สรุปข่าวประจำสัปดาห์ (24-28 เมษายน 2566)

สรุปข่าวประจำสัปดาห์ (24-28 เมษายน 2566)
การเมือง/มั่นคง
24 เมษายน 2566
การเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร เริ่มพรุ่งนี้ กกต.ไม่กังวลบัตรปลอม เพราะมีระบบตรวจสอบ
นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือดตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมการจัดการเลือกตั้งว่า การดำเนินการยังคงเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ทั้งวันเลือกตั้ง 14 พ.ค. หรือวันเลือกตั้งล่วงหน้า 7 พ.ค. รวมถึงวันเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่จะเกิดขึ้นที่สถานทูต หรือสถานกงสุลของแต่ละประเทศ ระหว่างวันที่ 25 เม.ย. – 5 พ.ค.นี้ โดยนำปัญหาจากการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรปี 2562 มาปรับใช้ เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
กกต. ไปรษณีย์ กรมการกงสุล การท่าอากาศยานและการบินไทย จะร่วมมือกัน จะทำให้บัตรเลือกตั้งทุกใบมาทันนับคะแนนในวันที่ 14 พ.ค. โดยจะส่งกลับมาไทยและส่งไปยังเขตเลือกตั้งทั้ง 400 เขต ภายในวันที่ 9 พ.ค. และพรุ่งนี้(25 เม.ย.) ประเทศแรกที่จะเริ่มเลือกตั้ง ซึ่งแล้วแต่สถานทูตและสถานกงสุลจะเป็นผู้กำหนด จะมีปัญหาอยู่บ้างที่ทวีปแอฟริกาใต้ ประเทศซูดาน มีภาวะสงครามกลางเมืองที่ได้รับแจ้งจากกระทรวงการต่างประเทศ โดยจะดูแลคนไทยที่อยู่ในประเทศซูดาน รวมทั้งการบริหารจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรเฉพาะประเทศนี้
นายแสวง กล่าวว่า กระบวนการขนส่ง จัดเก็บบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่จะมา ทั้งทางถุงเมล ทางการทูต และเจ้าหน้าที่สถานทูตนำมาส่งเองกับมือ เมื่อนำมาถึงจะกระจายไปยัง 400 เขต ที่ประชาชนเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตนั้นๆ โดยจะเก็บไว้ในที่ปลอดภัยและนำมานับพร้อมกันในวันที่ 14 พ.ค. ส่วนเหตุผลการเปิดเผยสีบัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อบัตรสีเขียวและบัตรเขตเลือกตั้งเป็นสีม่วง ก็เป็นการเปิดเผยเหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้เร็วขึ้น โดยมั่นใจระบบความปลอดภัยป้องกันการปลอมแปลงบัตร เพราะเป็นกระดาษพิเศษ และมีระบบการตรวจสอบความมั่นคง 3 จุดพิเศษในบัตร ที่ไม่มีใครทราบ จึงเชื่อว่า จะไม่มีใครทำบัตรเลียนแบบได้ และ กกต. สามารถตรวจสอบได้ จึงไม่กังวลแต่อย่างใด
25 เมษายน 2566
กรณีรีสอร์ทหรูรุกที่บนเขาแสมสาร จังหวัดชลบุรี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้มีการเพิกเฉย
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และคณะ นำสื่อมวลชนลงพื้นที่บริเวณวิหารหลวงพ่อดำ วัดช่องแสมสาร จังหวัดชลบุรี ตรวจสอบกรณีรีสอร์ทหรูรุกที่บนเขาแสมสารและสถานการณ์การทุจริตในพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 2 โดยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า การลงพื้นที่ในวันนี้เพื่อนำสื่อมวลชนมาดูการปฎิบัติงานของ ป.ป.ช. ในนโยบายเชิงป้องปราม หลังจากสำนักงาน ป.ป.ช. จังหวัดชลบุรี ได้รับข้อมูลจากโซเชียลมีเดียและสื่อต่างๆ เกี่ยวกับการปลูกสร้างรีสอร์ทบุกรุกที่ดินของรัฐ ที่อยู่ในการดูแลของกองทัพเรือ บนพื้นที่ตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมีการปลูกสร้างอาคารรีสอร์ทติดผา สูงจากระดับน้ำทะเล 45 เมตร
สำนักงาน ป.ป.ช.ได้มีการตรวจสอบและได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองทัพเรือ และ อบต.แสมสาร ซึ่งไม่ได้มีการเพิกเฉยมีการดำเนินคดีทางกฎหมายอาญาและดำเนินการแจ้งให้ทางผู้บุกรุกรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง เนื่องจากบุกรุกพื้นที่ในเขตราชพัสดุ ซึ่งผู้บุกรุกได้มีการใช้สิทธิ์อุทธรณ์คำสั่งของทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่แจ้งให้ระงับการก่อสร้าง โดยอ้างว่า ตัวห้องพักทั้ง 6 ห้องเป็นเพียงตู้คอนเทนเนอร์ไม่ใช่สิ่งปลูกสร้างแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามกรณีดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างการดำเนินคดีตามกฎหมาย
เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวอีกว่า สำหรับวันนี้ลงพื้นที่มาเพื่อป้องปราบ เตือนและเฝ้าติดตาม หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่ามีการขับเคลื่อน หรือดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร มีการละเว้นหรือเพิกเฉยหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ขอให้สื่อมวลชนและภาคประชาสังคม ร่วมเป็นหูเป็นตาให้กับสำนักงาน ป.ป.ช. ในการเฝ้าระวัง ผู้ที่เข้าข่ายกระทำความผิด สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สำนักงานป.ป.ช.ในพื้นที่ใกล้บ้าน
26 เมษายน 2566
กกต. ชี้แจงยืนยันดำเนินการปรับปรุงแก้ไข กรณีประกาศรายชื่อพรรคการเมือง และภาพผู้สมัครไม่ชัดเจน ให้ถูกต้องครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว
ตามที่ปรากฏข่าวเกี่ยวกับการปิดประกาศรายชื่อพรรคการเมือง ที่ยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ (ส.ส. 4/23) ประกาศรายซื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง (ส.ส. 4/14) ที่ปิดประกาศที่ป้ายประกาศหน้าหน่วยเลือกตั้งของบางเขตเลือกตั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครไม่ชัดเจน รวมถึงภาพผู้สมัครรับเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร ที่เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผ่านทางเว็บไซต์ของกรุงเทพมหานคร มีสีไม่ชัดเจน นั้น
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอเรียนว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร และสำนักประชาสัมพันธ์ กรุงเทพมหานคร ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว และยืนยันพร้อมจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป ในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566 ด้วยความสุจริต โปร่งใส เที่ยงธรรม และชอบด้วยกฎหมาย
27 เมษายน 2566
ประธาน กกต. ชี้แจงกรณีเอกสารเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักร เกิดความผิดพลาด จากระบบการจัดพิมพ์
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณีการเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 24 เมษายน-5 พฤษภาคม 2566 ซึ่งพบปัญหาเกี่ยวกับเอกสารแนะนำตัวผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต ที่กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร มีการสลับรูปถ่ายกันระหว่างผู้สมัคร ซึ่งเอกสารถูกส่งจากกรุงเทพมหานคร เบื้องต้นได้ดำเนินการแก้ไขอย่างถูกต้องและจัดส่งไปยังผู้มีสิทธิเลือกตั้งอีกครั้ง โดยได้ติดตามจากผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งว่าได้รับเอกสารที่ถูกต้องแล้ว
อีกกรณีที่กรุงวอชิงตันดีซี สหรัฐอเมริกา ที่เอกสารผู้สมัคร 2 พรรคการเมือง มีรูปถ่ายเหมือนกัน ซึ่งความผิดพลาดเกิดจากระบบการจัดพิมพ์ โดยฝากถึงผู้ใช้สิทธิสามารถตรวจสอบความถูกต้อง เพื่อใช้ในการเปรียบเทียบข้อมูล จาก Application Smart Vote โดยกรณีทั้งหมดนี้ กกต.ไม่ได้นิ่งนอนใจ เมื่อทราบสาเหตุแล้วได้ดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องและรวดเร็วที่สุด
ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งคู่มือประกอบเอกสารในการเลือกตั้ง แนบไปพร้อมกับบัตรเลือกตั้งแบบแบ่งเขตและบัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ เพื่อแนะนำวิธีการอย่างละเอียด ซึ่งหากผู้ใช้สิทธินอกราชอาณาจักรมีข้อสงสัย สามารถติดต่อสอบถามผ่านสถานเอกอัครราชทูตไทย ที่ดูแลประเทศนั้นๆ ได้ เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการชี้แจงและทำความเข้าใจโดยเร็ว
ประธาน กกต. เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ส.ส.ให้ดำเนินการเลือกตั้งด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม ไร้ข้อครหา
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวภายในงานโครงการประชุมสัมมนาเตรียมความพร้อมในการสนับสนุนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร การเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ 2566 ว่า ให้เจ้าหน้าที่รัฐวางตัวเป็นกลาง เพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา เนื่องจากอาจจะเสี่ยงต่อการผิดกฎหมายมาตรา 78 ที่ระบุมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ กระทำการอันเป็นคุณเป็นโทษแก่ผู้สมัคร ในการแทรกแซงการเลือกตั้ง ซึ่งมีบทลงโทษ หากมีผู้ฟ้องร้องว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งครั้งนี้ศึกษาข้อปฏิบัติ ผ่านทาง Application Smart vote
นายอิทธิพร ยังกำชับไปยังนายจ้างที่มีแรงงานปฏิบัติงานในวันเลือกตั้ง ให้อนุญาตลูกจ้างสามารถไปเลือกตั้งได้ เพราะหากฝ่าฝืนมีโทษจำคุก ไม่เกิน 2 ปีปรับไม่เกิน 100,000 บาท ซึ่งได้เรียนแจ้งทางกระทรวงแรงงาน เพื่อประชาสัมพันธ์ในเรื่องนี้แล้ว
กกต. ร่วมหารือและซักซ้อมการเชื่อมต่อระบบรายงานผลคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.อย่างไม่เป็นทางการ คาดไม่เกิน 23.00 น. ทราบผล
นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เชิญสื่อมวลชน ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้แทนสถาบันส่งเสริมการวิเคราะห์และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ และผู้แทนบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ ร่วมหารือและซักซ้อมการเชื่อมต่อระบบผลคะแนนเลือกตั้ง เพื่อนำเสนอรายงานผลคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. อย่างไม่เป็นทางการ วันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566 ได้อย่างถูกต้องรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งประชาชน สื่อมวลชน ผู้สมัครรับเลือกตั้ง และพรรคการเมือง สามารถติดตามการรายงานผลคะแนนได้ ตั้งแต่เวลา 18.30 น. เป็นต้นไป ผ่านช่องทางเว็บไซต์รายงานผลคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอย่างไม่เป็นทางการ (www.ectreport.com) เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(www.ect.go.th) สถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ โดยจะได้มีการเชื่อมโยงการรายงานผลคะแนน จากสำนักงาน กกต. ผ่าน Google Share Drive เพื่อนำไปเผยแพร่ในรูปแบบต่างๆ
เลขาธิการ กกต. ยืนยันว่า การนับคะแนนมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ซึ่งผู้ที่ร่วมคะแนนเป็นเจ้าพนักงานการเลือกตั้งตามกฎหมายและการแก้ไขคะแนนก็ไม่สามารถทำได้เพียงคนเดียว เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ 9 คน ที่จะทำหน้าที่บันทึกคะแนนลงในระบบ ทั้งนี้มั่นใจว่า การรายงานผล จะมีความรวดเร็ว มีความถูกต้องแม่นยำกว่าการรายงานผลแบบเดิม ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถรายงานผลคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. อย่างไม่เป็นทางการจนครบถ้วนทุกเขตเลือกตั้งได้ภายในเวลา 23.00 น. ของวันเลือกตั้ง
28 เมษายน 2566
ประธาน กกต. ชี้แจงแนวทางปฏิบัติหน้าที่ในการหาข้อมูลข่าวสารและป้องกันปราบปรามการทุจริตการเลือกตั้ง
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เปิดการประชุมชี้แจงแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ในการแสวงหาข้อมูลข่าวสาร และป้องกันปราบปรามการทุจริต ณ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ หรือมติคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ในการแสวงหาข้อมูลข่าวสาร และการป้องกันและปราบปรามกันทุจริตการเลือกตั้ง สนับสนุนการเลือกตั้ง เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ชอบด้วยกฎหมาย สนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้งในการป้องปรามและหาข่าวเกี่ยวกับการกระทำความผิดในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
โดยการบูรณาการการทำงานร่วมกัน เพื่อวางแผนการปฏิบัติหน้าที่และลงพื้นที่ ระหว่างผู้ตรวจการเลือกตั้ง 423 คน และชุดเคลื่อนที่เร็ว 400 ชุด ประจำ 400 เขตเลือกตั้ง จำนวน 1,239 คน ชุดปฏิบัติการหาข่าว ทั้งส่วนกลางและส่วนจังหวัด และผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดและกรุงเทพมหานคร เพื่อป้องปรามการหาข่าว การเฝ้าระวังการทำความผิดในพื้นที่ โดยขอให้มุ่งเน้นการสืบสวนหาข่าวจากประชาชน ผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เป็นกำนันผู้ใหญ่บ้าน ทางภาคเอกชน รวมทั้งเผชิญ หรือระงับเหตุอันเป็นความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง ตรวจค้นจับกลุ่มผู้กระทำความผิด และนำส่งพนักงานสอบสวน ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง มอบหมายอย่างมีประสิทธิภาพ
เศรษฐกิจ/ท่องเที่ยว
24 เมษายน 2566
ธปท. คาดครึ่งปีหลัง GDP โตร้อยละ 4.3 ส่วนหนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง
นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยได้เจอกับการกระทบในหลายด้าน โดยปี 2563-2564 วิกฤตการณ์ Covid-19 ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกหยุดชะงัก GDP ไทยปี 63 หดตัวร้อยละ 6.1 ต่อมาในปี 2565 สงคราม รัสเซีย-ยูเครน ทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด จาก 80 ดอลลาห์สหรัฐ/บาร์เรล ในช่วงต้นปี มาแตะที่ราคา 123 ดอลลาห์สหรัฐ/บาร์เรล ทำให้เงินเฟ้อไทยเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ ร้อยละ 7.9 ในเดือนสิงหาคม ขณะเดียวกันเศรษฐกิจไทยก็ยังเผชิญกับสถานการณ์ดอกเบี้ยขาขึ้น จากการที่ธนาคารกลางทั่วโลกปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วและแรงเป็นประวัติการณ์ ทำให้ค่าเงินบาทของไทยอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 16 ปี โดยตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565-ปัจจุบัน ปัญหาในตลาดคลิปโตครินทร์ซีและวิกฤติการณ์ทางการเงินที่ทำให้ธนาคารขนาดใหญ่ในต่างประเทศหลายแห่งล้ม ก็ส่งผลกระทบต่อระบบการเงินไทยแต่ยังอยู่ในวงจำกัด
โดยสรุปแล้วเศรษฐกิจไทยยังมีเสถียรภาพและกำลังฟื้นตัว คาดว่า ในครึ่งปีหลัง 2566 GDP ไทยจะอยู่ที่ร้อยละ 4.3 มีนักท่องเทียวเดินทางเข้ามา 16 ล้านคน อัตราการว่างงานลดลงอยู่ที่ 2.6 ล้านคน แต่ยังคงมีความกังวลในเรื่องของหนี้ครัวเรือนแม้จะปรับตัวลงเล็กน้อยแต่ยังอยู่ในระดับสูงที่ร้อยละ 86.9 ขณะที่เงินทุนสำรองของไทย ณ เดือน เมษายน 2566 อยู่ที่ 252,000 ล้านดอลลาห์สหรัฐ
ขณะที่ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ที่ยังเกินร้อยละ 80 อยู่นั้น ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยมองว่าขณะนี้ยังไม่เห็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับในฝั่งของเจ้าหนี้อย่างสถาบันการเงินซึ่งเป็นสัญญาณชัดเจนว่าปัญหาหนี้ครัวเรือนจะไม่ลุกลามไปเป็นปัญหาของระบบการเงินอย่างแน่นอน แต่ยอมรับว่าหนี้ครัวเรือนเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเติบโตได้น้อยกว่าที่ควรเป็น
25 เมษายน 2566
คาดสัปดาห์หน้าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวไทยกว่า 460,000 คน
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา ประเมินสถานการณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย ระหว่างวันที่ 17-23 เมษายนที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวจากอาเซียนและเอเชียตะวันออกกลาง ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า ขณะที่นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอื่นปรับตัวลดลงตามฤดูกาลท่องเที่ยว ส่งผลให้สัปดาห์ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา 502,679 คน มากกว่าที่คาดการณ์ในสัปดาห์ก่อนหน้า(ข้อมูล ณ วันที่ 24 เม.ย. 66) โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ประกอบด้วย มาเลเซีย จีน อินเดีย อินโดนีเซีย และรัสเซีย คิดเป็นร้อยละ 49.7 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม คาดว่าสัปดาห์หน้า จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางเข้าไทยกว่า 460,000 คน ส่วนใหญ่มาจากภูมิภาคอาเซียนและเอเชียตะวันออกเป็นหลัก และยังคงมีแนวโน้มขยายตัวจากการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวจีนในช่วงวันหยุดวันแรงงานและการท่องเที่ยวภายหลังการสิ้นสุดของการถือศีลอดของชาวมุสลิม ประกอบกับการจัดแคมเปญและการนำเสนอรูปแบบการท่องเที่ยวใหม่ๆ เพื่อส่งเสริมการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศ
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยตลอดทั้งสัปดาห์ (17-23 เม.ย. 66) มีจำนวนทั้งสิ้น 502,679 คน คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ย
วันละ 71,812 คน ทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมในเดือนเมษายน จำนวน 1,563,354 คน ทำให้จำนวนสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา ทั้งสิ้น 8,029,091 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว 328,672 ล้านบาท
สำรวจเส้นทางขนส่งผลไม้ไทยเข้าสู่ตลาดจีน ผ่านด่านสากลหูหงิ ด่านรถไฟด่งดัง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นำคณะเดินทางไปสำรวจสถานการณ์การขนส่งผลไม้ ที่ด่านสากลหูหงิและด่านรถไฟด่งดัง กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม พร้อมหารือกับผู้บริหารของด่าน โดยได้ขอความร่วมมือในการอำนวยความสะดวกด้านการขนส่ง และการส่งออกผลไม้ของไทยผ่านด่านเข้าสู่ตลาดจีน เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับฤดูการผลิตผลไม้ของไทยที่กำลังออกสู่ตลาด
สำหรับด่านหูหงิ เป็นด่านสำคัญที่รถขนส่งผลไม้จากไทยจะมาใช้บริการก่อนที่จะเข้าสู่จีน สถานการณ์การขนส่งขณะนี้ยังเป็นปกติ ไม่ติดขัดเหมือนช่วงที่จีนคุมเข้มมาตรการโควิด-19 ส่วนด่านรถไฟด่งดัง เป็นด่านที่เชื่อมต่อไปยังด่านรถไฟผิงเสียงของจีน ซึ่งไทยจะใช้เป็นด่านสำหรับส่งออกผลไม้ของไทยเข้าสู่ตลาดจีน ส่วนใหญ่เป็นสินค้าทุเรียน ซึ่งปี 2565 มีสินค้าทุเรียนไทยผ่านด่านนี้ไปจีน ประมาณ 10-20 ตู้ต่อวัน ทั้งนี้ ได้กำชับให้ทูตพาณิชย์ของไทย ที่ประจำอยู่ที่กรุงฮานอย ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและให้ประสานหน่วยงานของเวียดนามอำนวยความสะดวกให้กับผลไม้ไทย เมื่อผ่านด่านชายแดนเวียดนามไปยังจีนและให้ติดตามสถานการณ์การค้าชายแดน รวมถึงการปิด-เปิดด่านอย่างใกล้ชิดด้วย
กระทรวงการคลัง คาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2566 จะขยายตัวที่ร้อยละ 3.6 ฟื้นตัวต่อเนื่องจากภาคการท่องเที่ยวและอัตราเงินเฟ้อที่ลดลง
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยปี 2566 คาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 3.6 ฟื้นตัวต่อเนื่องจากปี 2565 ที่ขยายตัวที่ร้อยละ 2.6 ต่อปี ลดลงจากประมาณการณ์ครั้งก่อนที่คาดจะขยายตัว 3.8 โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการบริโภคที่ปรับตัวดีขึ้นและภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชียและกลุ่มสหภาพยุโรป คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทยจำนวน 29.5 ล้านคน มีรายได้จากการท่องเที่ยวจำนวน 1.3 ล้านล้านบาท ส่งผลให้รายได้จากภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง สอดคล้องกับด้านอุปสงค์ภายในประเทศที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง ตามรายได้ภาคประชาชนที่ฟื้นตัวตามสถานการณ์เศรษฐกิจภายในประเทศ ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อที่ลดลง ช่วยให้การบริโภคเพิ่มขึ้น สำหรับอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ร้อยละ 2.6 ปรับเข้าสู่กรอบเป้าหมายที่ร้อยละ 1.0 – 3.0 เนื่องจากราคาพลังงานโลกลดลง ทำให้ราคาน้ำมันคลี่คลายลง
ทั้งนี้ ภาคการท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีขึ้น สะท้อนจากจำนวนนักท่องเที่ยวทุกสัญชาติที่มีจำนวนมากกว่าที่คาดการณ์ รวมทั้งสถานการณ์เงินเฟ้อที่ลดลงเร็วกว่าที่คาดไว้ ส่งผลบวกต่อการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น เป็นปัจจัยที่จะสนับสนุนเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ส่วนปัจจัยเสี่ยง เช่น ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกและความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์โลกในภูมิภาคต่างๆ ซึ่งอาจส่งผลต่อความมั่นคงระหว่างประเทศและปัจจัยการผลิตต่างๆ
26 เมษายน 2566
THAIFEX – ANUGA ASIA 2023 ครบวงจรที่สุดในเอเชีย คาดเงินสะพัดกว่า 70,000 ล้านบาท 23-27 พฤษภาคมนี้
นางสาวณัฐิยา สุจินดา ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับหอการค้าไทย และโคโลญเมสเซ่ เตรียมจัดงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2023 อย่างเต็มรูปแบบ ในวันที่ 23-27 พฤษภาคม 2566 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อสร้างโอกาสทางการตลาด ค้นหานวัตกรรม เทคโนโลยี แรงบันดาลใจ เชื่อมต่อธุรกิจทุกภาคส่วนในวงการอาหารและเน้นย้ำให้ทั่วโลกเห็นศักยภาพของประเทศไทย ในฐานะผู้นำในการผลิตและส่งออกอาหารที่มีคุณภาพมาตรฐานระดับโลก
โดยปีนี้จะมีผู้ประกอบการมาร่วมจัดแสดงสินค้ากว่า 3,000 บริษัท ประมาณ 5,500 คูหา รวม 43 ประเทศ ทั้งเอเชียตะวันออก อาเซียน ยุโรป สหรัฐอเมริกา ลาตินอเมริกา ตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย เป็นต้น คาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าชมงานมาเจรจาการค้ากว่า 60,000 คน จาก 120 ประเทศทั่วโลก เนื่องจากอาหารและเครื่องดื่มของไทยได้รับความสนใจจากต่างชาติอย่างมาก พร้อมตั้งเป้าจะมีมูลค่าการสั่งซื้อกว่า 70,000 ล้านบาท และมีมูลค่าการสั่งซื้อออนไลน์ผ่าน THAIFEX Virtual Trade Show กว่า 1,500 ล้านบาท
ภายในงานจะมีการจัดแสดงสินค้าอาหารทุกประเภท อาหารทะเล เนื้อสัตว์ อาหารแช่แข็ง ข้าว ผักและผลไม้ ขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่ม ชาและกาแฟ เครื่องมือ/เครื่องใช้/อุปกรณ์ รวมถึงบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม พร้อมกิจกรรมการแข่งขัน Thailand Ultimate Chef Challenge กิจกรรมเสวนาให้ความรู้และยังมีโซนพิเศษที่จะอัปเดตเทรนด์ผู้บริโภคจากหน่วยงานต่างๆ
นอกจากนี้ ยังมีการจัดงานแสดงสินค้าเสมือนจริง ในรูปแบบ THAIFEX – Virtual Trade Show ควบคู่กับการจัดทาง On Ground เพื่อรองรับความต้องการของผู้ที่ไม่สะดวกเดินทางมาชมงานด้วย
ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าชมงานล่วงหน้าได้ที่ www.thaifex-anuga.com โดยจะมีการเจรจาธุรกิจวันที่ 23–27 พฤษภาคม 2566 เวลา 10.00 น.-18.00 น. จำหน่ายปลีกวันที่ 27 พฤษภาคม 2566 เวลา 10.00 น.-20.00 น. ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 และอิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น เซ็นเตอร์ ฮอลล์ 5-12 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี
27 เมษายน 2566
เปิดฤดูกาล เทศกาลอาหารและผลไม้ภาคตะวันออก ชวนคนไทยออกเดินทางสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวเชิงอาหาร
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมด้วยนายบุญสมิทธิ์ พุกกะณะสุต Influencer ด้านอาหาร เปิดเผยว่า “เปิดฤดูกาล เทศกาลอาหารและผลไม้ภาคตะวันออก” ชวนคนไทยออกเดินทางสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยว เชิงอาหารในช่วงไฮซีซันของภาคตะวันออกตามคอนเซปต์ “สบ๊ายสบายภาคตะวันออก” สบ๊ายสบาย สายกิน เที่ยวไปกินไป สบายพุง พร้อมจัดเต็มกิจกรรมส่งเสริมการขายและโปรโมชันพิเศษผ่าน 6 สำนักงาน ททท. เพื่อกระตุ้นความถี่ในการเดินทางของนักท่องเที่ยวภายในประเทศในปี 2566 ได้วางทิศทางส่งเสริมตลาดในประเทศ ผ่านกลยุทธ์การนาเสนอ Soft Power (5F) ด้วยเมนูประสบการณ์มิติใหม่ที่มีความหลากหลาย
คาดการณ์ว่า จากรายงานสถานการณ์ท่องเที่ยวของภาคตะวันออกปี 2565 พบว่ามีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนจำนวนกว่า 28 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 114 แสนล้านบาท และมีแนวโน้มเดินทางเที่ยวในวันธรรมดาเพิ่มขึ้น เชื่อมั่นว่าการจัดกิจกรรมกระตุ้นการตลาดในครั้งนี้ จะช่วยกระตุ้นสร้างกระแสให้คนไทยไปเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ เป็นตามเป้าหมายภาพรวม อุตสาหกรรมท่องเที่ยว ปี 2566 รายได้รวมสูงสุดอยู่ที่ 2.38 ล้านล้านบาท
ผลสำรวจวันแรงงานปีนี้คึกคัก คาดว่าจะมีเงินสะพัดกว่า 2 พันล้านบาท สูงสุดในรอบ 4 ปี
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจ “สถานภาพแรงงานไทย : กรณีศึกษาผู้มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาท” พบว่า วันแรงงานปีนี้ กลุ่มผู้ใช้แรงงานจะออกมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นโดยเฉพาะการท่องเที่ยวและทำกิจกรรมต่างๆ นอกบ้าน ส่งผลให้บรรยากาศคึกคักมากกว่าปีที่ผ่านมา คาดว่าจะมีเงินสะพัดกว่า 2,067.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ร้อยละ 29.8 สูงสุดในรอบ 4 ปี หลังมีการปรับขึ้นค่าแรงเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งค่าแรงที่ไม่ได้ปรับมาเป็นเวลานาน ทำให้แรงงานไทยมีสถานภาพที่ดีขึ้นและมองว่าเศรษฐกิจในปีนี้เริ่มกลับมาฟื้นตัว
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เงินเฟ้อที่มีแนวโน้มลดลง แต่ยังคงอยู่ในระดับสูง ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพ ทำให้ต้องระมัดวังเรื่องการใช้จ่าย โดยแรงงานอยากให้รัฐบาลดูแลค่าครองชีพให้เหมาะสมกับผู้มีรายได้น้อย เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำและดูแลปัญหาหนี้สิน
สำหรับข้อเสนอของแรงงานไทยที่มีต่อรัฐบาลชุดใหม่คือ ต้องการให้สร้างความเท่าเทียมกันในสังคม ทำให้เศรษฐกิจในแต่ละพื้นที่ฟื้นตัว เกิดการสร้างงานในพื้นที่ ตลอดจนดูแลราคาสินค้าและค่าครองชีพให้สอดคล้องกับรายได้ รวมถึงการปรับค่าแรงตามความเหมาะสมของอัตราเงินเฟ้อและรายจ่ายที่เพิ่มขึ้น
28 เมษายน 2566
อีอีซี เพิ่มความเชื่อมั่น ผลักดันโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 มุ่งลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(สกพอ.) หรืออีอีซี เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 จังหวัดระยอง ว่า การก่อสร้างโครงการดังกล่าวมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยงานที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในปัจจุบัน ได้แก่ การก่อสร้างเขื่อนกันทราย การลงหินแกนแล้วเสร็จ 100% และอยู่ระหว่างการปรับขนาดเสริมหินเกราะชั้นนอก ติดตั้งเขื่อนกันคลื่นทะเล ถมทรายเพื่อก่อสร้างถนน สะพานเข้า-ออกโครงการ รวมทั้งเตรียมงานอู่ลอยสำหรับหล่อเขื่อนกันคลื่นสำเร็จรูป
ในส่วนของการขุดลอกและปรับพื้นที่ทางทะเล ได้ติดตั้งม่านกันตะกอน เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัดซึ่งโครงการดังกล่าว ได้จัดตั้งคณะกรรมการการติดตามควบคุมด้านสิ่งแวดล้อมในงานก่อสร้าง 3 คณะ และได้จัดประชุมร่วมกันไปแล้วกว่า 30 ครั้ง
นอกจากนี้ มีการตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ วัดคุณภาพอากาศ เสียง ความสั่นสะเทือน วัดคุณภาพน้ำทะเลคุณภาพน้ำทิ้ง ซึ่งได้รายงานต่อกรมเจ้าท่าและสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.) ทุก 6 เดือน ซึ่งปัจจุบันดำเนินการไปแล้ว 3 ครั้ง
สังคม
24 เมษายน 2566
เตือนผู้ประกอบการระวังเกลือผสม แนะนำซื้อเกลือจาก 37 แหล่งจำหน่ายที่เชื่อถือได้
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตร ได้รับแจ้งจากเกษตรกรชาวนาเกลือในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครและสมุทรสงครามว่า ขณะนี้มีผู้ค้าเกลือบางราย ได้นำเกลือสินเธาว์ หรือเกลือทะเลที่นำเข้าจากต่างประเทศ มาผสมกับเกลือทะเลไทยเพื่อเป็นการลดต้นทุนและจำหน่ายให้กับผู้ประกอบการที่ใช้เกลือทะเลไทยเป็นวัตถุดิบในการแปรรูปผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยแอบอ้างว่าเป็นเกลือทะเลไทย แต่เนื่องจากเกลือสินเธาว์หรือเกลือทะเลที่นำเข้าจากต่างประเทศมีคุณสมบัติต่างจากเกลือทะเลไทย จึงทำให้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ใช้เกลือผสมได้รับความเสียหาย ทำให้ผู้ประกอบการได้รับความเดือดร้อน ส่งผลทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นในคุณภาพของเกลือทะเลไทย จนอาจกระทบต่อเสถียรภาพของราคาเกลือทะเลไทยในอนาคตได้ และเพื่อป้องกันความเสียหายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นจากการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เกลือที่ไม่ได้มาตรฐาน
กรมส่งเสริมการเกษตร ขอแนะนำให้ผู้ประกอบการพิจารณาเลือกซื้อเกลือจากแหล่งที่เชื่อถือได้ ได้แก่ เกษตรกรผู้ทำนาเกลือทะเล หรือองค์กรเกษตรกร เช่น กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน หรือสหกรณ์ หรือผู้ค้าเกลือที่มีที่ตั้งเป็นหลักแหล่ง สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของเกลือได้ หรือผู้ค้าเกลือที่ประกอบกิจการมานานจนเป็นที่น่าเชื่อถือ เป็นต้น ทั้งนี้ แหล่งจำหน่ายเกลือทะเลที่ได้มาตรฐานอย่างเป็นทางการมี 37 แห่ง ในพื้นที่ 7 จังหวัดที่ทำนาเกลือ
70 ปี "วันเทศบาล" มุ่งมั่นขับเคลื่อนงานโดยยึดหลักธรรมาภิบาล ยกระดับบริการสาธารณะ เพื่อความผาสุกของประชาชน
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยกำหนดให้วันที่ 24 เมษายนของทุกปีเป็น "วันเทศบาล" ตลอดระยะเวลา 70 ปี ได้มีพัฒนาการที่ดีมาโดยลำดับ ปัจจุบันมีเทศบาลทั้งสิ้นจำนวน 2,472 แห่ง โดยได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ เพื่อ "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" ให้แก่ประชาชนในท้องถิ่น ทั้งการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติ ความเดือดร้อนเร่งด่วน รวมทั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขอให้ผู้บริหารของเทศบาลทุกแห่งอาศัยหลักธรรมาภิบาลในการขับเคลื่อนภารกิจให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาในทุกระดับ อาทิ ยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 นโยบายของรัฐบาล และ 17 เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ และน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางในการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่น มุ่งสร้างการมีส่วนร่วมในพื้นที่ เน้นการบูรณาการทำงานร่วมกับราชการบริหารส่วนอื่นอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อความผาสุกของประชาชน
กรมอนามัย ห่วงคอนเสิร์ต ปาร์ตี้ รื่นเริง เป็นแหล่งแพร่โควิด-19
นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โรคโควิด-19 ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลังเทศกาลสงกรานต์ แม้ประเทศไทยผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด -19 แล้ว ทำให้หลายพื้นที่กลับมาจัดงานต่างๆ มากขึ้น อาทิ คอนเสิร์ต การแข่งขันกีฬา หรืองานมหรสพรื่นเริง ทำให้มีคนจากหลายพื้นที่มารวมตัวกันจำนวนมาก อาจมีการสัมผัสใกล้ชิด ร้องเพลง หรือตะโกน ใช้เวลาร่วมกิจกรรมเป็นเวลานาน เสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อโรคโควิด-19
กรมอนามัย ขอให้ผู้จัดงาน ยังคงปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเว้นระยะห่างและกำหนดจำนวนคนต่อพื้นที่ไม่ให้หนาแน่นจนเกินไป โดยเฉพาะในอาคารพื้นที่ปิด ที่อาจมีการระบายอากาศไม่ดี สำคัญคือ ต้องใส่ใจเรื่องความสะอาด โดยเฉพาะจุดสัมผัสร่วม เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ไมโครโฟน ราวบันได ที่จับประตู ปุ่มกดลิฟท์และห้องน้ำห้องส้วม จัดให้มีจุดบริการล้างมือเพียงพอ
และกำจัดขยะมูลฝอยอย่างถูกสุขลักษณะทุกวัน เพื่อลดการติดเชื้อและการแพร่กระจายของเชื้อไปในวงกว้าง
สำหรับประชาชนหากมีอาการเสี่ยง หรืออาการทางระบบทางเดินหายใจให้เลี่ยงเข้าร่วมงาน ผู้ที่เข้าร่วมงาน สามารถป้องกันตนเอง โดยการสวมหน้ากากอนามัยและล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮออล์บ่อยๆ หลังจากสัมผัสจุดสัมผัสร่วมและเมื่อกลับถึงบ้านควรเปลี่ยนเสื้อผ้าและอาบน้ำทันที
หากมีอาการ ไอ เจ็บคอ มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ มีน้ำมูก ปวดศีรษะ หายใจลำบาก ให้ตรวจ ATK ถ้าผลเป็นบวก ให้สวมหน้ากากเมื่อใกล้ชิดผู้อื่น หลีกเลี่ยงใกล้ชิดกลุ่ม 608 และสถานที่มีคนจำนวนมาก หากอาการมากขึ้น เช่น เหนื่อยหอบ หายใจลำบาก ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อรักษาในโรงพยาบาล สำหรับกลุ่ม 608 ให้รีบไปพบแพทย์และติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
อย่าหลงเชื่อกดลิงก์อ้างประกันสังคมอัปเดตข้อมูล "ถอนเงินสมทบก่อนกำหนด" อาจถูกมิจฉาชีพหลอกโอนเงินจนเกลี้ยงบัญชี
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอโดยมีรายละเอียดว่า "สิ้นเดือนเมษายนนี้ ผู้สูงอายุรับเบี้ยพิเศษคนละ 2,500 บาท" กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ชี้แจงว่า ไม่มีการเพิ่มเบี้ย หรือเงินพิเศษใดๆ เนื่องจากปัจจุบันการจ่ายเบี้ยยังชีพ ยังคงยึดระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมีการจ่ายเบี้ยยังชีพให้แก่ผู้สูงอายุเป็นรายเดือนตามช่วงอายุ พร้อมกับเตือนภัยกรณีมิจฉาชีพส่ง SMS ข้อความเข้ามือถืออ้าง "สำนักงานประกันสังคม" แจ้งนายจ้าง ลูกจ้าง อัปเดตข้อมูลด่วน ถอนเงินสมทบก่อนกำหนด โดยแนบลิงก์ให้กดเข้าไปเพื่อกรอกข้อมูล ขอย้ำว่าอย่ากดลิงก์ในข้อความเด็ดขาด เพราะเป็นกลลวงมิจฉาชีพ เพื่อเข้าควบคุมโทรศัพท์มือถือของเหยื่อ แล้วโอนเงินจนเกลี้ยงบัญชี
25 เมษายน 2566
ไทยพบสายพันธุ์ลูกผสม XBB.1.16 เพิ่มอีก 6 ราย ส่วนกรณีชาวเมียนมาเสียชีวิตตรวจพบเป็นสายพันธุ์ XBB.1.16.1 ไม่เคยได้รับวัคซีน
นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ร่วมกับเครือข่ายห้องปฏิบัติการ ติดตามการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์เชื้อโควิด-19 ล่าสุดองค์การอนามัยโลก ปรับชนิดสายพันธุ์ที่ติดตามใกล้ชิด ได้แก่ สายพันธุ์ที่เฝ้าระวัง (VOI) 2 สายพันธุ์ ได้แก่ XBB.1.5 และ XBB.1.16 สายพันธุ์ที่ต้องจับตามอง (VUM) 6 สายพันธุ์ ได้แก่ BA.2.75, CH.1.1, BQ.1, XBB, XBB.1.9.1 และ XBF สถานการณ์สายพันธุ์ XBB.1.5 และ XBB.1.16 ทั่วโลกอ้างอิงจากฐานข้อมูลกลาง GISAID ในรอบสัปดาห์ 27 มีนาคม - 2 เมษายน 2566 พบจำนวนเพิ่มขึ้นจากรอบสัปดาห์ 27 กุมภาพันธ์ - 5 มีนาคม 2566 สายพันธุ์ XBB.1.5 รายงานจาก 96 ประเทศ คิดเป็นร้อยละ 50.8 เพิ่มจากร้อยละ 46.2 สายพันธุ์ XBB.1.16 รายงานจาก 31 ประเทศ คิดเป็นร้อยละ 4.2 เพิ่มจากร้อยละ 0.5
ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์จากความได้เปรียบในการเพิ่มจำนวนและความสามารถในการหลบภูมิคุ้มกัน XBB.1.16 อาจแพร่กระจายไปทั่วโลกและมีส่วนทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีหลักฐานการเพิ่มความรุนแรงของโรค
สำหรับประเทศไทย พบเพิ่ม XBB.1.16 จำนวน 6 ราย XBB.1.16.1 จำนวน 1 ราย ทำให้ขณะนี้ประเทศไทยพบ XBB.1.16 และ XBB.1.16.1 รวมเป็น 34 ราย โดยสัดส่วนสายพันธุ์ XBB.1.16 คิดเป็นร้อยละ 9.8 ของสายพันธุ์ที่ตรวจในสัปดาห์นี้ ส่วนสายพันธุ์ XBB.1.5 เป็นสายพันธุ์ที่พบมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 28 ในขณะที่ BN.1 ซึ่งเคยเป็นสายพันธุ์หลักในไทยตั้งแต่ช่วงสิ้นปี 2565 มีสัดส่วนลดลง ส่วนกรณีผู้เสียชีวิตชาวเมียนมาที่มีผลการตรวจ ATK เป็นบวก ผลการตรวจสายพันธุ์ พบเป็นสายพันธุ์ XBB.1.16.1 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยของ XBB.1.16 มีการกลายพันธุ์ T547I เพิ่มเติมจากสายพันธุ์แม่ ซึ่งเป็นการกลายพันธุ์แรกที่พบในกลุ่ม XBB.1.16 อาจช่วยให้หลบภูมิคุ้มกันได้ดีกว่าสายพันธุ์แม่ จนถึงขณะนี้ พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ XBB.1.16.1 จำนวน 2 ราย ในไทย ในขณะเดียวกัน XBB.1.16 ยังคงพัฒนาต่อไปตามธรรมชาติของไวรัสเพื่อให้มีความได้เปรียบในการเพิ่มจำนวนที่สูงขึ้น ปัจจุบันพบ XBB.1.16 มีการกลายพันธุ์ S494P เพิ่มเติมอีก ซึ่งพบมากขึ้นในอินเดีย และสหรัฐอเมริกา ในไม่ช้าอาจจะถูกกำหนดชื่อเป็นสายพันธุ์ย่อยอื่นอีก
อย่างไรก็ตาม ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก สำหรับผู้ติดเชื้อชาวเมียนมารายนี้ไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 จึงมีความเป็นไปได้ที่การติดเชื้อไม่ว่าสายพันธุ์ใดก็ตามจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพมากกว่าปกติ
26 เมษายน 2566
กรมการจัดหางาน เตือนคนหางานระวังถูกหลอกไปทำงานเกาหลีใต้
นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ขณะนี้พบตัวแทนผู้เสียหายร้องเรียนหลังถูกบุคคลแอบอ้างว่าสามารถพาไปทำงานประเทศเกาหลีใต้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย อ้างทุกขั้นตอนผ่านกรมการจัดหางาน แต่มีเงื่อนไขจะต้องจ่ายเงินก่อนค่าเดินเอกสารทำวีซ่า พาสปอร์ต คนละ 30,000-70,000 บาท และมีการจัดสัมมนาก่อนบิน แต่สุดท้ายไม่ได้เดินทาง เบื้องต้นพบผู้เสียหายในพื้นที่ชลบุรี ระยอง พิษณุโลก และสุโขทัย มูลค่าความเสียหายกว่า 6 แสนบาท
จากกรณีดังกล่าวหลังตรวจสอบพบว่า นายหน้าดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานต่างประเทศจากนายทะเบียน ดังนั้นจึงไม่สามารถจัดส่งคนงานไปทำงานในเกาหลีใต้ พร้อมย้ำว่า ผู้ใดที่จัดหางานให้คนหางานทำงานในต่างประเทศ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนจัดหางานกลาง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 60,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ที่สนใจเดินทางไปทำงานในเกาหลีใต้ ก่อนตัดสินใจหลงเชื่อการโฆษณา ขอให้ตรวจสอบรายชื่อบริษัทที่ได้รับอนุญาตจัดส่งได้ที่ เว็บไซต์กรมการจัดหางาน www.doe.go.th เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อการหลอกลวงคนไปทำงานต่างประเทศ
อธิบดีกรมการจัดหางาน เน้นย้ำวิธีเดินทางไปทำงานประเทศเกาหลีใต้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย มี 3 แบบ ได้แก่ การไปทำงานตามข้อตกลงความร่วมมือไทย-เกาหลี โครงการวีซ่า E-9 เพื่อทำงานในภาคอุตสาหกรรมการผลิต ภาคเกษตรและปศุสัตว์ และภาคก่อสร้าง ซึ่งเดินทางโดยกรมการจัดหางานเป็นผู้จัดส่ง การไปทำงานในภาคเกษตรตามฤดูกาล โครงการวีซ่า E-8 ซึ่งยังอยู่ระหว่างการทำงานข้อตกลงความร่วมมือ และการเดินทางไปทำงานในอุตสาหกรรมอู่ต่อเรือ โครงการวีซ่า E-7 หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการไปทำงานต่างประเทศสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศ หรือโทร.1506 กด 2
กยศ.เชิญชวนผู้อยู่ระหว่างชำระหนี้ ใช้สิทธิตามมาตรการเพื่อลดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมและเบี้ยปรับ
นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ได้มีมาตรการลดหย่อนหนี้ เพื่อช่วยเหลือผู้กู้ยืมที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมาตรการดังกล่าวจะสิ้นสุดในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ จึงขอเชิญชวนผู้กู้ยืมกองทุน กยศ. ที่อยู่ระหว่างการชำระหนี้ ใช้สิทธิเพื่อรับประโยชน์จากมาตรการตามกรอบเวลาดังกล่าว
มาตรการลดหย่อนการชำระหนี้ กยศ. ประกอบด้วย การลดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมจากเดิมร้อยละ 1 ต่อปี เหลือร้อยละ 0.01 ต่อปี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนกองทุนและไม่เคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้, ลดเงินต้นร้อยละ 5 สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ไม่เคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้และต้องการปิดบัญชีในคราวเดียว
นอกจากนี้ ยังมีการลดเบี้ยปรับร้อยละ 100 สำหรับผู้กู้ยืมเงินทุกกลุ่มที่ชำระหนี้ปิดบัญชี โดยแยกเป็นผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี สามารถชำระได้ที่ ธนาคารกรุงไทยและธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยทุกสาขา ส่วนผู้กู้ยืมเงินที่ถูกดำเนินคดีแล้ว ต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิและนัดหมายวันที่ประสงค์จะชำระหนี้ปิดบัญชีได้ที่ https://www.studentloan.or.th/promotion เนื่องจากมีขั้นตอนที่ผู้กู้ยืมต้องชำระค่าทนายความและค่าฤชาธรรมเนียมศาลให้เสร็จสิ้นก่อนปิดบัญชี และลดเบี้ยปรับร้อยละ 80 สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีที่ชำระหนี้ค้างทั้งหมดให้มีสถานะปกติ
27 เมษายน 2566
อย. ตรวจสอบยาแก้ไอที่ผลิตจากโรงงานในอินเดียที่พบสารปนเปื้อน ไม่พบการขึ้นทะเบียนและขายในประเทศไทย
นายแพทย์ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ตามที่องค์การอนามัยโลกประกาศเตือนพบสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายในยาแก้ไอ ไกวเฟนิซิน ทีจี ที่ผลิตจากโรงงานในประเทศอินเดีย โดยตรวจพบการปนเปื้อนสารไดเอทิลีนไกลคอล และเอทิลีนไกลคอล สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ตรวจสอบแล้วไม่พบการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ยาดังกล่าวและไม่พบข้อมูลการขายบนอินเทอร์เน็ตของประเทศไทย รวมทั้งไม่มีการนำเข้าผลิตภัณฑ์ยาสำเร็จรูปและวัตถุดิบที่มาจากบริษัท QP Pharmachem Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตยาด้วย
สำหรับผู้บริโภคที่ต้องการเลือกซื้อและได้รับยาที่ปลอดภัย ควรซื้อจากร้านขายยาที่ได้รับอนุญาต โดยสังเกตป้ายที่แขวนอยู่ในร้านมีข้อความว่าสถานที่ขายยาแผนปัจจุบัน หรือสถานที่ขายยาแผนโบราณ ซึ่งจะมีเภสัชกรประจำร้านยาให้คำแนะนำและก่อนใช้ยาควรตรวจสอบภาชนะบรรจุยา โดยต้องมีฉลากและเอกสารกำกับยาครบถ้วนและผู้บริโภคสามารถตรวจสอบข้อมูลการขออนุญาตผลิตภัณฑ์ได้ที่ www.fda.moph.go.th หรือผ่าน Line@FDAThai, Facebook : FDAThai หากผู้บริโภคมีข้อสงสัยเรื่องความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์สุขภาพ สามารถสอบถามหรือแจ้งร้องเรียนได้ที่ สายด่วน อย. 1556 หรือผ่าน Line @FDAThai, Facebook: FDAThai หรือ E-mail: 1556@fda.moph.go.th ตู้ ปณ. 1556 ปณฝ. กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี 11004 หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด
ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อส่งต่อข่าวปลอมกรมสรรพสามิตเตรียมยกเว้น ภาษีไบโอเอทานอล
ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ตรวจสอบการเผยแพร่ข้อมูลจากสื่อโซเชียลมีเดียเรื่องกรมสรรพสามิตเตรียมยกเว้นภาษีไบโอเอทานอล หนุนผลิตไบโอพลาสติก ดูแลสิ่งแวดล้อม จากกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง พบว่าเป็นข้อมูลเท็จ โดยคณะกรรมการบริหารการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจสีเขียว ได้มีมติเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2565 มอบหมายให้กระทรวงการคลังพิจารณาปลดล็อกให้นำเอทานอลแปลงสภาพหรือบริสุทธิ์ไปใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมอื่นที่นอกเหนือจากเชื้อเพลิงชีวภาพและการผลิตสุราได้ ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษาแนวทางการสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมตามแนว BCG Model โดยใช้มาตรการทางภาษีเพื่อสนับสนุนให้ภาคอุตสาหกรรมมีการปรับตัวเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งในระยะแรกจะมุ่งเน้นที่อุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพ ศึกษาแนวทางการอนุญาตให้สามารถนำเอทานอลที่เหลือจากการใช้เป็นเชื้อเพลิง ไปใช้ในอุตสาหกรรมอื่น เช่น การผลิตเอทิลีนชีวภาพ สำหรับใช้ในการผลิตพลาสติกชีวภาพ เป็นต้น และการเพิ่มพิกัดอัตราภาษีให้เป็นสินค้าในพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต เพื่อกำกับดูแลในอนาคต จึงขอความร่วมมือประชาชนไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อ หรือสอบถามเพิ่มเติมได้จากสรรพสามิต โทร 02 241 5600
28 เมษายน 2566
อุทยานแห่งชาติภูลังกา ประกาศปิดการท่องเที่ยวและพักแรม 1 - 31 พฤษภาคมนี้
นายทวีป คำแพงเมือง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูลังกา เปิดเผยว่า อุทยานแห่งชาติภูลังกาออกประกาศ เรื่องปิดการท่องเที่ยวและพักแรมในอุทยานแห่งชาติภูลังกา ประจำปี 2566 เป็นไปตามประกาศกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งกำหนดให้มีการปิดการท่องเที่ยวและพักแรมในอุทยานแห่งชาติและวนอุทยาน ประจำปี เพื่อให้การบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับสภาพอากาศในแต่ละฤดูกาลและความสามารถในการรองรับได้ของทรัพยากร เปิดโอกาสให้ทรัพยากรธรรมชาติได้ฟื้นตัว รวมทั้งมีความปลอดภัยต่อการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูลังกา จึงออกประกาศ ปิดการท่องเที่ยวและพักแรมในอุทยานแห่งชาติภูลังกาทุกแห่ง ซึ่งรวมถึงแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมคือถ้ำนาคา ในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูลังกา ตั้งแต่วันที่ 1 – 31 พฤษภาคม 2566 เพื่อการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวภายในอุทยานแห่งชาติภูลังกาให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเปิดโอกาสให้ทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวภายในอุทยานแห่งชาติภูลังกาได้ฟื้นตัว รวมถึงการดำเนินการปรับปรุง ซ่อมแซม พัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกในอุทยานแห่งชาติภูลังกาให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวและพักแรมในพื้นที่
ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติภูลังกายังคงปฏิบัติงานตามภารกิจของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จึงยังสามารถติดต่อราชการได้ตามปกติ ที่เบอร์โทรศัพท์ 0 4253 0766 และจะกลับมาเปิดการท่องเที่ยวและพักแรมในอุทยานแห่งชาติภูลังกาทุกแห่งอีกครั้งในวันที่ 1 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป
กรมอนามัย ชูโครงการฟันเทียมพระราชทานและโครงการรากฟันเทียมเฉลิมพระเกียรติฯ ช่วยฟื้นคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ปัญหาสุขภาพช่องปาก เป็นปัญหาที่พบในประชากรทุกกลุ่มวัย โดยเฉพาะวัยทำงานตอนปลายและผู้สูงอายุ ยิ่งประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัย จำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น ปัญหาช่องปากก็เพิ่มขึ้นด้วย จนนำไปสู่การสูญเสียฟัน ข้อมูลการสำรวจสภาวะทันตสุขภาพระดับประเทศทุก 5 ปี ของกรมอนามัย พบ ในปี 2560 ผู้สูงอายุ 60-74 ปี มีฟันแท้เฉลี่ย 18 ซี่ต่อคน และเมื่ออายุ 80-85 ปีลดลงเหลือเพียง 10 ซี่ต่อคน และยังพบผู้สูงอายุที่สูญเสียฟันทั้งปากถึงร้อยละ 8.7 ซึ่งการสูญเสียฟัน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย คุณภาพชีวิต และการใช้ชีวิตประจำวัน สำหรับกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรังยังอาจจะส่งผลต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนในช่องปาก เช่น โรคเบาหวาน มีความสัมพันธ์ต่อการเกิดโรคฟันผุ โรคเหงือกอักเสบ และโรคปริทันต์อักเสบ หากผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ดี จะส่งผลให้ปัญหาในช่องปากทวีความรุนแรงต่อเนื่องจนสูญเสียฟัน รวมถึงรอยโรคในช่องปาก อัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อนมักสูงตามไปด้วย อีกทั้งรอยโรคในช่องปากในบางรายอาจนำไปสู่การเกิดมะเร็งและเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตได้ นอกจากการเกิดโรคแล้ว ปัญหาสุขภาพช่องปากยังส่งผลต่อในเรื่องการใช้งาน การเข้าสังคม คุณภาพชีวิตต่างๆ
จากสภาพปัญหาดังกล่าว กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมอนามัย และภาคีเครือข่าย จึงร่วมกันจัดทำโครงการเพื่อแก้ปัญหาการสูญเสียฟันในผู้สูงอายุ 2 โครงการคือ โครงการฟันเทียมพระราชทาน เพื่อส่งเสริมให้ผู้สูงอายุเข้าถึงการใส่ฟันเทียมเพื่อทดแทนฟันที่ถูกถอนออกไป ทำให้ผู้สูงอายุกลับมาใช้ฟันในการบดเคี้ยว และโครงการรากฟันเทียมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 เป็นการต่อยอดโครงการฟันเทียมพระราชทาน เนื่องจากพบว่าผู้สูงอายุจำนวนหนึ่งที่ใช้งานฟันเทียมไปได้ระยะหนึ่งแล้วเกิดการละลายตัวของกระดูกขากรรไกร ทำให้ฟันเทียมที่ใช้อยู่ไม่กระชับ จึงต้องใช้การฝังรากเทียมเข้าไปยังกระดูกขากรรไกรเพื่อช่วยทำให้มีตัวยึดกับฟันเทียมให้กลับมากระชับและใช้ในการบดเคี้ยวอาหารได้ดีเหมือนเดิม ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยเฉพาะผู้สูงอายุ สามารถกินอาหารได้ดีขึ้น มีพลังในการยิ้ม การเข้าสังคม การพูดจาชัดเจนดีขึ้นและมีความสุขมากขึ้น
กรมอนามัยได้ขับเคลื่อนทั้ง 2 โครงการ โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรในการคัดกรองสุขภาพช่องปาก และพัฒนาเครื่องมือ Blue Book Application เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน Smart อสม. ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำหรับผู้ให้บริการด่านหน้า ได้แก่ อสม. หรือบุคลากรของหน่วยบริการปฐมภูมิ สามารถคัดกรองสุขภาพช่องปากควบคู่ไปกับสุขภาพด้านอื่นๆ ขณะเดียวกัน ยังเน้นการยกระดับความรู้ทักษะและความเชี่ยวชาญของบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมเข้ามาใช้ในการดำเนินการให้การใส่ฟันเทียมและรากฟันเทียมมีคุณภาพ โดยร่วมมือกับมูลนิธิทันตนวัตกรรมในการผลิตตัวรากฟันเทียมขึ้นภายในประเทศไทยและนำมาใช้ในโครงการนี้ นอกจากนี้ ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพช่องปากด้วยตัวเองและหมั่นตรวจเช็คสุขภาพช่องปากกับทันตบุคลากร หากพบปัญหาควรรีบรับการรักษา ไม่ปล่อยให้ลุกลามจนนำไปสู่การถอนฟัน
กรมควบคุมโรค เร่งเสริมภูมิคุ้มกันต่อโควิด -19 แก่กลุ่มเปราะบางในสถานดูแลผู้สูงอายุอย่างต่อเนื่อง
นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวในการเป็นประธานเปิดกิจกรรม “ห่วงใยผู้สูงวัย ด้วยการเพิ่มภูมิคุ้มกัน ห่างไกลโควิด 19” ณ สถานดูแลผู้สูงอายุ เดอะ พาเร้นท์ส กรุงเทพฯ ว่า งานวันนี้มีการให้บริการฉีดภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปและการฉีดวัคซีนโควิด-19 เชิงรุก ให้กับผู้สูงอายุในสถานดูแลผู้สูงอายุ เดอะพาเร้นท์ส และผู้สูงอายุในชุมชนรอบข้าง ทั้งนี้ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา จากรายงานของกรมควบคุมโรค พบมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 2 เท่า คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจำนวนมากในช่วงฤดูฝนพร้อมกับการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่ม 607 ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนหรือไม่ได้รับเข็มกระตุ้นจะมีความเสี่ยงป่วยหนักและเสียชีวิตได้ ดังนั้น การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด -19 พร้อมกับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ และการฉีดภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป จะสามารถลดความเสี่ยงดังกล่าวได้ แต่ด้วยปัญหาการเข้าถึงบริการส่วนหนึ่งมาจากกลุ่มเป้าหมายยังไม่ได้รับทราบข้อมูลที่ไม่เพียงพอในด้านประโยชน์ ความสำคัญ และความปลอดภัยของการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคโควิด -19 ทำให้กลุ่มเป้าหมายชะลอหรือปฏิเสธการรับวัคซีนได้
การจัดงานในวันนี้ จึงเป็นการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้เป็นวงกว้าง เพื่อสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ ทราบถึงประโยชน์ และเพิ่มโอกาสเข้ารับบริการฉีดภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปของผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานดูแลผู้สูงอายุของภาครัฐและเอกชน รวมถึงผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในชุมชนโดยรอบ อันจะส่งผลดีต่อทั้งต่อสุขภาพของตนเอง ป้องกันคนในชุมชน รวมถึงเป็นการรักษาระบบสาธารณสุขและเศรษฐกิจของประเทศด้วย จึงขอเชิญชวนให้ผู้สูงอายุหรือกลุ่มเสี่ยงทุกท่าน ติดต่อเข้ารับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันต่อโควิด -19 ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนหรือภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป (LAAB) ณ สถานพยาบาลใกล้บ้าน และหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามไปยังสถานพยาบาล สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด หรือสำนักอนามัย กรุงเทพฯ
ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : ธนพิชฌน์ แก้วกา
ผู้เรียบเรียง : ธนพิชฌน์ แก้วกา
แหล่งที่มา : หน่วยงานสำนักข่าว