวังมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นตัวแทนธนาคารปล่อยเงินกู้นอกระบบ
นายไพศาล หงษ์ทอง ผู้ช่วยผู้จัดการและโฆษกธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ มีกลุ่มผู้ไม่หวังดีแอบอ้างเป็นบริษัทตัวแทนธนาคารในการนำเสนอเงินกู้นอกระบบ จัดทำเอกสารนัดรับเงินกู้และแอบอ้างชื่อและตราสัญลักษณ์ รวมถึงลายเซ็นต์พนักงาน โดยให้ชำระค่าคิวล่วงหน้าก่อนการรับสินเชื่อ ธ.ก.ส. ขอเรียนว่า ธ.ก.ส. ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าว อีกทั้งธนาคารไม่มีนโยบายในการให้สินเชื่อผ่านตัวแทนบริษัท หรือมีการชำระค่าคิวล่วงหน้าก่อนรับสินเชื่อ ขอให้เกษตรกรลูกค้าและประชาชนทั่วไปอย่าหลงเชื่อบริษัท หรือบุคคลที่มีพฤติการณ์ดังกล่าว พร้อมย้ำเตือนให้ลูกค้าทุกท่าน เพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งขึ้นในการติดต่อหรือทำธุรกรรมออนไลน์ เนื่องด้วยปัจจุบันมิจฉาชีพมีรูปแบบการหลอกลวงที่หลากหลาย หากไม่แน่ใจสามารถติดต่อโดยตรงที่ธนาคาร หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02 555 0555 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งธนาคารจะดําเนินการเอาผิดตามขั้นตอนทางกฎหมายกับผู้ที่หลอกลวงในลักษณะดังกล่าวต่อไป
ธ.ก.ส. มีผลิตภัณฑ์ด้านสินเชื่ออย่างหลากหลายที่มีอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน เช่น สินเชื่อสานฝันสร้างอาชีพ สินเชื่อนวัตกรรมดี มีเงินทุนและสินเชื่อ SME เสริมแกร่ง อัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 4 เป็นต้น ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลและข่าวสารด้านผลิตภัณฑ์และบริการ ผ่านช่องทางการสื่อสารหลักของธนาคาร ได้แก่ เว็บไซต์ www.baac.or.th Facebook Page “ธกส BAAC Thailand” และ LINE Official Account : @baacfamily
กรมการศาสนา รวบรวมองค์ความรู้วิถีชุมชนต้นแบบ จัดทำเป็นคู่มือแนะนำการเข้าวัดปฏิบัติธรรมสวนะ
นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมเข้าวัดปฏิบัติธรรมสวนะ ครอบครัวหิ้วตะกร้า ศรัทธาอิ่มบุญ อุดหนุนชุมชน ส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าวัดทำบุญเป็นประจำทั้งในวันพระและวันธรรมดาเพิ่มมากขึ้น โดยนำร่องช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านที่วัดบำเพ็ญเหนือ กรุงเทพมหานคร และขยายผลไปยังส่วนภูมิภาค ซึ่งในวันที่ 19-20 พ.ค. นี้ จะมีการจัดกิจกรรมที่วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อ.ลี้ จ.ลำพูน ซึ่งเป็นวัดเครือข่ายศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ และโครงการพลังบวรในมิติศาสนาโดยชุมชนบ้านห้วยต้ม มีชาวปกาเกอะญอ ที่เลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า และกินมังสวิรัติ ก่อให้เกิดจารีตประเพณีการทำบุญตักบาตรด้วยผักและผลไม้ จนกลายเป็นจารีตประเพณีที่โดดเด่นของ จ.ลำพูน
โดยทุกวันธรรมสวนะ หรือวันพระ จะถือเป็นวันหยุดของชุมชน คนในชุมชมจะพาครอบครัวเข้าวัดปฏิบัติธรรม ในตอนเช้าจะหุงหาอาหารนำไปถวายเป็นภัตตาหารแด่พระสงฆ์ แล้วจึงกลับบ้านไปทานอาหาร พร้อมทั้งเก็บผักและผลไม้ที่ปลูกในสวน ไร่ นา บริเวณบ้าน นำไปตักบาตรผัก ผลไม้ ถวายแด่พระสงฆ์ในช่วงเพล เพื่อให้ทางวัดนำไปปรุงเป็นภัตตาหารถวายแด่พระสงฆ์สามเณรในวันต่อไป ทั้งนี้ หลังจากการจัดกิจกรรมแต่ละพื้นที่ ศน.จะรวบรวมองค์ความรู้ของวิถีแต่ละชุมชนต้นแบบ เพื่อนำมาจัดทำเป็นคู่มือแนะนำการเข้าวัดปฏิบัติธรรมสวนะ เผยแพร่ให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวใช้เป็นหลักปฏิบัติได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมด้วย
ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : ธนพิชฌน์ แก้วกา
ผู้เรียบเรียง : ธนพิชฌน์ แก้วกา
แหล่งที่มา : หน่วยงานสำนักข่าว