สรุปข่าวประจำสัปดาห์ (1-5 พฤษภาคม 2566)

สรุปข่าวประจำสัปดาห์ (1-5 พฤษภาคม 2566)
การเมือง/มั่นคง
1 พฤษภาคม 2566
เลขาธิการ กกต. ขอประชาชนมั่นใจการพิมพ์บัตรเลือกตั้งเป็นไปตามปกติ
นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการแก้ปัญหาหนังสือแนะนำผู้สมัครรับเลือกตั้ง สำหรับการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่สีซีดจาง ว่า ในการแก้ปัญหาสำหรับการเลือกตั้งล่วงหน้าในประเทศและการเลือกตั้งทั่วไป กกต.ได้อำนวยความสะดวกข้อมูลให้แก่ผู้มีทธิเลือกตั้งให้ได้มากที่สุด โดยผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถติดตามข้อมูลผู้รับสมัครเลือกตั้งเพิ่มเติมได้ผ่านหนังสือแจ้งเจ้าบ้าน และ Application : Smart Vote ส่วนการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งที่เกินจำนวนผู้ใช้สิทธิมากว่า 4,000,000 ฉบับ ว่า กกต. ได้จัดพิมพ์ในลักษณะดังกล่าวทุกการเลือกตั้ง เนื่องจากการจ่ายบัตรเลือกตั้ง กกต.จะจ่ายเป็นเล่มไม่ได้แจกแยกฉบับ และยังจะต้องมีการสำรองบัตรเลือกตั้งกรณีมีความชำรุดหรือเสียหาย และกรณีที่ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งรายชื่อตกหล่น ซึ่งสามารถแจ้งเพิ่มรายชื่อได้ภายในวันที่ 3 พฤษภาคมนี้ จึงขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า การดำเนินการของ กกต. เป็นไปตามปกติ
เลขาธิการ กกต. ยังกล่าวถึงการรักษาหีบบัตรเลือกตั้งเพื่อไม่ให้มีการสลับ หรือเปลี่ยนหีบบัตรเลือกตั้ง ว่า แต่ละหีบบัตรจะมีการปิดผนึกสายรัดที่มีรหัส และระบุหมายเลขคันรถที่จะต้องตรงกัน และการรักษาหีบบัตรจะมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดตรวจสอบได้ตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งอนุญาตเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องที่ กกต. อนุญาตเท่านั้นที่จะสามารถเข้าไปในบริเวณเก็บรักษาหีบบัตรเลือกตั้งได้
ตำรวจเตือนประชาชนระวังแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างกรมสรรพากรหลอกลวงช่วงก่อนและหลังยื่นภาษี
พลตำรวจเอก สมพงษ์ ชิงดวง หัวหน้าคณะทำงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันต้านภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยว่า รูปแบบการหลอกลวงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในปัจจุบันมักมีการเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์และความสนใจของประชาชน โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งประชาชนต้องดำเนินการเกี่ยวกับภาษี เช่น การยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภงด.9) พบว่ามิจฉาชีพมักแอบอ้างหน่วยงานกรมสรรพากรเพื่อหลอกลวงเหยื่อ ทั้งยังมีการหาข้อมูลประกอบเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือทำให้มีเหยื่อหลงเชื่อจนต้องสูญเสียทรัพย์สินจำนวนมาก
ขอเตือนให้ประชาชนใช้ความระมัดระวัง ตรวจสอบข้อมูลกับหน่วยงานโดยตรงก่อนหลงเชื่อและไม่ขายข้อมูลส่วนตัวเช่นข้อมูลในบัตรประชาชน เพราะอาจถูกนำไปใช้ในการกระทำผิด โดยเฉพาะการเป็นเจ้าของบัญชีม้า ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.ก.ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯ
ด้านนายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ รองอธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า มิจฉาชีพที่แอบอ้างกรมสรรพากรไปหลอกลวงประชาชนมี 2 รูปแบบคือ หลอกว่าจะให้ประโยชน์ และหลอกให้กลัวว่ามีความผิด ซึ่งกลุ่มดังกล่าวมีมากถึงร้อยละ 90 โดยในช่วงการยื่นแบบแสดงภาษีฯ มิจฉาชีพจะอ้างเรื่องคืนเงินภาษีให้ หลังจากนั้นจะกล่าวอ้างเรื่องการถูกตรวจสอบภาษี หรือถูกนำข้อมูลไปใช้เปิดบริษัทที่กระทำผิดเกี่ยวกับภาษี ต้องส่งข้อมูลหรือโอนเงินมาให้ตรวจสอบ ขอแจ้งเตือนประชาชน หากมีผู้แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรติดต่อไป สามารถสอบถามข้อเท็จจริงกับหน่วยงานโดยตรงก่อนได้ที่ หมายเลขสายด่วน 1661 หรือสอบถามที่สรรพากรสาขาในพื้นที่ พร้อมยืนยันว่ากรมสรรพากร ไม่เคยมีนโยบายติดต่อกับประชาชนครั้งแรกผ่านแอปพลิเคชัน LINE
2 พฤษภาคม 2566
การจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
นายณรงค์ บุญเสถียรวงศ์ (บุน-เสถียน-วง) รองอธิบดีกรมการกงสุล กล่าวถึงภาพรวมการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ว่า ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย การส่งบัตรเลือกตั้งไปยังประเทศต่างๆ เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ประมาณวันที่ 20-21 เมษายน สถานกงสุลใหญ่และสถานเอกอัครราชทูตไทยในประเทศต่างๆ ได้รับบัตรเลือกตั้งครบถ้วน
ล่าสุดการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร เริ่มแล้วตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน และจะเสร็จสิ้นในวันที่ 5 พฤษภาคม ซึ่งเป็นการจัดการเลือกตั้ง 3 แบบคือ จัดการเลือกตั้งแบบคูหา ทางไปรษณีย์ และอื่นๆ หรือการจัดการเลือกตั้งสัญจร กรณีประเทศที่มีคนไทยอาศัยอยู่กระจายตัว ไม่ว่าจะเป็นเมืองใหญ่ หรือแคมป์คนงาน เพื่ออำนายความสะดวกประชาชน การจัดการเลือกตั้งเป็นไปตามแผน โดยเฉพาะช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่บางประเทศที่คนไทยทำงานในวันหยุด ทางสถานกงศุล จะพิจารณาจัดการเลือกตั้งตามความเหมาะสมทั้งวัน เวลา และสถานที่ ซึ่งถุงเมล์ที่บรรจุบัตรเลือกตั้งเริ่มทยอยกลับสู่ประเทศไทยแล้ว โดยตั้งแต่ 28-30 เมษายน มีถุงเมล์บรรจุบัตรเลือกตั้งมาถึงแล้วจาก 6 แห่ง และช่วง 2-3 วันนี้จะมีบัตรเลือกตั้งมาถึงอีก 18 แห่ง
สำหรับการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร มีคนไทยในต่างประเทศลงทะเบียนใช้สิทธิ์ ทั้งสิ้น 115,139 คน มากที่สุดอยู่ที่ออสเตรเลีย 19,830 คน สหรัฐอเมริกา 15,000 คน สหราชอาณาจักร และญี่ปุ่น 7,500 คน เยอรมนี 5,900 คน ทั้งนี้เพื่อป้องกันการขนส่งบัตรเลือกตั้งล่าช้า เนื่องจากหลายเมืองอยู่ห่างไกลต้องต่อเที่ยวบิน ทางกระทรวงการต่างประเทศ จึงอนุมัติให้เจ้าหน้าที่สถานทูต สถานกงศุลใหญ่นำถุงเมล์มาส่งด้วยตัวเอง เพื่อให้การจัดการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เมื่อมาถึงประเทศไทย จะมีเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศไปรับถุงเมล์จากคลังสินค้า(คาร์โก) นำไปส่งที่ไปรษณีย์ไทย ซึ่งจะมีคณะกรรมการ 3 ฝ่าย ประกอบด้วย กระทรวงการต่างประเทศ กกต. และไปรณีย์ไทย ทำการคัดแยกร่วมกัน จากนั้นไปรษณีย์ไทย เจ้าของพื้นที่จะเก็บบัตรเลือกตั้งไว้ที่ห้องมั่นคง ซึ่งมีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างดี เพื่อรอเวลาส่งไปยังหน่วยเลือกตั้งแต่ละเขตของผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ประมาณวันที่ 10-11 พฤษภาคม 2566
ส่วนคนไทยที่ลงทะเบียนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่ซูดานที่ยกเลิกไป สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้มีคำสั่งยกเลิกการลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งและการลงคะแนนแล้ว โดยซึ่งผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์ทั้ง 94 คนจากซูดาน สามารถไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งตามภูมิลำเนาที่ตนเองมีรายชื่อในประเทศไทยได้เลย
กกต.เผย 1-2 วันนี้ จะมีข่าวใหญ่แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด
นายปกรณ์ มหรรณพ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีมีข่าวว่า จะมีการยุบพรรคก่อนการเลือกตั้ง โดยย้ำว่า ไม่มีสัญญาณเรื่องการยุบพรรค แต่อาจมีอะไรเกิดขึ้นในช่วง 1-2 วันนี้ ซึ่งเรื่องอะไรที่ไม่ถูกต้องจะแจ้งให้ทราบไม่มีอะไรปิดบัง ยืนยันว่าจะทำหน้าที่ตรงไปตรงมา พร้อมกล่าวถึงการติดตามข่าวที่มีผลกระทบต่อการทำงานของ กกต. โดยจะเน้นไปที่ต้นตอของข่าวที่จะมีการพิจารณาถึงการดำเนินคดีเบื้องต้นมี 2 เรื่องคือ กรณีการจัดดีเบตที่จังหวัดชลบุรี ที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ใช้คำพูดระบุว่า “ปี 2562 กกต.เปลี่ยนแปลงสูตรการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ” และกรณีนายแพทย์ พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช แกนนำพรรคเพื่อไทย ดีเบตเวทีเนชั่น ระบุว่า กกต.เปลี่ยนสูตรการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าการดำเนินการของ กกต.ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่ง กกต.จะพิจารณาเรื่องนี้หลังการเลือกตั้ง เพราะหากดำเนินการในขณะนี้จะมีผลต่อคะแนนเสียง โดยเบื้องต้นให้ฝ่ายกฎหมายรวบรวมข้อมูลแล้ว ส่วนจะดำเนินคดีกับใครจะเป็นมติของ กกต.
กรรมการการเลือกตั้ง ยังกล่าวขอบคุณนายเศรษฐา ทวีสิน แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่สื่อมวลชนพยายามขอให้วิจารณ์การทำงานของ กกต. แต่ไม่พูดถึง กกต.เป็นการส่วนตัว
3 พฤษภาคม 2566
กทม. ติดตั้งวงจรปิด บริเวณจุดเก็บหีบบัตรเลือกตั้ง ระบบการประมวลผลคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงความพร้อมในการติดตั้งกล้องวงจรปิด บริเวณสถานที่เก็บหีบและเลือกตั้งทั้ง 33 จุด หลังจากที่ กกต.อนุญาตให้สามารถดำเนินการได้ และระบบการประมวลผลคะแนนเลือกตั้ง โดยมีนายสานนท์ หวานสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมในการแถลง ที่ห้องศูนย์ปฏิบัติการ ติดตามการจราจรและความปลอดภัยกลางถนนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ระบบการตรวจสอบความปลอดภัยหีบบัตรเลือกตั้ง จะมีเซ็นเซอร์ ในการตรวจจับการเคลื่อนไหว โดยจะสามารถแจ้งเตือนผ่านทาง LINE ซึ่งอาจจะต้องหารือกับทาง กกต.ว่า การติดตั้งกล้องสามารถติดตั้งภายในห้องที่เก็บหีบบัตรได้หรือไม่ หรือติดตั้งได้เฉพาะหน้าห้อง แต่ละจุดมีกล้องจำนวน 2 ตัว ซึ่งหลังจากนี้จะดำเนินการทำระบบที่สามารถเข้าไปดูถ่ายทอดสดได้ ซึ่งจะดำเนินการเพิ่มจำนวนเซิร์ฟเวอร์ เพื่อรองรับผู้ชม ซึ่งขณะนี้ ได้ดำเนินการติดตั้งกล้องวงจรปิดที่มีระบบ Motion Detect ตรวจจับความเคลื่อนไหว ครบทั้ง 33 จุดแล้ว ส่วนระบบการเชื่อมต่อ ดำเนินการไปแล้ว 31 จุด และจะดำเนินการเสร็จสิ้นภายในวันนี้
ส่วนการประมวลคะแนนหน่วยเลือกตั้ง 6,327 หน่วย ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 จะดำเนินการโดยใช้ระบบ AI โดยกรณี ใบ 5/18 ซึ่งเป็นใบรายงานผลคะแนนของเจ้าหน้าที่ ทาง กกต.อนุญาตให้ถ่ายภาพส่งมาที่ส่วนกลาง ศาลาว่าการ กทม.ได้ โดยหลักฐานที่เป็นทางการยังต้องยึดของ กกต. ซึ่งทำให้เห็นว่าเทคโนโลยี สามารถทำให้เห็นผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการรวดเร็วขึ้น โดยกรุงเทพมหานครพยายามสำรวจวิธีการ ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ต้องการดำเนินการคือ การนับจำนวนผู้ใช้สิทธิ์ แบบ Real Time รายชั่วโมง โดยได้นำเสนอ กกต.ว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ วิธีการดำเนินการคือ ดูที่ต้นขั้ว และส่งผลจำนวนผู้ใช้สิทธิ์รายชั่วโมง มาทาง LINE กลุ่ม เพื่อเปรียบเทียบกัน ซึ่งทาง กทม.มีความพร้อม โดยจะดำเนินการอย่างโปร่งใสและยุติธรรม
4 พฤษภาคม 2566
กทม. พร้อมจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรล่วงหน้าวันที่ 7 พฤษภาคมนี้
นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครมีความพร้อมจะจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ( ส.ส.) ล่วงหน้าในวันที่ 7 พฤษภาคมนี้แล้วในทุกสำนักงานเขต รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ โดยผู้ที่ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ต้องไปใช้สิทธิตามที่ได้ลงทะเบียนไว้ ตั้งแต่เวลา 08.00 น.-17.00 น. เพราะหากไม่ไปใช้สิทธิ จะไม่สามารถไปเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคมได้อีก
ส่วนบัตรเลือกตั้ง ได้จัดเตรียมห้องปลอดภัยเก็บบัตรเลือกตั้ง จะมีการนำบัตรเลือกตั้งและอุปกรณ์ต่างๆ มาจัดเตรียมไว้ในห้องดังกล่าว รวมถึงบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าที่ลงคะแนนแล้วมาเก็บไว้ด้วย จะมีการติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) ติดตามความเคลื่อนไหวตลอดเวลา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นถึงกระบวนการจัดการเลือกตั้งว่าเป็นไปด้วยความความโปร่งใส ก่อนจะนำมานับคะแนนพร้อมกันในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้
สำหรับในกรุงเทพมหานคร มีผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งทั้งหมดกว่า 800,000 คน และในจำนวนนี้กว่าหมื่นคนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในพื้นที่กรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขต โดยเขตบางกะปิและปทุมวันมีรายชื่อผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุด
ปลัดกรุงเทพมหานคร ยังกล่าวถึงรูปแบบของการเลือกตั้งล่วงหน้า จะมีความแตกต่างจากการเลือกตั้งทั่วไปคือ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะได้บัตรเลือกตั้งทั้ง 2 ใบ พร้อมกับซองจดหมายใส่บัตรเลือกตั้งและมีการเซ็นกำกับตรงบริเวณรอยต่อของซองที่ใส่บัตรเลือกตั้ง หลังจากที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งปิดผนึกซองแล้ว นำมาหย่อนในหีบบัตรเลือกตั้งมีอยู่เพียงใบเดียว
ส่วนการเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม จะมีหีบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เพื่อหย่อนบัตรเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเป็นสีม่วงและแบบบัญชีรายชื่อสีเขียว ขณะที่ หน่วยเลือกตั้งล่วงหน้าการเลือกตั้งมี 50 เขต ส่วนการเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคมมีกว่า 6 พันหน่วยกระจายทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานครทั้ง 33 เขต พร้อมเน้นย้ำข้อห้ามเรื่องการขาย จําหน่าย จ่ายแจก หรือจัดเลี้ยงสุราทุกชนิดในเขตเลือกตั้งระหว่าง เวลา 18.00 น. ของวันก่อนวันเลือกตั้งหนึ่งวัน จนถึงเวลา 18.00 น. ของวันเลือกตั้ง รวมถึงช่วงวันเลือกตั้งล่วงหน้าด้วย
กกต. ออกแนวแนวทางปฏิบัติในการหาเสียงเลือกตั้งในวันออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้ง
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ขอประชาสัมพันธ์แนวทางการปฏิบัติในการหาเสียงในวันออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้ง เพื่อให้การหาเสียงเลือกตั้งของพรรคการเมือง และผู้สมัครรับเลือกตั้ง ไม่มีผลกระทบต่อการออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้งและเป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
โดยการหาเสียงเลือกตั้งในวันก่อนวันเลือกตั้ง ห้ามมิให้ผู้สมัคร หรือพรรคการเมือง หรือผู้ช่วยหาเสียงของผู้สมัคร หรือพรรคการเมือง หรือผู้ใดแล้วแต่กรณี ดำเนินการแจกเอกสาร หรือวีดิทัศน์ เกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้ง หรือใช้พาหนะต่างๆ ที่ติดป้ายหาเสียง หรือใช้เครื่องขยายเสียง เพื่อช่วยในการหาเสียงเลือกตั้ง หรือจัดเวทีหาเสียงเลือกตั้ง ณ ที่เลือกตั้งกลาง ห้ามกระทำการที่บริเวณใกล้เคียงกับที่เลือกตั้งกลาง หรือบริเวณอื่นใดที่จะทำให้เกิดการรบกวน รับรู้ หรือรับทราบข้อมูล เมื่ออยู่ในที่เลือกตั้งกลาง
ประชาชน พรรคการเมืองและผู้ที่เกี่ยวข้อง สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง www.ect.go.th แอปพลิเคชัน Smart Vote หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน 1444
5 พฤษภาคม 2566
กกต. ประชาสัมพันธ์ แนวทางการแจ้งเหตุที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ประชาสัมพันธ์แนวทางในการดำเนินการแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง หากผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566 และวันเลือกตั้งล่วงหน้าในวันอาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคม 2566 ได้ ให้แจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งตามแบบ ส.ส. 1/8 หรือทำเป็นหนังสือ ซึ่งอย่างน้อยต้องระบุหมายเลขประจำตัวประชาชน และที่อยู่ตามหลักฐานทะเบียนบ้านให้ชัดเจน พร้อมทั้งแจ้งด้วยว่าไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ด้วยเหตุใด โดยยื่นต่อนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นที่ตนเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งด้วยตนเอง หรือทำเป็นหนังสือมอบหมายให้บุคคลอื่นไปยื่นแทน หรือจัดส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน หรือแจ้งโดยวิธีการ ทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านทางแอปพลิเคชัน Smart Vote เหตุอันสมควรที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ อาทิ มีกิจธุระจำเป็นเรงด่วนที่ต้องเดินทางไปพื้นที่ห่างไกล เจ็บป่วยและไม่สามารถดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ เป็นคนพิการหรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุและไม่สามารถเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ เดินทางออกนอกราชอาณาจักร และมิได้แจ้งความประสงค์ขอใช้สิทธิเลือกตั้ง// มีถิ่นที่อยู่ห่างไกลจากที่เลือกตั้งเกินกว่า 100 กิโลเมตร มีเหตุสุดวิสัย หรือเหตุอื่นที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด โดยสามารถแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ ช่วงก่อนเลือกตั้งคือ วันที่ 7 - 13 พฤษภาคม 2566 และหลังเลือกตั้ง คือวันที่ 15 - 21 พฤษภาคม 2566
ทั้งนี้ เมื่อนายทะเบียนอำเภอ หรือนายทะเบียนท้องถิ่น ได้รับการแจ้งเหตุแล้วเห็นว่า เหตุที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งแจ้งไม่ใช่เหตุอันสมควร ให้แจ้งผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ทราบภายใน 3 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง หรือผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ที่ได้รับแจ้งว่าเหตุที่แจ้งนั้น ไม่ใช่เหตุผลอันสมควร มีสิทธิยื่นอุทธรณ์ต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดภายใน 30 วัน นับแต่วันเลือกตั้งและให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด พิจารณาคำร้องให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้อง ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง www.ect.go.th หรือสอบถามสายด่วน 1444 นอกราชอาณาจักร
ตำรวจเตือน 5 ข้อห้ามสำหรับการเลือกตั้งล่วงหน้า เข้าข่ายผิดกฎหมาย มีโทษทั้งจำและปรับ
พลตำรวจโท นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศลต.ตร.) แจ้งเตือนประชาชนที่จะไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรล่วงหน้า ในวันอาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคมนี้ให้ระมัดระวังการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 5 ข้อคือ ห้ามนำบัตรเลือกตั้งออกจากหน่วยเลือกตั้ง ฝ่าฝืนมีโทษ จำคุก 1-5 ปี ปรับ 20,000 – 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี ห้ามถ่ายภาพบัตรเลือกตั้งที่ตนเองลงคะแนนแล้ว ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ห้ามเรียก รับ หรือยอมจะรับเงิน ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด เพื่อลงคะแนนหรืองดเว้นไม่ลงคะแนนฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 1-5 ปี ปรับ 20,000 – 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี ห้ามจงใจทำบัตรเลือกตั้งชำรุด หรือจงใจทำบัตรเสียให้เป็นบัตรที่ใช้ได้ ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี และห้ามนําบัตรที่ลงคะแนนแล้วแสดงต่อผู้อื่น เพื่อให้ทราบว่าตนได้เลือกหรือไม่เลือกผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษ จําคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
ทั้งนี้ ตั้งแต่เวลา 18.00 น.ของวันที่ 6 พฤษภาคม 2566 ถึง 18.00 น. ของวันที่ 7 พฤษภาคม 2666 คณะกรรมการการเลือกตั้งยังได้ประกาศห้ามจำหน่าย จ่าย แจก หรือจัดเลี้ยงสุรา ทั่วประเทศ หากพบเห็นการกระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้ง สามารถแจ้งตำรวจได้ที่ สถานีตำรวจนครบาล สถานีตำรวจภูธรทุกแห่ง หรือ โทร.191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือแจ้งสายด่วน กกต. 1444
กระทรวงมหาดไทย กำชับผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด อำนวยความสะดวกกลุ่มเปราะบาง ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ได้ขอความร่วมมือให้กระทรวงมหาดไทย อำนวยความสะดวกและสนับสนุนการเลือกตั้งแก่กลุ่มเปราะบาง ทั้งผู้สูงอายุ ผู้พิการ หรือทุพพลภาพ ให้สามารถเข้าถึงการใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2566 ได้ด้วยความเสมอภาคกระทรวงมหาดไทย มีหนังสือสั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกพื้นที่ อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง โดยจะจัดให้มีรถส่วนกลางรับส่ง จากสถานที่เลือกตั้ง ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 และระเบียบของทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง
นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำให้ทุกจังหวัด จัดทำและเผยแพร่สื่อประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้ง เพื่อรณรงค์เชิญชวนประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง พร้อมสนับสนุนศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยในพื้นที่ ดำเนินกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมการเลือกตั้ง เพื่อรณรงค์ลดบัตรเสีย โดยสาธิตการทำเครื่องหมายกากบาทบนบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร รวมทั้งกำชับเจ้าหน้าที่จะต้องไม่กระทำการใดๆ เพื่อเป็นการจูงใจ หรือใช้ตำแหน่งหน้าที่ อันเป็นคุณหรือเป็นโทษต่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือพรรคการเมืองโดยเด็ดขาด
เศรษฐกิจ/ท่องเที่ยว
1 พฤษภาคม 2566
ธนาคารแห่งประเทศไทย ปรับเกณฑ์โครงการคลินิกแก้หนี้ เพิ่มโอกาสปลดหนี้ได้เร็วขึ้น
นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือประชาชนแก้ไขปัญหาหนี้สิน โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็นหนี้เสียให้สามารถแก้ไขกลับไปเป็นหนี้ปกติได้เร็วขึ้น ล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์โครงการคลินิกแก้หนี้ ให้สามารถช่วยเหลือผู้เป็นหนี้เสียกรณีบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หรือสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันได้อย่างครอบคลุมมากขึ้น
เกณฑ์ที่ปรับปรุงใหม่นี้ จะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่วันนี้ (1 พ.ค. 66 เป็นต้นไป ) โดยกำหนดคุณสมบัติให้ลูกหนี้ที่มีหนี้ค้างชำระมากกว่า 120 วันขึ้นไป สามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้ จากเดิมที่จำกัดว่าผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องเป็นผู้ที่มีสถานะเป็นหนี้เสียก่อนวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้เท่านั้น ซึ่งการปรับเกณฑ์นี้จะทำให้ผู้มีปัญหาการชำระหนี้สามารถเข้าร่วมโครงการได้โดยไม่ถูกจำกัดช่วงเวลาการเกิดหนี้เสียอีกต่อไป
ผู้ที่สนใจสามารถสมัครร่วมโครงการผ่านเว็บไซต์ www.คลินิกแก้หนี้.com หรือสอบถามคอลเซ็นเตอร์ โทร. 1443 ได้ทุกวัน เวลา 9.00 น.-19.00 น.
กรมการค้าต่างประเทศ นำสินค้าเกษตรนวัตกรรมไทย ร่วมแสดงในงานมหกรรมสินค้า Canton Fair 2023
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมการค้าต่างประเทศ โดยสถาบันส่งเสริมสินค้าเกษตรนวัตกรรม นำสินค้าเกษตรนวัตกรรมข้าวและพืชเศรษฐกิจไทยประเภทไม่ใช่อาหาร (Non – Food) เข้าร่วมจัดแสดงในงานแสดงสินค้า Canton Fair 2023 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้านานาชาติเพื่อการส่งออกและนำเข้าที่เก่าแก่และยิ่งใหญ่ที่สุดของสาธารณรัฐประชาชนจีนและภูมิภาคเอเชีย
งานดังกล่าวมีผู้นำเข้าชาวจีนและประเทศใกล้เคียง เข้ามาเลือกชมสินค้าและเจรจาธุรกิจภายในงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 133 ระหว่างวันที่ 1-5 พฤษภาคม 2566 ณ เมืองกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ทั้งนี้ ได้คัดเลือกสินค้าเกษตรนวัตกรรมไทยกว่า 30 รายการ อาทิ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ผลิตภัณฑ์เพื่อสัตว์เลี้ยง ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเยื่อปาล์ม ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสมุนไพร เข้าร่วมจัดแสดงสินค้าฯ ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่สินค้าเกษตรนวัตกรรมของไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ตลอดจนเป็นการทำตลาดเชิงรุกในจีน ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพและมีกำลังซื้อสูง
ปัจจุบันผู้บริโภคในต่างประเทศได้ให้ความสนใจในสินค้าเกษตรนวัตกรรมไทยประเภทไม่ใช่อาหารเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากสินค้าเกษตรมีส่วนผสมจากวัตถุดิบธรรมชาติ และไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทำให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจในด้านความปลอดภัยของสินค้า สถาบันส่งเสริมสินค้าเกษตรนวัตกรรม จึงเป็นกลไกสำคัญในการเร่งผลักดันสินค้าเกษตรนวัตกรรมไทย และช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการสินค้าเกษตรนวัตกรรมไทย ให้มีโอกาสในการขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้น ผ่านการจัดกิจกรรมต่างๆ
2 พฤษภาคม 2566
ธนาคารออมสิน เปิดให้กู้ติดตั้งหลังคาโซลาร์เซลล์ หนุนใช้พลังงานทดแทน ดอกเบี้ยคงที่ต่ำสุด ร้อยละ 1.99
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสินได้ออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อ GSB Go Green เพื่อสนับสนุนเงินทุนในการติดตั้งและซื้ออุปกรณ์สำหรับบุคคลธรรมดา โดยผู้กู้ต้องมีอายุ 20 ปี และเมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาชำระเงินกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี วัตถุประสงค์เพื่อติดตั้งหรือซื้ออุปกรณ์ที่ช่วยลดมลภาวะ เช่น Solar cell, Solar rooftop ติดตั้ง EV Charger สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า (EV) รถยนต์ไฮบริด รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 ที่ช่วยประหยัดพลังงาน รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องโดยกรณีผู้กู้มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ได้แก่ บ้านพร้อมที่ดิน คอนโดฯ ที่ดินเปล่า ให้กู้สูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท ผ่อนชำระไม่เกิน 30 ปี ดอกเบี้ยคงที่ต่ำสุดร้อยละ 1.99 และเงินงวดผ่อนต่ำแสนละ 199 บาทต่อเดือน นาน 3 เดือนแรก และกรณีไม่มีหลักประกัน (Clean Loan) ให้กู้ไม่เกิน 10 เท่าของรายได้รวมสูงสุดไม่เกินรายละ 500,000 บาท ชำระเงินกู้ไม่เกิน 7 ปี อัตราดอกเบี้ยคงร้อยละ 7.99 และเงินงวดผ่อนต่ำแสนละ 799 บาทต่อเดือน นาน 3 เดือนแรกโดยธนาคารจัดอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขพิเศษนี้ไปจนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2566 นี้เท่านั้น
ผู้สนใจสามารถติดต่อขอใช้บริการสินเชื่อได้ที่ ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ติดตามรายละเอียดที่ www.gsb.or.th หรือสอบถามเพิ่มเติมที่ GSB Contact Center โทร. 1115
3 พฤษภาคม 2566
ฟรี ค่าผ่านทางพิเศษ 3 สายทาง ในวันหยุดฉัตรมงคล 4 พฤษภาคมนี้
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม แจ้งว่า ในวันพฤหัสบดีที่ 4 พฤษภาคม 2566 เนื่องในวันฉัตรมงคล ซึ่งเป็นวันหยุดราชการประจำปีตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนในวันหยุดและช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน รวมทั้งช่วยลดปัญหาจราจรติดขัดบริเวณหน้าด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษ ?
กทพ. ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้นที่ 1) จำนวน 19 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) จำนวน 31 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา (บางปะอิน-ปากเกร็ด) จำนวน 10 ด่าน รวม 3 สายทาง ในวันที่ 4 พฤษภาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ถึง 24.00 น.
สินค้าไทย 5 ชนิด ครองส่วนแบ่งการค้าส่งออกสูงเป็นอันดับ 1 ในตลาดโลกปี 2565
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบรายงานผลการวิเคราะห์ 5 สินค้าไทย ที่ติดอันดับ 1 ในการครองส่วนแบ่งการค้าส่งออกในตลาดโลก ประจำปี 2565 พบว่า ทุเรียน มันสำปะหลัง ถุงยางอนามัย สับปะรดกระป๋อง และปลาทูน่ากระป๋อง มีมูลค่าการส่งออกและส่วนแบ่งในตลาดโลกเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะทุเรียน มีมูลค่าการส่งออกทุเรียนสดมูลค่า 3,219 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีส่วนแบ่งในตลาดโลกถึงร้อยละ 93.3 สะท้อนศักยภาพสินค้าไทย พร้อมส่งเสริมและขยายตลาดใหม่ที่น่าสนใจเพิ่มเติม
พร้อมเชื่อมั่นว่าสินค้าไทยในประเภทอื่นๆ ยังมีศักยภาพที่จะขยายตลาดใหม่ได้อีกมาก ผ่านนโยบายของรัฐบาล ในการส่งเสริมการกระจายสินค้าและการขายสินค้าทั้งตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ ส่งเสริมผู้ประกอบการไทย ตลอดจนการจับคู่ธุรกิจ ให้สอดรับกับความต้องการของผู้บริโภค เพื่อนำเสนอสินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด เพิ่มมูลค่าทางการค้าให้กับประเทศ
4 พฤษภาคม 2566
กระทรวงพาณิชย์ เปิดโครงการพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน Lot 24 “Back to School” ต้อนรับเปิดเทอม
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ จัดโครงการพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน Lot 24 “Back to School” ไปจนถึง 31 พฤษภาคมนี้ เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพผู้ปกครองในช่วงที่โรงเรียนกำลังจะเปิดเทอม โดยมีสินค้าทั้งสิ้น 11 หมวด กว่า 6,000 รายการ ลดสูงสุดถึงร้อยละ 85 อาทิ เครื่องแบบนักเรียน รองเท้า ถุงเท้า กระเป๋าเรียน ตำราเรียนและหนังสือ เครื่องเขียน สื่อการเรียนการสอน อุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์สำนักงาน และเบ็ดเตล็ด นอกจากนี้ยังมีอินเตอร์เน็ต และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ลดสูงสุดร้อยละ 60
โดยในปีนี้ได้รับความร่วมมือจากผู้ให้บริการ ได้แก่ AIS และ True รวมทั้งแพลตฟอร์มได้แก่ Shopee และ Lazada เข้าร่วมด้วย ทั้งนี้ประชาชนสามารถเลือกซื้อสินค้าโครงการพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน Lot 24 “Back to School” ได้ที่ Big C / Makro / Lotus’s / The Mall / เซ็นทรัล B2S / SuperSport / Office Mate / Power Buy / Robinson / ดูโฮม / โกลบอลล์เฮ้าส์ โฮมโปร และสมใจเครื่องเขียน
นอกจากนี้ ห้างศึกษาภัณฑ์ ยังจัดโครงการนำแบบเรียนเก่ามาแลกแบบเรียนใหม่ จะได้รับส่วนลดจากราคาปกติเพิ่มอีกร้อยละ 5 และหากสแกนคิวอาร์โค้ด Line@DITGO จะลดเพิ่มอีก 10 บาท จำนวน 20,000 สิทธิ์ พร้อมขอความร่วมมือผู้ประกอบการร้านค้าไม่ฉวยโอกาสขายสินค้าเกินราคาและปิดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจน หากพบเห็นไม่ปิดป้ายแสดงราคามีโทษปรับสุงสุด 10,000 บาท จำหน่ายสินค้าเกินราคา จำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับสูงสุด 10,4000 บาท หรือทั้งจำปรับ หากประชาชนพบเห็นสามารถร้องเรียนได้ที่ 1569 ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามโครงการพาณิชย์ลดราคาได้ที่ เว็บไซต์ https://www.dit.go.th/ หรือโทร. 0 2507 5530
5 พฤษภาคม 2566
มูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทยเดือนมีนาคม 2566 ขยายตัวร้อยละ 9.57
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบตัวเลขรายงานมูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทยในช่วงเดือนมีนาคม 2566 ขยายตัวร้อยละ 9.57 พร้อมรับทราบแผนโครงการขยายการค้าการลงทุนชายแดนและเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ใน 3 พื้นที่ กระตุ้นการค้าการลงทุน ตั้งเป้ามูลค่าการค้าชายแดนปี 2566 รวม 1 ล้าน 6 หมื่นล้านบาท
สำหรับขยายการค้าการลงทุนชายแดนและเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ใน 3 พื้นที่ ได้แก่ มหกรรมการค้าชายแดน ณ จังหวัดเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ด้านเมียนมาด้านกัมพูชา (กาญจนบุรี สระแก้ว ตราด) จัดที่จังหวัดสระแก้ว ช่วงเดือนมิถุนายน มหกรรมการค้าชายแดน ณ จังหวัดเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษด้านลาว (เชียงราย ตาก หนองคาย มุกดาหาร นครพนม) จัดที่จังหวัดหนองคาย ช่วงเดือนกรกฎาคม และมหกรรมการค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย จัดที่จังหวัดนราธิวาส ช่วงเดือนสิงหาคม ภายในงานจะจัดจำหน่ายสินค้าและบริการของผู้ประกอบการในภูมิภาคและส่วนกลาง พร้อมมีการฝึกอบรม สัมมนาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับ กฎระเบียบ สิทธิประโยชน์ การรับรองถิ่นกำเนิดสินค้ามาตรการทางการค้าและการเจรจาจับคู่ธุรกิจ ระหว่างผู้ประกอบการไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ผลักดันมาตรฐานการค้า เพิ่มศักยภาพด้านการค้าในภูมิภาค
ภาพรวมผลไม้ไทยปีนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เป็นที่ต้องการทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ
นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ได้ดำเนินมาตรการบริหารจัดการผลไม้ทั้งการจำหน่ายในประเทศและการส่งออก ซึ่งภาพรวมปีนี้ผลไม้ไทยมีปริมาณ 6.75 ล้านต้น เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณร้อยละ 3 โดยผลไม้ที่เพิ่มขึ้นได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง และที่ลดลงคือ ลิ้นจี่ มะม่วง และสัปปะรด เป็นผลมาจากการได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ และสภาพอากาศในช่วงที่ผ่านมา
สำหรับผลผลิตผลไม้ของภาคตะวันออก ถือว่าใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ส่วนภาคใต้เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว โดยจะต้องติดตามผลกระทบจากภัยแล้งที่คาดว่าจะทำให้มังคุดในภาคใต้เสียหายบางส่วน อย่างไรก็ตาม ถือว่าราคาผลผลิตผลไม้ปีนี้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยเฉพาะทุเรียนมีราคาสูงเนื่องจากเป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศ ประกอบกับมีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาด้านการขนส่งผ่านชายแดนทำให้เกิดการคล่องตัว ส่งผลให้ราคาทุเรียนส่งออกดี โดยเกรด A และ B ราคาอยู่ที่ 180 บาท เกรด D อยู่ที่ 125 บาท ขณะที่มังคุดส่งออกอยู่ที่ 175 บาท เกรดคละ 120 บาท ส่วนเงาะ 22 - 24 บาท สำหรับมะม่วงปีนี้ราคาสูงขึ้น เฉลี่ย 18 - 20 บาท โดยเฉพาะมะม่วงฟ้าลั่น ราคาอยู่ที่ 89 บาท
ทั้งนี้กรณีกลุ่มเกษตรผู้ปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองบ้านหนองปรือ จังหวัดพิษณุโลกได้ร้องเรียนราคามะม่วงตกต่ำนั้น จากการตรวจสอบพบว่า ปัจจุบันมีผู้เข้าไปรับซื้อจำนวนมาก โดยมีการรับซื้อผลผลิตตกเกรดกิโลกรัมละ 10 บาท และผลผลิตของกลุ่มเหลือไม่ถึง 50 ตันแล้ว ทั้งนี้ปัจจุบันได้เข้าสู่ปลายฤดูผลผลิตมะม่วงแล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่้มะม่วงจะสุกจัดและร่วงเป็นปกติ กรณีมะม่วงหล่นจะมีผู้ประกอบการรับซื้อนำผลผลิตเกรดนี้ไปทำให้เป็นสินค้ามะม่วงกวนต่อไป
สังคม
1 พฤษภาคม 2566
ชวนคนไทยสิทธิบัตรทอง 7 กลุ่มเสี่ยง เข้ารับบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า วันนี้ (1 พ.ค.66) เป็นวันแรกของการเริ่มให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ประจำปีงบประมาณ 2566 ภายใต้บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง สปสช. และกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข หน่วยบริการ/สถานพยาบาลในระบบบัตรทอง เป้าหมายเพื่อดูแลประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่ม สร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันภาวะแทรกซ้อนรุนแรงจากโรคไข้หวัดใหญ่ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
โรคไข้หวัดใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา การระบาดจะเกิดในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว คนทั่วไปจะมีอาการไม่มาก เช่น มีไข้สูง มีน้ำมูก ไอ เจ็บคอ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว เยื่อบุโพรงจมูกอักเสบ ส่วนใหญ่จะหายได้เอง แต่คนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงหากรับเชื้ออาจมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรงและอาจเสียชีวิตได้
การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ยังเป็นสิ่งที่จำเป็น ต่อคนที่เป็นกลุ่มเสี่ยง โดย 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ที่กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป กลุ่มเด็กอายุ 6 เดือน- 2 ปี กลุ่มผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรคคือ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน กลุ่มบุคคลที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป กลุ่มผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ) กลุ่มผู้มีโรคอ้วน และกลุ่มผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้
กรณีหญิงตั้งครรภ์นั้นมีวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้บริการตลอดทั้งปี ขอเชิญชวนประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง มารับฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ โดยไม่เสียค่าใช่จ่าย สามารถรับบริการได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2566 หรือจนกว่าวัคซีนจะหมดลง พร้อมย้ำว่าปีนี้วัคซีนฯ มีจำนวนจำกัด ผู้สิทธิบัตรทองที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง หรือมีคนในครอบครัวที่มีสิทธิบัตรทองและอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ให้รีบมารับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่โดยเร็ว ที่หน่วยบริการหรือสถานพยาบาลในระบบบัตรทอง ได้ทุกแห่ง ทั้งโรงพยาบาลรัฐ ศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่ กทม. และคลินิกเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ หรือสถานพยาบาลตามสิทธิที่ท่านไปรักษาเป็นประจำ โดยดูรายชื่อหน่วยบริการที่เข้าร่วมได้ที่แอปพลิเคชันเป๋าตัง เมนูกระเป๋าสุขภาพ เลือกสิทธิสุขภาพดีป้องกันโรค หรือโทร.สายด่วน สปสช. 1330 กด 8 เพื่อจองคิวฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้
ผู้ใช้แรงงานหลายพันคน เดินขบวนจากสะพานมัฆวานรังสรรค์ไปยังลานคนเมือง ยื่นข้อเรียกร้อง 7 ข้อต่อรัฐบาล
การจัดกิจกรรมวันแรงงานแห่งชาติวันนี้ (1 พ.ค.66) เริ่มตั้งแต่ช่วงเช้าจัดพิธีสงฆ์ที่กระทรวงแรงงาน ทำบุญถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์ จำนวน 9 รูป โดยมีสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (เจ้าคุณธงชัย) วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ จากนั้นริ้วขบวนของผู้ใช้แรงงานจากสภาองค์การลูกจ้างแห่งประเทศไทย 15 แห่ง สหพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย และกลุ่มแรงงานนอกระบบ เคลื่อนขบวนออกจากบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ มุ่งหน้าไปยังลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร โดยมีกลุ่มผู้ใช้แรงงานเข้าร่วมกิจกรรมหลายพันคน เดินถือป้ายข้อความ แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว แต่ผู้ใช้แรงงานก็มีสีหน้ายิ้มแย้ม โบกไม้โบกมือทักทายประชาชนที่สัญจรไปมาบนท้องถนน และมีนายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เดินนำหน้าขบวนสมาชิกของสภาองค์การลูกจ้าง บรรยากาศภาพรวมเป็นไปด้วยความคึกคัก มีตำรวจคอยอำนวยความสะดวกและดูแลตลอดเส้นทาง
สำหรับข้อเรียกร้องของสภาองค์การลูกจ้างที่ยื่นต่อรัฐบาล ประกอบด้วย 7 ข้อ เช่น ให้รัฐบาลรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 87 และ 98 ว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคม และสิทธิในการรวมตัวและเจรจาต่อรอง ,ให้รัฐบาลจัดตั้งกองทุนประกันความเสี่ยง ,ปฏิรูประบบประกันสังคม ปรับฐานบำนาญเริ่มต้นที่ 5,000 บาท ,ขยายอายุการเป็นผู้ประกันตนเริ่มต้น 15 ปี สิ้นสุดที่ 70 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับสังคมผู้สูงอายุ ให้ผู้รับเงินบำนาญชราภาพแล้ว คงสิทธิประกันสังคมรักษาพยาบาลตลอดชีวิต รวมทั้งจัดสร้างโรงพยาบาลประกันสังคม และจัดตั้งธนาคารแรงงาน
นายชินโชติ แสงสังข์ ประธานสภาองค์การลูกจ้างสภาแรงงานแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2566 กล่าวว่า ทันทีที่มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งหลังวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ ทางเครือข่ายแรงงานจะยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาลใหม่อีกครั้ง โดยย้ำข้อเรียกร้องให้รัฐบาลต้องรับรองอนุสัญญา ILO ฉบับที่ 87 และ 98 ที่มีการร้องมานานกว่า 30 ปี ส่วนเรื่องค่าจ้างขั้นต่ำ ซึ่งได้มีการปรับเพิ่มไปเมื่อเร็วๆ นี้ และมีหลายพรรคการเมืองนำเรื่องค่าแรงขั้นต่ำมาหาเสียงอีกครั้ง ถือว่าเป็นประโยชน์ ไม่คัดค้าน แต่จะเห็นว่าในการเลือกตั้งปี 2562 ก็มีรัฐบาลที่เคยหาเสียง ว่าจะมีการปรับค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 425 บาท แต่เมื่อได้เป็นรัฐบาล กลับไม่เคยพูดถึงเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 425 บาทเลย
สำหรับกิจกรรมภายในงานที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร มีโซนนิทรรศการให้ความรู้แก่ผู้ใช้แรงงาน ทั้งเรื่องสวัสดิการ สิทธิประโยชน์พื้นฐานที่แรงงานควรจะได้รับ การแสดงแผนงานของกระทรวงแรงงานและการให้ความรู้เกี่ยวกับแรงงานไทย รวมทั้งกิจกรรมลุ้นรับรางวัลและยังมีบริการอาหารแก่ผู้ร่วมงานด้วย
วัยทำงานสุขภาพแย่ แนะเลือกกินอาหารถูกหลักโภชนาการ ออกกำลังกายเป็นประจำ ลดเครียด ลดภาวะอ้วนลงพุง
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า เนื่องในวันแรงงาน จากการสำรวจสถานการณ์สุขภาพกลุ่มวัยทำงานอายุ 15 ปีขึ้นไป ครั้งที่ 6 ปี 2562 -2563 พบว่ามีภาวะอ้วน ร้อยละ 42.4 กินผักและผลไม้ไม่เพียงพอตามข้อแนะนำ ร้อยละ 78.8 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งที่ 5 ที่กินผักผลไม้ไม่เพียงพอร้อยละ 74.1 รวมถึงมีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอร้อยละ 30.7 และองค์กรอนามัยโลก พบว่าเกือบ 1 ใน 3 ของประชากรไทย มีน้ำหนักตัวมากจนเป็นโรคอ้วน อ้วนลงพุง เนื่องจากใช้ชีวิตไม่เหมาะสม ตั้งแต่การกินอาหารที่ไม่ถูกหลักโภชนาการ รวมถึงไม่มีเวลาออกกำลังกาย ซึ่งคนที่อ้วนลงพุง มักมีไขมันสะสมในช่องท้องมากเกินไป ทำให้เกิดเมตาบอลิกซินโดรม ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนมาก โดยพบว่าคนที่มีลักษณะท้วม มีโอกาสอ้วนลงพุงได้ถึงร้อยละ 25 ส่งผลให้สุขภาพร่างกายไม่ดี
ทั้งนี้ จากการทำงานตลอดทั้งวัน อาจส่งผลให้เกิดความเครียด เหนื่อยล้า ละเลยการดูแลสุขภาพตนเอง
กลุ่มวัยทำงานจึงควรใส่ใจสุขภาพตนเองให้มากขึ้น ด้วยการกินอาหารให้เหมาะสม เพิ่มกิจกรรมทางกายระหว่างวัน โดยใช้หลักการกินอาหารง่ายๆ คือ กินอาหารให้เพียงพอ ไม่มาก หรือน้อยไป ลดอาหารหวาน มัน เค็ม ใน 1 วัน กินน้ำมันไม่เกิน 6 ช้อนชา น้ำตาลไม่เกิน 6 ช้อนชา เติมน้ำปลา หรือซีอิ๊ว ซอสปรุงรสในการปรุงอาหารรวมกันไม่เกินวันละ 4 ช้อนชา ใช้สมุนไพรแทนการเติมเครื่องปรุงรส เช่น พริก ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หอม กระทียม หรือเครื่องเทศต่างๆ ช่วยเพิ่มรสชาติอาหาร เลี่ยงอาหารทอด และอาหารใส่กะทิ กินอาหารสด แทนอาหารแปรรูป ลดหรือเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มรสหวาน เลือกดื่มน้ำเปล่าหรือกินผลไม้ชนิดหวานน้อยช่วยให้อิ่มเร็ว มีกากใยช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น และเลือกใช้โปรแกรม 7 สัปดาห์ สุขภาพดี หุ่นดี เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านสุขภาพ
รัฐบาลพร้อมดูแล เพิ่มทักษะให้แก่ผู้ใช้แรงงานทุกคน ยกระดับคุณภาพชีวิต รองรับความต้องการของตลาดแรงงาน
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีคำปราศรัยเนื่องในโอกาสวันแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2566 ซึ่งตรงกับวันที่ 1 พฤษภาคมของทุกปี เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ใช้แรงงานทุกคน โดยเผยแพร่ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยและสถานีโทรทัศน์ต่างๆ
โอกาสนี้นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เนื่องในโอกาสวันแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2566 ขอส่งความระลึกถึงและความปรารถนาดีมายังผู้ใช้แรงงานทุกคน พร้อมย้ำผู้ใช้แรงงานทุกคนถือเป็นบุคลากรที่มีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาประเทศที่ต้องได้รับการดูแลเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต พร้อมทั้งพัฒนาทักษะในด้านต่างๆ เพื่อรองรับกับความต้องการของตลาดแรงงานและสร้างความพร้อมในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างทันท่วงที
นายกรัฐมนตรีกล่าวในนามของรัฐบาล ขอชื่นชมทุกภาคส่วนและขอบคุณผู้ใช้แรงงานทุกคน ที่ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจ ตลอดจนมุ่งมั่นในการพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถของตน เพื่อเป็นแรงงานฝีมือที่มีคุณภาพและเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยทั้งในภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตรกรรม และภาคธุรกิจบริการมาโดยตลอด จนทำให้ประเทศของเราเจริญก้าวหน้าทัดเทียมนานาประเทศ พร้อมทั้งสามารถยืนหยัดได้อย่างมั่นคงท่ามกลางวิกฤติการณ์ของสังคมโลก
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้อวยพร ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากล อีกทั้งเดชะพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ได้โปรดดลบันดาลประทานพรให้ผู้ใช้แรงงานทุกคน ประสบแต่ความสุข ความเจริญ มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรงสมบูรณ์ เพื่อร่วมกันยกระดับคุณภาพแรงงานไทยและเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติให้มีความมั่นคงอย่างยั่งยืนตลอดไป
2 พฤษภาคม 2566
นายกรัฐมนตรี ห่วงใยประชาชน หลังพบผู้ป่วยโควิด-19 ยังเพิ่มขึ้น ย้ำกลุ่มเสี่ยงรีบเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้น
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์โควิด-19 และรับทราบสถานการณ์การระบาดภายในประเทศรายสัปดาห์ (ตามรายงานของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ผู้ป่วยโควิด-19 วันที่ 23 - 29 เมษายนที่ผ่านมา มีผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล จำนวน 1,811 ราย ผู้เสียชีวิต จำนวน 10 ราย หายป่วยสะสม 8,382 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2566) โดยตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา
นายกรัฐมนตรีห่วงใยประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 607 และ 608 ย้ำขอให้รีบเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันที่สถานพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขใกล้บ้านโดยเร็ว เพื่อลดความเสี่ยง ป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงและการเสียชีวิตจากโควิด -19
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า กรมควบคุมโรค คาดว่าผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นจำนวนมากในช่วงฤดูฝนพร้อมกับการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่ม 607 ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนหรือไม่ได้รับเข็มกระตุ้นจะมีความเสี่ยงป่วยหนักและเสียชีวิตได้ ดังนั้น การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด -19 พร้อมกับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ และการฉีดภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปจะสามารถลดความเสี่ยงดังกล่าวได้
ขอเชิญชวนให้ผู้สูงอายุ หรือกลุ่มเสี่ยงทุกคน ติดต่อเข้ารับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันต่อโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นวัคซีน หรือภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป (LAAB) ณ สถานพยาบาลใกล้บ้าน โดยหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามไปยังสถานพยาบาล สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด หรือสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร
มิถุนายน เดือนแห่งการเยี่ยมบ้านนักเรียน เพื่อให้การเปิดเรียนเกิดความสุขและความปลอดภัยแก่นักเรียน
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ตระหนักถึงความสำคัญในด้านความปลอดภัย ในการเปิดเรียนภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 จึงได้กำหนดแนวทางเพื่อเตรียมความพร้อมด้านความปลอดภัย เพื่อให้สถานศึกษาในสังกัดใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานด้านความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจให้แก่นักเรียน ผู้ปกครอง ประชาชนและสังคม ว่า สพฐ. มีแนวทางสร้างความปลอดภัยและดูแลคุ้มครองนักเรียนในทุกมิติ ตลอดทั้งมีการพัฒนาความร่วมมือในการดูแลช่วยเหลือนักเรียนด้วยการเยี่ยมบ้านนักเรียน เพื่อให้มีการเปิดเรียนอย่างมีความสุขและปลอดภัย โดยกำหนดให้ "เดือนมิถุนายน 2566 เป็นเดือน แห่งการเยี่ยมบ้านนักเรียน" โดย สพฐ. พิจารณาแล้วเพื่อให้การเปิดภาคเรียนที่ 1 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ทั้งนี้ สพฐ. ขอให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษาในสังกัดและสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ดำเนินการในด้านต่างๆ อาทิ การเตรียมความพร้อมในการเปิดภาคเรียนตามแนวทางการเตรียมความพร้อม การเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 ด้านความปลอดภัย การดำเนินการเยี่ยมบ้านนักเรียน พร้อมทั้งแจ้งสถานศึกษาในสังกัดทราบและปฏิบัติตามแนวทางดังกล่าวอย่างเคร่งครัด และรายงานผลสรุปการเยี่ยมบ้านนักเรียนตามแบบสรุปรายงานการเยี่ยมบ้านนักเรียนของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ผ่านทาง QR code ภายในเดือนกรกฎาคม 2566 และหากพื้นที่ใดมีคณะของผู้บริหารสำนักงานของ สพฐ. ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านนักเรียน ขอให้เตรียมการรองรับพร้อมประสานการลงพื้นที่กับผู้บริหารสำนักงานของ สพฐ. ได้โดยตรง
กรมอนามัย แนะเช็กสภาพอากาศอุณหภูมิสูงสุดควบคู่ค่าดัชนีความร้อน ป้องกันโรคฮีทสโตรก
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากสภาพอากาศที่ร้อนจัดที่ผ่านมาในเดือนเมษายน 2566 พบว่าภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีอุณหภูมิสูงสุดอยู่ในระดับมีอันตราย – อันตรายมาก โดยจังหวัดที่มีอุณหภูมิสูงสุดมากกว่า 43 องศาเซลเซียส ระดับอันตรายมากคือ ตาก ลำปาง เพชรบูรณ์ เลย อุดรธานี รวมทั้งค่าดัชนีความร้อน พบว่าอยู่ในระดับอันตรายมาก ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี และภูเก็ต โดยกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าสภาพอากาศที่ร้อนจัดนี้ จะมียาวนานไปจนถึงช่วงเดือนต้นเดือนพฤษภาคม 2566 และจะสิ้นสุดฤดูร้อนในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2566
กรมอนามัย ขอให้ประชาชนเช็กสภาพอากาศเป็นประจำ สามารถตรวจสอบอุณหภูมิสูงสุดควบคู่กับค่าดัชนีความร้อน (Heat Index) ได้จากกรมอุตินิยมวิทยา เนื่องจากอากาศร้อนจัดจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยค่าดัชนีความร้อนจะเป็นตัวเลขที่สูงกว่าค่าอุณหภูมิที่วัดได้จริง นอกจากอุณหภูมิสูงแล้วโรคฮีสโตรกยังมีปัจจัยเสี่ยงอีกหลายอย่างที่ทำให้ผู้ป่วยบางรายมีโอกาสเกิดภาวะฮีทสโตรกได้ง่าย เช่น อายุน้อยหรือมากเกินไป มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคปอด โรคอ้วน ไม่ได้ออกกำลังกาย การใช้ยาบางกลุ่มที่ทำให้สูญเสียน้ำ หรือร่างกายไม่สามารถตอบสนองต่ออุณหภูมิร่างกายที่สูงขึ้นได้อย่างเต็มที่ รวมทั้งการดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น การป้องกันตัวเองจากความร้อนและโรคฮีทสโตรกคือ ดื่มน้ำสะอาดบ่อยๆ โดยไม่ต้องรอให้กระหายน้ำ หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงสภาพอากาศร้อนจัด สวมเสื้อผ้าสีอ่อน ระบายอากาศได้ดี สวมหมวกปีกกว้าง แว่นกันแดด ทาครีมกันแดดทุกครั้งเมื่อต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง และหลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลมและแอลกอฮอล์
สังเกต 4 อาการเสี่ยงจากโรคฮีทสโตรก ได้แก่ เหงื่อไม่ออก สับสนมึนงง ตัวร้อนจัด ผิวหนังเป็นสีแดงและแห้ง หากพบผู้ป่วยโรคฮีทสโตรก ควรรีบตามแพทย์ หรือโทร 1669 และพาผู้ป่วยหลบเข้าที่ร่ม หรือห้องมีความเย็น จัดผู้ป่วยให้นอนราบ ยกเท้าและสะโพกสูง รวมถึงถอดเสื้อผ้าออกเท่าที่จำเป็นเพื่อระบายความร้อน ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดตามตัว หรือวางถุงน้ำแข็งที่คอ รักแร้ และขาหนีบ หากผู้ป่วยหมดสติให้จับนอนตะแคงเพื่อป้องกันโคนลิ้นอุดทางเดินหายใจ และรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว ทั้งนี้ สามารถรับคำแนะนำในการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจากความร้อนที่ เว็บไซต์กองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ กรมอนามัย https://hia.anamai.moph.go.th/th
3 พฤษภาคม 2566
เตือนแรงงานต่างชาติ ทำผิด ม.112 มีสิทธิถูกเพิกถอนใบอนุญาตทำงาน
นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์วันแรงงาน เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา กรณีม็อบแรงงานต่างชาติเคลื่อนไหวเรียกร้อง “ปฏิรูปกษัตริย์ สร้างรัฐสวัสดิการ” กรมการจัดหางานขอเตือนไปยังแรงงานต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยทุกเชื้อชาติ ว่า พฤติการณ์ในลักษณะดังกล่าวหากหน่วยงานด้านความมั่นคงพิจารณาแล้วเห็นว่า เข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 112 แห่งประมวลกฎหมายอาญา หรือเป็นความผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้แรงงานต่างชาติผู้นั้นจะมีใบอนุญาตทำงานและเข้ามาทำงานอย่างถูกต้อง แต่เมื่อมีความผิดตามกฎหมาย กรมการจัดหางานมีสิทธิพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตทำงานของแรงงานต่างชาตินั้น ตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และแจ้งต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อเพิกถอนสิทธิในการอยู่ในราชอาณาจักรตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ต่อไปได้
นอกจากนี้ หากตรวจสอบพบว่าเป็นแรงงานต่างชาติ ที่ลักลอบเข้ามาทำงานกับนายจ้าง โดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน นอกจากมีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองแล้ว กรมการจัดหางานจะร้องทุกข์กล่าวโทษแก่แรงงานต่างชาติ ในความผิดฐานทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน ซึ่งมีโทษปรับตั้งแต่ 5,000 – 50,000 บาท และถูกส่งกลับประเทศต้นทาง รวมถึงห้ามขอใบอนุญาตทำงานเป็นเวลา 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ได้รับโทษ และดำเนินคดีกับนายจ้างที่จ้างแรงงานต่างชาติดังกล่าว ในความผิดฐานให้คนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน ซึ่งมีโทษปรับตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาท ต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน หากกระทำผิดซ้ำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000 – 200,000 บาท ต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน และห้ามจ้างคนต่างด้าวทำงานเป็นเวลา 3 ปี
อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวย้ำว่า กรมการจัดหางานตระหนักและให้ความสำคัญกับการเคารพสิทธิมนุษยชน และการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างด้านเชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา หรือเพศ คำว่า “คนต่างด้าว” เป็นถ้อยคำตามกฎหมาย ตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งกรมการจัดหางานเอง ใช้ทั้งคำว่า “คนต่างด้าว” หรือ “คนต่างชาติ” และ “แรงงานต่างชาติ” หรือ “แรงงานข้ามชาติ” หรือแรงงานต่างด้าว ในการสื่อสารและนำเสนอข่าวมาโดยตลอด เพราะถือว่ามีความหมายและให้คุณค่าที่ไม่แตกต่างกัน
4 พฤษภาคม 2566
กรมการจัดหางาน ตั้งเป้าเดือนพฤษภาคมนี้ ส่งแรงงานไทยไปต่างประเทศเพิ่มกว่า 1,400 คน
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อสถานการณ์แรงงานไทยเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2566 เดือนตุลาคม 2565 – มีนาคม 2566 กรมการจัดหางานมีการอนุญาตให้แรงงานไทย 29,395 คน เดินทางไปทำงานต่างประเทศ ส่งเงินกลับประเทศผ่านระบบธนาคารแห่งประเทศไทย มูลค่ารวมกว่า 120,070 ล้านบาท
รัฐบาลเตรียมส่งแรงงานอีกกว่า 1,400 คน ในเดือนพฤษภาคม 2566 เชื่อมั่นในศักยภาพแรงงานไทย เป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากจะส่งรายได้กลับมายังประเทศแล้ว ยังนำความรู้และเทคโนโลยีที่ได้รับจากการทำงานในต่างประเทศกลับมาพัฒนาประเทศ ซึ่งรัฐบาลพร้อมสนับสนุนและส่งเสริมให้แรงงานคุณภาพของไทยไปทำงานในต่างประเทศอย่างถูกกฎหมาย มีสวัสดิการรองรับ เพิ่มโอกาสให้แรงงานไทยได้มีรายได้และพัฒนาคุณภาพชีวิต
ประชาชนและนักท่องเที่ยว ต่างตั้งใจเดินทางเข้าเยี่ยมชมพระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เนื่องในวันฉัตรมงลคล
ตามที่สำนักพระราชวัง เปิดให้ประชาชนทั่วไปและนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมและเข้าร่วมกราบถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช ในปราสาทพระเทพบิดรได้จนถึง เวลา 17.00 น. เนื่องในโอกาสวันฉัตรมงคล พบว่าตลอดทั้งวันมีประชาชนทั้งจากกรุงเทพมหานคร ต่างจังหวัดและนักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่มากันเป็นครอบครัวและหมู่คณะ ใช้วันหยุดเนื่องในวันฉัตรมงคล เข้าชมพระอุโบสถกันอย่างต่อเนื่อง พร้อมกราบสักการะบูรพมหากษัตริย์ ที่ปราสาทพระเทพบิดร วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) พระบรมมหาราชวัง เพื่อเป็นสิริมงคล โดยประชาชนส่วนใหญ่ ที่เดินทางมาเที่ยวชม ต่างกล่าวว่า ตั้งใจถือโอกาสวันฉัตรมงคล มากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองและมาดูความงดงามของวัดไทย
5 พฤษภาคม 2566
ไทยและกัมพูชา บรรลุข้อตกลงการจ้างแรงงาน ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เข้าร่วมการประชุมระดับวิชาการกัมพูชา – ไทย ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยเรื่องการจ้างแรงงานระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา มีผลประชุมที่สำคัญ อาทิ การออกเอกสารประจำตัวให้แก่แรงงานกัมพูชาในประเทศไทย แรงงานกัมพูชาสามารถเดินทางไปทำเอกสารเดินทาง ณ ศูนย์ One Stop Services ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงพนมเปญ พระตะบอง และบันเตียเมียนเจย การปรับปรุงแก้ไขบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการจ้างแรงงาน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันเรื่องการตรวจสุขภาพในประเทศต้นทาง ต้องกำหนดโดยหน่วยงานที่มีอำนาจของประเทศผู้รับ โดยแรงงานจะต้องตรวจสุขภาพจากประเทศต้นทางก่อนเดินทางเข้ามาในประเทศไทย
ทั้งนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบและขอบคุณการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง จนสามารถลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าด้วยเรื่องการจ้างแรงงาน ทำให้เกิดประโยชน์ต่อการจ้างแรงงานที่มีประสิทธิภาพได้สำเร็จ เชื่อมั่นว่า จะช่วยอำนวยความสะดวก ลดขั้นตอนแก่แรงงานกัมพูชาที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยให้เข้าสู่ระบบการจ้างงานที่ถูกต้อง ได้รับการดูแลคุ้มครองตามมาตรฐานสากล จะแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานให้สอดคล้องกับความต้องการของนายจ้างและผู้ประกอบการ รวมไปถึงการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ
ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : ธนพิชฌน์ แก้วกา
ผู้เรียบเรียง : ธนพิชฌน์ แก้วกา
แหล่งที่มา : หน่วยงานสำนักข่าว