สรุปข่าวประจำสัปดาห์ (3-7 เมษายน 2566)

สรุปข่าวประจำสัปดาห์ (3-7 เมษายน 2566)
การเมือง/มั่นคง
3 เมษายน 2566
หลายพรรคการเมืองเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร เอาฤกษ์เอาชัย ก่อนกระจายตัวหาเสียงในพื้นที่
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค แกนนำพรรคและผู้สมัคร ส.ส.กทม. 33 คน เดินทางมาที่ศาลหลักเมือง สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ กล่าวทักทายและถ่ายภาพร่วมกับประชาชนที่มาไหว้ศาลหลักเมือง ส่วนพรรคประชาธิปัตย์นำโดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส. กทม. เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน
สำหรับพรรคการเมืองอื่นๆ ทยอยเดินทางตามมา แม้หลายพรรคหัวหน้าพรรคจะไม่ได้ร่วมเดินทางมาด้วยก็ตาม แต่ยังคงมีผู้บริหารระดับสูงของพรรคนำพาสมาชิกเข้ากราบไหว้ขอพรเช่น พรรคพลังประชารัฐ นำโดยนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค และนายสกลธี ภัททิยกุล หัวหน้าทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม, พรรคเพื่อไทย นำโดยนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคไทยสร้างไทย นำโดยนายสุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรค และนาวาอากาศตรีศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค โดยทุกพรรคได้นำสมาชิกเข้ากราบพระพุทธรูป พระบรมสารีริกธาตุ องค์พระหลักเมืองและผูกผ้าแพรสามสีบนองค์พระหลักเมืองจำลองและนำผู้สมัครเข้ากราบสักการะและถวายมาลัยองค์พระหลักเมือง กราบไหว้องค์เทพารักษ์ทั้ง 5 ประกอบด้วย พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง พระกาฬไชยศรี เจ้าพ่อเจตคุปต์ เจ้าพ่อหอกลอง อย่างเรียบร้อยด้วยดี
4 เมษายน 2566
พรรคการเมือง จับสลากหมายเลขผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และแจ้งรายชื่อบุคคลที่พรรคการเมืองมีมติเสนอเป็นนายกรัฐมนตรี
การรับสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และแจ้งรายชื่อบุคคลที่พรรคการเมืองมีมติเสนอสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ดินแดง วันแรก (4 เม.ย.66) มีพรรคการเมืองมายื่นสมัครทั้งสิ้น 49 พรรคการเมือง โดยพรรคการเมืองที่มาถึงก่อนเวลารับสมัคร 08.30 น. กกต.ให้ถือว่ามาพร้อมกัน ดังนั้นการจับสลากรอบแรก นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. เป็นผู้จับสลากรายชื่อพรรคการเมือง เพื่อจัดลำดับพรรคการเมืองเพื่อให้พรรคการเมืองจับหมายเลขของตัวเอง ซึ่งจะเป็นหมายเลขที่พรรคการเมืองนำใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อในครั้งนี้
สำหรับผลการจับสลากของหัวหน้าพรรคการเมือง หรือผู้แทนพรรคการเมือง เพื่อเป็นหมายเลขผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรค เช่น พรรครวมไทยสร้างชาติ หมายเลข 22 , พรรคภูมิใจไทย หมายเลข 7 , พรรคชาติไทยพัฒนา หมายเลข 18 , พรรคก้าวไกล หมายเลข 31 , พรรคชาติพัฒนากล้า หมายเลข 14 , พรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 26 , พรรคพลังประชารัฐ หมายเลข 37 พรรคไทยสร้างไทย หมายเลข 32 และพรรคเพื่อไทย หมายเลข 29
5 เมษายน 2566
รถแห่หาเสียงที่มีป้ายผู้สมัครสามารถทำได้ แต่ห้ามรถแห่ที่มีเครื่องดนตรี ร้องรำทำเพลง เสี่ยงผิดกฎหมาย
นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ร้องเรียนว่าผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบางพรรคใช้รถแห่ในการหาเสียง ว่า ต้องแยกออกเป็น 2 ประเภทคือ รถขบวนที่มีป้ายผู้สมัคร แล้วตัวผู้สมัครอยู่บนรถ สามารถใช้ในการหาเสียงได้ แต่สิ่งที่ กกต. กังวลจากคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 1 และภาค 4 เกี่ยวกับรถแห่ที่มีการแสดงรื่นเริงอยู่บนรถ มีอุปกรณ์ดนตรี ร้องรำทำเพลง จะเข้าข่ายการจัดงานรื่นเริง หรือมหรสพ ส่งข้อเท็จจริงที่มีผู้มาร้องเรียนก็ต้องดูว่าเข้าองค์ประกอบหรือไม่ ส่วนผู้ช่วยในการหาเสียงเปรียบเสมือนผู้สมัครคนหนึ่ง สามารถหาเสียงได้และต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย รวมทั้งงบประมาณที่ใช้ในการหาเสียงก็จะนับรวมเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งทั้งหมด
ส่วนการจัดเวทีดีเบตระหว่างพรรคการเมือง นายแสวง กล่าวว่า ส่วนมากสื่อมวลชนจะเป็นคนจัดขึ้น ซึ่งจะต้องให้ทุกพรรคมีโอกาสได้ประชันนโยบายด้วย
6 เมษายน 2566
นายกรัฐมนตรี วางพานพุ่มดอกไม้ เนื่องในวันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ พุทธศักราช 2566
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม วางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะปฐมบรมราชานุสรณ์ เนื่องในวันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ พุทธศักราช 2566 ณ บริเวณปฐมบรมราชานุสรณ์ สะพานพระพุทธยอดฟ้า
เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางถึง ได้ถวายความเคารพ ก่อนวางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะปฐมบรมราชานุสรณ์ จำนวน 2 พาน ในนามนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี แล้วนายกรัฐมนตรีถวายความเคารพ เป็นอันเสร็จพิธี
7 เมษายน 2566
สัปดาห์ประชาธิปไตย รณรงค์เลือกตั้ง ส.ส. เรียนรู้ด้วยการปฏิบัติ ดึงประชาชนทุกระดับ มีส่วนร่วมทางการเมือง
นายอรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานร่วมกับนายวีระ ยี่แพร รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง แถลงข่าวจัดกิจกรรม 6 สัปดาห์ ประชาธิปไตย รณรงค์เลือกตั้ง ส.ส. เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ครู นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปมีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักถึงความจำเป็นและความถูกต้องของกระบวนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสามารถถ่ายทอดความรู้แก่คนในครอบครัว เพื่อเกิดการเรียนรู้ด้วยการปฏิบัติผ่านกิจกรรม Active Learning ให้ผู้ปกครองตระหนักถึงความสำคัญของการเลือกตั้งและออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งมากขึ้น
?นายวีระ ยี่แพร รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวว่า กกต. พร้อมดันแฮชแท็ก #ไทยโหวตคนไทยพร้อมใช้สิทธิ และแอปพลิเคชันเพื่ออำนวยความสะดวกและให้ความรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้ง SMART ECT สะดวกครบ จบทุกเรื่องเลือกตั้ง ได้แก่ แอปพลิเคชัน "ตาสับปะรด” ร่วมต่อต้านทุจริตการเลือกตั้ง, แอปพลิเคชัน Smart Vote รอบรู้ทุกเรื่องเลือกตั้ง และแอปพลิเคชัน CIVIC Education รวมพลังสร้างพลเมืองคุณภาพ โดยสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ Android และ iOS เพียงค้นหาคำว่า กกต. หรือดาวน์โหลดผ่านเว็บไซต์ กกต.
ซึ่งหากมีคำถาม หรือข้องคิดเห็นอื่นใดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน 1444 ตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ในวันจันทร์ที่ 10 เมษายน 2566 สำนักงาน กกต.จะจัดการประชุมชี้แจงการดำเนินกิจกรรม “6 สัปดาห์ประชาธิปไตย รณรงค์เลือกตั้ง ส.ส.” ณ โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร
เศรษฐกิจ/ท่องเที่ยว
3 เมษายน 2566
กระทรวงการคลัง แจ้งผู้ผ่านเกณฑ์โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ยังยืนยันตัวตนได้ต่อเนื่อง
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ล่าสุด (3 เม.ย.66 เวลา 13.00 น.) มีมูลค่าการใช้สิทธิสะสมจำนวนกว่า 1,990 ล้านบาท จากผู้มีสิทธิกว่า 6.64 ล้านราย ส่วนใหญ่เป็นการใช้สิทธิซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นจากร้านธงฟ้า
สำหรับความคืบหน้าการยืนยันตัวตนของผู้ที่ผ่านเกณฑ์โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 มีผู้ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จ จำนวนทั้งสิ้น 12,902,750 ราย จากจำนวนผู้ผ่านเกณฑ์ทั้งหมด 14,596,820 ราย ขณะที่ผู้ยื่นอุทธรณ์ มีจำนวน 1,220,693 ราย
ผู้ผ่านเกณฑ์ยังคงสามารถยืนยันตัวตนได้ที่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และสามารถเริ่มใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐได้ตามวันที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยผู้ที่ยืนยันตัวตน ระหว่างวันที่ 27 มี.ค. - 26 เม.ย.66 สามารถเริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.66 เป็นต้นไป
4 เมษายน 2566
ท่าอากาศยานไทย พร้อมรองรับการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ คาดมีผู้โดยสารใช้บริการกว่า 2,300,000 คน
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ประเมินว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 11–17 เมษายน 2566 จะมีปริมาณการจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ ทอท. ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ รวมประมาณ 14,220 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 59.62 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ ประมาณ 7,500 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 219.20 และเที่ยวบินภายในประเทศ ประมาณ 6,720 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.44 โดยคาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการประมาณ 2.37 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 137.48 เป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประมาณ 1.37 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ561.76 และผู้โดยสารภายในประเทศ ประมาณ 1 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.08
ทอท. ได้เตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางของผู้โดยสาร โดยนำแอปพลิเคชัน SAWASDEE by AOT มาให้บริการตรวจสอบข้อมูลและสถานะเที่ยวบิน รวมถึงตรวจสอบระยะเวลาการรอคิว ณ จุดเช็กอิน (Check-in) จุดตรวจความปลอดภัย (Security) และจุดตรวจคนเข้าเมือง (Immigration) ตลอดจนตรวจสอบสถานะของกระเป๋าเดินทาง บอกตำแหน่งและจำนวนห้องน้ำที่พร้อมให้บริการภายในอาคารผู้โดยสาร รวมถึงจำนวนช่องจอดรถที่ว่าง สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางโดยรถสาธารณะสามารถจองรถแท็กซี่ และค้นหาข้อมูลรถสาธารณะได้
นอกจากนี้ AOT ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่อง Kiosk สำหรับเช็กอินและโหลดกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ ณ ทสภ.ซึ่งจะเป็นทางเลือกให้กับผู้โดยสาร โดยไม่ต้องเข้าแถวรอคิวเข้าใช้บริการเคาน์เตอร์ต่างๆ อีกทั้งยังสามารถเช็กอินและโหลดกระเป๋าสัมภาระล่วงหน้าได้ 6-12 ชั่วโมงก่อนเดินทาง (ตามเงื่อนไขของแต่ละสายการบิน)
นอกจากนี้ ทอท. ได้เน้นย้ำในหลักเกณฑ์การนำของเหลว เจล สเปรย์ ติดตัวขึ้นเครื่อง ตามประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) โดยสามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องหรือเข้าไปในเขตหวงห้ามในสนามบินได้ในบรรจุภัณฑ์ที่มีความจุไม่เกิน 100 มิลลิลิตร โดยบรรจุภัณฑ์ต้องมีลักษณะที่ปิดสนิทและมีข้อความระบุปริมาตรของบรรจุภัณฑ์ชัดเจน ซึ่งผู้โดยสารสามารถนำติดตัวขึ้นบนอากาศยานรวมกันได้ไม่เกินคนละ 1,000 มิลลิลิตร
ทั้งนี้ หากบรรจุภัณฑ์ที่มีปริมาณของเหลวฯ เกินกว่าที่กำหนด (100 มิลลิลิตร) แม้ว่าจะมีของเหลวอยู่เล็กน้อยต้องนำใส่ในสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง โดยเฉพาะอาหารพื้นเมือง เช่น น้ำพริกหนุ่ม และน้ำพริกอื่นๆ ที่เป็นของฝากยอดนิยมของจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ หากจะนำขึ้นเครื่องต้องอยู่ในบรรจุภัณฑ์มาตรฐานขนาดไม่เกิน 100 มิลลิลิตร และต้องมีฉลากแสดงปริมาตรและที่มาอย่างชัดเจน
บสย. เตือนประชาชนและผู้ประกอบการ SMEs อย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพปลอมเฟซบุ๊ก หลอกให้กู้ยืมเงินทางออนไลน์
บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพ หลอกให้กู้ยืมเงินทางออนไลน์ โดยระบุว่า ขณะนี้มีกลุ่มมิจฉาชีพได้แอบอ้างชื่อ บสย. ผ่านสื่อออนไลน์ตามช่องทางต่างๆ เช่น Facebook หลอกลวงประชาชน ผู้ประกอบการ SMEs เชิญชวนให้หลงเชื่อกดลิงก์กู้ยืมเงินทางออนไลน์ โดยการใช้ชื่อใกล้เคียงกับชื่อของ บสย. รวมทั้งปลอมแปลงข้อความ Infographic ของ บสย. โดยการเติมข้อความ “ดอกถูก ผ่อนยาว วงเงินสูงไม่เช็คเครดิตบูโร” เป็นต้น
ขอแจ้งเตือน เพื่อป้องกันภัยจากกลุ่มมิจฉาชีพที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน ผู้ประกอบการ SMEs ว่า บสย. มีบทบาทหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs เฉพาะ “การค้ำประกันสินเชื่อ” เท่านั้น ไม่มีนโยบายและภารกิจให้กู้ยืมเงินในทุกๆ ช่องทาง
ทั้งนี้ หากพบข้อความเชิญชวนที่น่าสงสัย หรือพบการกระทำดังกล่าว ผ่านสื่อออนไลน์ หรือเชิญชวนกดลิงก์ SMS สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ บสย. Call Center 02-890-9999 และสำหรับผู้ที่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ สามารถร้องทุกข์ได้ที่ สถานีตำรวจ หรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
สงกรานต์ปีนี้คึกคักมากขึ้น คาดเงินสะพัดกว่า 120,000 ล้านบาท
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2566 ว่า สงกรานต์ปีนี้คาดว่าจะคึกคักเป็นอย่างมาก เนื่องจากประชาชนคลายความกังวลต่อการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งประชาชนมีแนวโน้มจะใช้จ่ายมากขึ้น ส่วนใหญ่มีแผนเดินทางท่องเที่ยว โดยจะเน้นไปสถานที่ชายทะเลมากกว่าไปท่องเที่ยวในภาคเหนือเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาฝุ่น PM2.5
ทั้งนี้ จากกิจกรรมด้านต่างๆ จะทำให้เกิดเงินสะพัดช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ มูลค่ากว่า 125,203 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ประมาณ 20,000 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับปี 2559 อย่างไรก็ตาม ประชาชนยังกังวลด้านการจับจ่ายใช้สอย เนื่องจากมองว่าสินค้าและบริการมีราคาสูงขึ้นในช่วงสงกรานต์ รวมทั้งปัญหาด้านอุบัติเหตุและการจราจรในช่วงเดินทางไปและกลับ โดยอยากให้หน่วยงานภาครัฐเตรียมแผนรองรับทั้งการเดินทางและดูแลปัญหาราคาสินค้าและบริการไม่ให้มีการเอารัดเอาเปรียบเกิดขึ้น
นายธนวรรธน์ กล่าวยังอีกว่า สำหรับการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น ประชาชนอยากเห็นรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาแก้ไขปัญหาให้เศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัว พร้อมทั้งแก้ไขปัญหาด้านคอร์รัปชันให้น้อยลง เชื่อว่าช่วงการเลือกตั้งในเดือน พ.ค.นี้ จะทำให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างคึกคักแน่นอน เพราะคนส่วนใหญ่ต้องการให้มีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาแก้ไขปัญหาให้เศรษฐกิจไทยกลับมาดีขึ้นโดยเร็ว ทั้งนี้ คาดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจประมาณ 1-1.2 แสนล้านบาท รวมการใช้จ่ายช่วงเทศกาลสงกรานต์และการเลือกตั้ง จะทำให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้ ขยายตัวได้ที่ร้อยละ 3-4
5 เมษายน 2566
แนะผู้มีสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ประสงค์เปลี่ยนรหัสส่วนบุคคล สามารถติดต่อดำเนินการได้ที่ธนาคารของรัฐทั้ง 3 แห่ง
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ล่าสุด (5 เมษายน 2566) มีมูลค่าการใช้สิทธิสะสมจำนวนกว่า 2,644 ล้านบาท จากผู้มีสิทธิกว่า 8.67 ล้านราย ส่วนใหญ่จะเป็นการใช้สิทธิในวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นจากร้านธงฟ้า ค่าซื้อก๊าซหุงต้มและค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา พบว่า มีผู้ที่ไปใช้สิทธิบางส่วน ไม่สามารถจำรหัสส่วนบุคคลได้ หรือต้องการเปลี่ยนแปลงรหัส PIN ซึ่งกรณีต้องการเปลี่ยนรหัส PIN ใหม่ สามารถดำเนินการได้ที่สาขาของธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. ซึ่งจะสามารถใช้สิทธิได้หลังจากกำหนดรหัส PIN ใหม่ ประมาณ 2 ชั่วโมง ส่วนกรณีกดรหัส PIN ไม่ถูกต้อง จำนวน 3 ครั้ง จะถูกระงับการใช้งาน โดยสามารถติดต่อขอกำหนดรหัส PIN ใหม่ ได้ที่ธนาคารทั้ง 3 แห่งดังกล่าว และกรณีเปลี่ยนบัตรประจำตัวประชาชน เนื่องจากบัตรหมดอายุ หรือสูญหาย จะต้องอายัดสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐด้วยตนเอง ทาง Call Center หมายเลขโทรศัพท์ 02 109 2345 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่ธนาคารกรุงไทย พร้อมบัตรประจำตัวประชาชนใบใหม่ ติดต่อขอทำการยืนยันตัวตนเพื่อกำหนดรหัส PIN ใหม่
คาดการณ์สงกรานต์ปีนี้คึกคักกว่าปีที่แล้ว เกิดเงินสะพัดมูลค่ากว่า 125,200 ล้านบาท
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ และอธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ กล่าวว่า สงกรานต์ปีนี้คาดว่าจะคึกคักกว่าปีที่ผ่านมา ประชาชนมีแนวโน้มจะใช้จ่ายมากขึ้น จากกิจกรรมด้านต่างๆ จะทำให้เกิดเงินสะพัดปีนี้ มูลค่ากว่า 125,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ประมาณ 20,000 ล้านบาท เนื่องจากประชาชนคลายความกังวลต่อการแพร่ระบาดโควิด-19 แม้จะไม่มากเหมือนก่อนช่วงเกิดสถานการณ์โควิด-19 แต่ถือว่าเป็นการจับจ่ายใช้สอยที่สูงสุดในรอบ 3 ปี
อย่างไรก็ตาม คาดว่า การใช้จ่ายช่วงเทศกาลสงกรานต์และการเลือกตั้ง จะทำให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัว แต่ต้องดูว่านับจากนี้สถานการณ์ท่องเที่ยวเอื้ออำนวยต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวหรือไม่ จากปัจจัยด้านเศรษฐกิจโลก ทั้งความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน สถาบันการเงินสหรัฐและยุโรป และการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น จะมีความวุ่นวายเกิดขึ้นหรือไม่ ซึ่งทั้งหมดนี้จะมีผลต่อการท่องเที่ยว
6 เมษายน 2566
ชายหาดของไทย 5 แห่ง ติดอันดับชายหาดที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2566
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เว็บไซต์แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวชายหาด World Beach Guide ของประเทศอังกฤษ เผยแพร่ผลการจัดอันดับในหัวข้อ “100 อันดับ ชายหาดที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2566” ซึ่งชายหาดจากประเทศไทยติดอันดับถึง 5 แห่ง ได้แก่ อันดับ 1 เกาะกระดาน จังหวัดตรัง อันดับ 9 หาดไร่เลย์ จังหวัดกระบี่ อันดับ 18 หาดฟรีด้อม จังหวัดภูเก็ต อันดับ 21 แหลมหาด เกาะยาวใหญ่ จังหวัดพังงา และอันดับ 44 อ่าวโตนด เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีกับผลการจัดอันดับดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงความนิยมและความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่มีต่อแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของไทยที่สำคัญและมีศักยภาพทางเศรษฐกิจ สามารถต่อยอดสร้างกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวทางทะเลได้อีกมาก พร้อมขอบคุณหน่วยงานด้านการท่องเที่ยว ทั้งภาครัฐและเอกชน ที่สานต่อความนิยมตามกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายให้ความสนใจ ซึ่งแต่ละจังหวัดสามารถนำเสนอรูปแบบ แนวทาง กิจกรรม อาหารการกิน ประเพณีและวัฒนธรรม เป็นไปตามแหล่งท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ต่อไป
มิชลินไกด์ ประเทศไทย ขยายขอบเขตคัดสรรร้านอาหารเข้าสู่เกาะสมุย ตอกย้ำความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายของอาหารไทยให้นักชิมทั่วโลกได้รับรู้
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ททท. สนับสนุนการจัดทำคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทย โดยขยายขอบเขตเข้าจัดอันดับร้านอาหารบนเกาะสมุยและแผ่นดินใหญ่ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ถือเป็นโอกาสอันดีสำหรับธุรกิจร้านอาหารในท้องถิ่นที่จะได้ต้อนรับนักชิมจากทั่วทุกมุมโลกให้มาสัมผัสรสชาติและวัฒนธรรมอาหารที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว
นอกจากนี้ ‘มิชลิน ไกด์’ ยังเป็นสื่อกลางนำเสนอการท่องเที่ยวเชิงอาหารทั่วประเทศไทยโดยเจาะลึกมากยิ่งขึ้นในแต่ละปี เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสกับความหลากหลายและความอุดมสมบูรณ์ของอาหารไทย ถือเป็นการขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยวของไทยให้เติบโต เนื่องจากประสบการณ์ด้านอาหารท้องถิ่นช่วยสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยว อีกทั้งยังเพิ่มคุณค่าให้กับประสบการณ์การท่องเที่ยวโดยรวมและทำให้อาหาร เป็น “ซอฟต์พาวเวอร์” หรืออิทธิพลทางวัฒนธรรมระดับโลกที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาเยือนประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ภาคธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารในเกาะสมุยและสุราษฎร์ธานีเริ่มมีสัญญาณของการฟื้นตัวที่ดีและเศรษฐกิจท้องถิ่นเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้งโดยในปี 2565 ที่ผ่านมาจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีสถิตินักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของประเทศเมื่อเทียบกับปี2564 ส่งผลให้มีรายได้จากการท่องเที่ยวสูงขึ้นมากกว่า 900% จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น 600% สะท้อนถึงศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพได้อย่างดี
ททท. ชูตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยไตรมาสแรกปี 2566 กว่า 6.5 ล้านคน
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยถึงสถานการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 มีนาคม 2566 มีจำนวนสะสม อยู่ที่ 6,465,737 คน เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 แบ่งเป็นเดือนมกราคม มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2,144,948 คน เดือนกุมภาพันธ์ 2,113,550 คน และเดือนมีนาคม 2,207,239 คน สร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม 256,194 ล้านบาท ทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมเกือบ 6.5 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากโซนเอเชียตะวันออกร้อยละ 56.8 โซนยุโรป ร้อยละ 26.5 และอื่นๆ อาทิ อินเดีย สหรัฐ ออสเตรเลีย อิสราเอล แคนาดา และซาอุดีอาระเบีย อีกร้อยละ 16.7 โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทย สูงสุด 5 อันดับแรก ในช่วง 3 เดือนแรก ได้แก่มาเลเซีย รัสเซีย จีน เกาหลีใต้ และอินเดีย ตามลำดับ
ททท. คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยมากเป็นอันดับ 1 จำนวนไม่น้อยกว่า 5 ล้านคน และมีแนวโน้มจะสูงถึงที่ 7-8 ล้านคน ขึ้นอยู่กับปริมาณเที่ยวบินในช่วงตารางบินฤดูหนาว 2566/2567 รองลงมาคือ ตลาดมาเลเซีย วางเป้าหมายไว้ที่ 4 ล้านคน อินเดีย 2 ล้านคน ส่วนรัสเซียและเกาหลีใต้ คาดมีไม่น้อยกว่า 1 ล้านคน
บขส. เตือนผู้โดยสารอย่าซื้อตั๋วโดยสารรถประจำทางนอกพื้นที่สถานีขนส่ง ป้องกันมิจฉาชีพหลอกลวง
นายสัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยผลการตรวจสอบ หลังมีผู้โดยสารเผยแพร่ภาพการถกเถียงกันบริเวณหน้าช่องจำหน่ายตั๋ว ในสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (บรมราชชนนี) หรือสายใต้ใหม่ ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2566 เวลาประมาณ 10.00 น. มีผู้โดยสารซื้อตั๋วเดินทางไปจังหวัดนครศรีธรรมราชกับบุคคลภายนอก บริเวณด้านหน้าสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ต่อมาผู้โดยสารเห็นว่ามีจุดจำหน่ายตั๋วภายในสถานีขนส่งฯ จึงได้มีการเจรจาขอคืนเงินค่าโดยสารจากบุคคลภายนอก จนเป็นเหตุให้เกิดการถกเถียงกันตามคลิปดังกล่าว ทั้งนี้ เพื่อป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพหรือบุคคลภายนอกหลอกหลวง บขส. ขอความร่วมมือผู้โดยสารซื้อตั๋วเดินทาง ณ จุดขายตั๋วที่กำหนดเท่านั้น และหากพบเห็นเหตุการณ์ผิดปกติ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ในสถานีฯ ทันที
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า บขส. มีมาตรการด้านความปลอดภัย ภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ ทั้ง 5 แห่ง ทั้งติดตั้งกล้องวงจรปิด จัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกผู้โดยสาร หากมีข้อสงสัยในการเดินทาง สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่จุดประชาสัมพันธ์โดยตรง หรือ Call Center เรียก บขส. ตลอด 24 ชั่วโมง
เมืองพัทยา เตือนประชาชนและนักท่องเที่ยว ระวังมิจฉาชีพแอบอ้างใช้เพจปลอมหลอกขายห้องพักเกาะล้าน หากพบผู้กระทำความผิดจะดำเนินโดยคดีเด็ดขาด นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่า ได้รับข้อมูลการร้องเรียนจากผู้ประกอบการชมรมที่พักรีสอร์ทเกาะล้าน ว่าปัจจุบันพื้นที่เกาะล้านได้รับความนิยมจากประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางมาพักผ่อนเป็นจำนวนมาก ทำให้มีความต้องการเรื่องของที่พักสูง ซึ่งขณะนี้มีมิจฉาชีพแฮกหน้าเพจที่พัก โรงแรม รีสอร์ทบนเกาะล้าน เพื่อหลอกให้จองห้องพักผ่านลิงก์เพจปลอมที่มิจฉาชีพทำขึ้น และเอาเงินมัดจำค่าที่พักจากนักท่องเที่ยว ทำให้ไม่สามารถเข้าพักได้ในวันเข้าพักจริง ส่งผลต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวและที่พักได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการบนเกาะล้านได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดมามอบให้กับเมืองพัทยา ซึ่งได้ดำเนินการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ อย่างไรก็ตาม ขอแจ้งเตือนประชาชนที่จะทำการจองที่พักให้ระวังลิงก์เพจปลอมหลอกลวงเอาเงินค่ามัดจำ โดยมีลักษณะหลอกโอนเงินค่ามัดจำก่อน 50% เบื้องต้นแนะนำให้โทรสอบถามกับทางที่พักโดยตรงและหากตรวจสอบพบมิจฉาชีพและผู้แอบอ้าง เมืองพัทยาจะดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด
7 เมษายน 2566
บีโอไอส่งเสริมอีวีกว่า 1 แสนล้านบาท เร่งกระตุ้นลงทุน การผลิตรถยนต์ แบตเตอรี่ ชิ้นส่วน สถานีชาร์จ
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนที่สำคัญของโลก ในส่วนของบีโอไอ ได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมกิจการยานยนต์ไฟฟ้าทั้งระบบ ซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมมุ่งเป้าตามยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุนเพื่อสร้างเศรษฐกิจใหม่ของไทย โดยได้มีมาตรการให้สิทธิประโยชน์กับผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าทุกประเภท ทั้งรถยนต์ไฟฟ้า รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า รถสามล้อไฟฟ้า รถโดยสารไฟฟ้า รถบรรทุกไฟฟ้า รถจักรยานไฟฟ้าและเรือที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า รวมถึงชิ้นส่วนและอุปกรณ์ สถานีอัดประจุไฟฟ้าและสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ ซึ่งจากข้อมูลล่าสุด บีโอไอได้ให้การส่งเสริมการลงทุนกิจการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ ชิ้นส่วนสำคัญและสถานีชาร์จ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 114,000 ล้านบาท
สำหรับโครงการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ที่บีโอไอได้อนุมัติให้การส่งเสริมแล้ว แบ่งได้เป็น 3 กลุ่มประกอบด้วย การผลิตยานยนต์ไฟฟ้า มีโครงการลงทุนผลิตยานยนต์ไฟฟ้าทุกประเภท ทั้งยานยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และไฮบริด (HEV) รวมทั้งหมด 26 โครงการ จาก 17 บริษัท รวมมูลค่าเงินลงทุน 86,800 ล้านบาท เป็นการลงทุนจากทั้งค่ายรถยนต์จากจีน ญี่ปุ่น ไต้หวันและยุโรป ในจำนวนนี้เป็นการผลิตรถยนต์ BEV จำนวน 15 โครงการ จาก 14 บริษัท กำลังการผลิตรวม 270,000 คัน โดยขณะนี้มีการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าทุกประเภทออกสู่ตลาดแล้ว 11 บริษัท การผลิตชิ้นส่วนสำคัญของยานยนต์ไฟฟ้า แบ่งเป็นการผลิตแบตเตอรี่สำหรับ EV 20 โครงการ จาก 13 บริษัท เงินลงทุน 9,400 ล้านบาท การผลิตแบตเตอรี่ความจุสูง สำหรับ EV และEnergy Storage 8 โครงการ จาก 8 บริษัท เงินลงทุน 9,300 ล้านบาท และการผลิตชิ้นส่วนสำคัญของรถไฟฟ้า เช่นTraction Motor ระบบริหารจัดการแบตเตอรี่ (BMS) ระบบควบคุมการขับเคลื่อน (DCU) ระบบและอุปกรณ์อัดประจุไฟฟ้า 16 โครงการ จาก 14 บริษัท เงินลงทุน 5,120 ล้านบาท และกิจการสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า มี 7 โครงการ จาก 7 บริษัท เงินลงทุน 4,200 ล้านบาท โดยมีหัวจ่ายไฟฟ้ารวม 11,300 หัวจ่าย ซึ่งเป็นแบบ Quick Charge กว่า 5,400 หัวจ่าย
สังคม
3 เมษายน 2566
แพทย์เตือนไข้หวัดแดดในเด็ก แนะผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด
นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ในช่วงฤดูร้อนที่มีอุณหภูมิสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและเป็นช่วงปิดเทอม โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ที่มีวันหยุดต่อเนื่องหลายวัน ส่วนใหญ่จะเดินทางท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งหลีกไม่พ้นจากการเจอแสงแดด ความร้อน อาหารไม่สะอาด ปัจจัยเหล่านี้ทำให้เกิดโรคต่างๆ ได้ ซึ่งเด็กมีภูมิต้านทานไม่มากนักจึงมักเจ็บป่วยได้ง่าย ผู้ปกครองจึงควรใส่ใจสุขภาพของบุตรหลาน หมั่นสังเกตอาการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นและหากพบความผิดปกติควรไปพบแพทย์เพื่อได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง
ด้านนายแพทย์อัครฐาน จิตนุยานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กล่าวว่า โรคไข้แดด สาเหตุเกิดจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ในช่วงหน้าร้อน อาการแสดงของโรคถูกกระตุ้นจากอากาศที่ร้อน ร่วมกับการรับเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่เข้าสู่ร่างกาย อาจมีอาการไข้สูงอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ครั่นเนื้อครั่นตัว บางรายอาจมีตาแดง วิธีการดูแลป้องกันคือ ควรพักผ่อนให้เพียงพอ เด็กต้องนอนอย่างน้อยวันละ 8-10 ชั่วโมง รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำสะอาดต่อวันให้เพียงพอ หมั่นล้างมือบ่อยๆ ออกกำลังกายเป็นประจำ หลีกเลี่ยงไม่ไปใกล้ชิดปะปนกับคนที่เป็นหวัด ไอ น้ำมูก เพื่อลดโอกาสการรับเชื้อ ผู้ปกครองควรหมั่นทำความสะอาดบ้าน ของเล่นที่ลูกใช้อยู่เป็นประจำเพื่อลดการสะสมเชื้อโรค ไม่เข้าไปในสถานที่ที่มีคนอยู่แออัด ระบบการถ่ายเทอากาศไม่ดี ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ให้แก่เด็ก โดยเริ่มฉีดได้ตั้งแต่เด็กอายุ 6 เดือนเป็นต้นไปและฉีดกระตุ้นซ้ำทุกปี ดังนั้นเด็กๆ จึงควรหลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดด หรืออยู่ในสถานที่อากาศร้อนจัด
ห่วงพิษสุนัขบ้าระบาด ผนึกหน่วยงานภาคีเครือข่าย เร่งป้องกันตัดวงจรพิษสุนัขบ้าในพื้นที่จังหวัดชลบุรี
นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ปัญหาโรคพิษสุนัขบ้าที่เป็นปัญหาสำคัญของชาติ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงมีพระประสงค์ให้โรคพิษสุนัขบ้าหมดไปจากประเทศไทย โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมจัดทำแผนยุทธศาสตร์การดำเนินโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า โดยสถานการณ์และแนวโน้มโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์ในจังหวัดชลบุรี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 – 2565 มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ และยังพบผู้เสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้าอีกด้วย ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ประกอบกับเพื่อให้การขับเคลื่อนโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กรมปศุสัตว์และหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง จึงได้ร่วมกันจัดโครงการเร่งรัดกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่จังหวัดชลบุรี?ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 หรือชลบุรีโมเดล ภายใต้โครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานฯ ขึ้นเพื่อขับเคลื่อนโครงการสัตว์ปลอดโรคคนปลอดภัย จากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานฯ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้จังหวัดชลบุรีปลอดโรคพิษสุนัขบ้า และเป็นต้นแบบของการร่วมมือจากทุกหน่วยงาน โดยบูรณาการการดำเนินงานทุกภาคส่วนทั้งหน่วยงานระดับส่วนกลาง ระดับเขต และระดับจังหวัด ครอบคลุมทุกพื้นที่ของจังหวัดชลบุรี มีปศุสัตว์จังหวัดชลบุรีเป็นผู้ประสานงานหลัก
ดำเนินการโดยเน้นกิจกรรมหลัก 3 กิจกรรม ได้แก่ การผ่าตัดทำหมันควบคุมประชากรสัตว์ การฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าและการสร้างชุมชนเข้มแข็งปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่จังหวัดชลบุรีอย่างต่อเนื่องทุกปี ผ่าตัดทำหมันควบคุมประชากรสัตว์ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่จังหวัดชลบุรี สร้างชุมชนเข็มแข็งด้วยการประชาสัมพันธ์ ฝึกอบรมให้ความรู้ ทำประชาคมชาวบ้าน สร้างความตระหนักและสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนเกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้าครอบคลุมพื้นที่จังหวัดชลบุรี โดยมีพื้นที่เป้าหมายดำเนินการ 11 อำเภอ พื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกท้องถิ่น จำนวน 98 แห่ง ผ่าตัดทำหมันควบคุมประชากรสุนัขและแมว จำนวน 98,000 ตัว และฉีดวัคชีนครอบคลุมร้อยละ 80 ของประชากรสุนัขและแมว ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมออกหน่วยปศุสัตว์เคลื่อนที่ให้บริการผ่าตัดทำหมันพร้อมกันทั้งจังหวัดชลบุรี โดยมีการดำเนินการตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 ถึงเดือนกันยายน 2566 ซึ่งในครั้งนี้จังหวัดชลบุรีจะบริการผ่าตัดทำหมัน รวม 300 ตัว และฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า รวม 500 ตัว
เตือนหน้าร้อนอาหารบูดเสียง่าย ประชาชนควรเลือกอาหารปรุงสุก ยึดหลักกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ลดเสี่ยงโรคติดต่อ
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในช่วงหน้าร้อนจะเหมาะกับการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ เช่น แบคทีเรีย ไวรัส และขยายตัวเพิ่มปริมาณอย่างรวดเร็ว หากปนเปื้อนอยู่ในอาหารจะทำให้บูดเสียง่าย ซึ่งโรคที่ต้องเฝ้าระวังคือ โรคติดต่อจากอาหารและน้ำ ได้แก่ โรคท้องร่วง โรคอาหารเป็นพิษ โรคบิด โรคไทฟอยด์และอหิวาตกโรค
จากการเฝ้าระวังสถานการณ์โรคอุจจาระร่วง ตั้งแต่เดือนมกราคม – กันยายน 2565 พบว่า มีผู้ป่วย 410,699 ราย และเสียชีวิต 2 ราย พบจำนวนผู้ป่วยในกลุ่มอายุ 0-4 ปี รองลงมาคือ กลุ่มอายุมากกว่า 65 ปี และ 25-34 ปี โดยภาคกลาง เป็นภาคที่มีอัตราป่วยสูงสุด
ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยในช่วงหน้าร้อน ประชาชนควรเลือกซื้ออาหารจากแหล่งที่มีความน่าเชื่อถือได้รับการรับรองจากหน่วยงานราชการ เช่น ตลาดสดน่าซื้อ ตลาดนัดน่าซื้อ หรือร้านอาหาร แผงลอย ที่ได้มาตรฐานอาหารสะอาด รสชาติอร่อย (Clean Food Good Taste) โดยเลือกเนื้อสัตว์ อาหารทะเลที่สด ไม่มีสีและกลิ่นผิดปกติ เก็บในอุณหภูมิไม่เกิน 5 องศาเซลเซียส สำหรับผู้ที่ซื้อจากรถเร่จำหน่ายอาหารหรือรถพุ่มพวง ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เนื่องจากมีการจัดเก็บที่ไม่ถูกต้อง ตู้แช่อุณหภูมิไม่เพียงพอ ทำให้เน่าเสียง่าย อาหารปรุงสำเร็จที่บรรจุใส่ถุงพลาสติกไว้ หากสังเกตว่ามีฟองก๊าซเกิดขึ้นในถุงไม่ควรซื้อ หลีกเลี่ยงอาหาร หรือขนมที่มีส่วนผสมของกะทิ เนื่องจากบูดเสียได้ง่าย
แนะนำให้เลือกกินอาหารปรุงสุก ใหม่ โดยยึดหลักกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ หลีกเลี่ยงการกินอาหารสุกๆ ดิบๆ เช่น ลาบ น้ำตก ก้อย หรือ หลู้ ส้า รวมถึงเมนูที่นิยมกินอย่างแพร่หลาย เช่น กุ้งเต้น พล่าปลา กุ้งแช่น้ำปลา ยำหอยแครง อาหารทะเลปิ้งย่าง เป็นต้น หากจะกินอาหารที่เก็บไว้ในตู้เย็น อาหารที่ทำไว้นานเกิน 4 ชั่วโมง หรือเก็บไว้ค้างคืน ต้องนำมาอุ่นให้เดือดด้วยความร้อนอย่างทั่วถึงก่อน หากกินอาหารร่วมกันควรใช้ช้อนกลาง โดยก่อนกินอาหารและหลังเข้าห้องส้วม ต้องล้างมือด้วยน้ำและสบู่ให้สะอาดทุกครั้ง เพื่อลดสื่อนำโรคติดต่อจากอาหารและน้ำ
แนะประชาชนรับประทานข้าวแช่คลายร้อน มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ช่วยบำรุงหัวใจ กระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต
นายแพทย์ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ขณะนี้หลายจังหวัดของประเทศไทย มีอากาศที่ร้อนอบอ้าวและจะร้อนเป็นพิเศษในช่วงเดือนเมษายน กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ขอแนะนำเมนูอาหารตำรับชาววัง ช่วยคลายความร้อนคือ ข้าวแช่ ซึ่งประกอบด้วยสมุนไพรหลายชนิดที่สำคัญคือ น้ำลอยดอกมะลิและข้าวสวยหุงด้วยน้ำใบเตย ซึ่งมะลิและใบเตย เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็น มีสรรพคุณแก้ร้อนใน กระหายน้ำ แก้ไข้ตัวร้อน ช่วยให้ร่างกายสดชื่น เครื่องเคียงที่รับประทานคู่กับข้าวแช่คือ ลูกกะปิ ทำจากปลาย่าง มีส่วนผสมของหอมแดง ต้นหอม ข่า กระเทียม ตะไคร้ ผิวมะกรูด กระชาย พริกชี้ฟ้า สรรพคุณช่วยให้เลือดลมไหลเวียนสะดวก ป้องกันการเป็นลมในช่วงหน้าร้อนได้เป็นอย่างดี พริกหยวกสอดไส้หมูสับห่อไข่ มีโปรตีนสูง บำรุงร่างกาย ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนสะดวก หมูฝอย หรือเนื้อฝอย มีโปรตีนสูง ช่วยบำรุงร่างกาย ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ไชโป๊ผัด มีแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย หอมแดงทอด ป้องกันหวัด ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนสะดวก นอกจากนี้ บางแห่งยังมีมะม่วงสับ ซึ่งเป็นเครื่องเคียง สรรพคุณ ช่วยขับเสมหะ บรรเทาอาการไอด้วย
วิธีการรับประทานข้าวแช่ ควรรับประทานเครื่องเคียงก่อน แล้วค่อยรับประทานข้าวพร้อมกับน้ำลอยดอกมะลิ มีรสชาติหอมเย็น จะช่วยให้สดชื่นและคลายร้อนได้เป็นอย่างดี หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับศาสตร์การแพทย์แผนไทยหรือการใช้ยาสมุนไพร สามารถติดต่อที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก หมายเลขโทรศัพท์ 0 2149 5678 หรือช่องทางออนไลน์ ที่ FACEBOOK กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
4 เมษายน 2566
กรมควบคุมโรค แนะบุตรหลานกลับบ้านสงกรานต์ ส่งมอบความห่วงใยให้สูงอายุ เดินอย่างมั่นคง ปลอดภัยจากการหกล้ม
นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์แล้ว โดยมีสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุ ร้อยละ 20 และคาดการณ์ว่าในปี 2580 จะมีสัดส่วนของผู้สูงอายุ ร้อยละ 30 ทั้งนี้ ผู้สูงอายุเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงได้รับอุบัติเหตุจากการพลัดตกหกล้ม ซึ่งเป็นปัญหาสาธารณสุขสำคัญที่นับวันจะมีโอกาสเพิ่มขึ้น
จากข้อมูลของระบบบริการสุขภาพพบว่า 1 ใน 3 ของผู้สูงอายุ หกล้มทุกปี สถานที่เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดขึ้นในบ้าน สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการลื่น สะดุด หรือก้าวพลาดบนพื้นระดับเดียวกันและพบว่าผู้สูงอายุส่วนใหญ่ร้อยละ 80 อาศัยอยู่ในบ้านที่ไม่ปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุ เช่น ไม่มีราวจับในห้องน้ำ ใช้ส้วมนั่งยอง มีพื้นต่างระดับ มีสิ่งขวางกั้น บันไดไม่มีราวจับ เป็นต้น
ด้านนายแพทย์อภิชาต วชิรพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวแนะนำว่า ช่วงสงกรานต์ที่บุตรหลานกลับบ้านไปเยี่ยมผู้สูงอายุ สามารถมอบความรักความห่วงใยให้ท่านปลอดภัยห่างไกลจากพลัดตกหกล้ม ซึ่งปัญหาการพลัดตกหกล้มสามารถป้องกันได้ หากผู้สูงอายุ หรือประชาชนเข้าใจถึงความเสี่ยงและปฏิบัติตัวให้เหมาะสม เช่น การออกกำลังกายแบบใช้แรงต้านเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและการทรงตัวอย่างสม่ำเสมอ เลือกใช้รองเท้าที่เหมาะสม ปรับสภาพแวดล้อมบ้านให้ปลอดภัย เข้ารับการประเมินความเสี่ยงพลัดตกหกล้มปีละครั้ง และดูแลสุขภาพกายใจให้ห่างไกลการใช้ยาที่เพิ่มความเสี่ยงหกล้ม พร้อมช่วยกันดูแลถามไถ่ผู้สูงอายุที่อยู่เพียงลำพัง หากเพื่อนบ้านพบเห็นสิ่งผิดปกติขอให้รีบแจ้งผู้ใหญ่บ้าน และหากพบเหตุฉุกเฉินให้รีบโทร.1669 ขอความช่วยเหลือหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน
5 เมษายน 2566
สปสช. เตือน ระวังมิจฉาชีพแอบอ้างส่ง SMS ให้อัปเดตข้อมูลบัตรทอง
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ำเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวลือในสื่อออนไลน์ กรณีมีการเผยแพร่ข้อความว่า สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ส่งข้อความ SMS “แจ้งอัปเดตข้อมูลบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือบัตรทองให้เป็นข้อมูลปัจจุบัน มิฉะนั้นจะถูกตัดสิทธิทันที” ซึ่งจากการตรวจสอบไปยัง สปสช. กระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ สปสช. ไม่มีนโยบายโทร หรือส่ง SMS สอบถามข้อมูลส่วนบุคคล โปรดอย่าหลงเชื่อคลิกลิงก์ที่แนบมาด้วย เพราะมีความเสี่ยงอาจถูกแฮ็กข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลทางการเงิน หรืออาจถูกหลอกล่อด้วยวิธีการต่างๆ
โดยสิทธิบัตรทองนั้น เป็นสิทธิการรักษาพื้นฐานสำหรับคนไทยทุกคน ไม่มีการตัดสิทธิใดๆ ทั้งสิ้น มีแต่การเปลี่ยนไปใช้สิทธิอื่น เช่น หากเข้ารับราชการก็จะเปลี่ยนมาใช้สิทธิสวัสดิการของราชการ หรือหากเข้าทำงานในบริษัทเอกชน ก็จะเปลี่ยนสิทธิมาใช้ระบบประกันสังคม เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.nhso.go.th หรือโทร. 1330 พร้อมกันนี้ ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อความที่แอบอ้างชื่อสถานที่ราชการ หรือแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ยืนยันส่วนราชการไม่มีนโยบายส่งข้อความ หรือโทรศัพท์ไปขอข้อมูลส่วนตัวจากประชาชน
สธ.ไทย ร่วมกับองค์การอนามัยโลก จัดงานวันอนามัยโลก พร้อมสานความร่วมมือระหว่างกันระยะ 5 ปี
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการจัดกิจกรรมวันอนามัยโลก (World Health Day) ประจำปี 2566 และครบรอบ 75 ปี องค์การอนามัยโลก ว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในสมาชิกองค์การอนามัยโลก ซึ่งองค์การอนามัยถือเป็นภาคีสำคัญที่ทำให้ไทยบรรลุเป้าหมายการแก้ปัญหาสุขภาพ ทั้งการกำจัดโรคเรื้อน โรคโปลิโอ การยุติการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีและซิฟิลิสจากแม่สู่ลูก รวมถึงการรับมือกับโรคโควิด-19 ส่งผลให้ไทยเป็นหนึ่งในประเทศต้นแบบในการรับมือกับสถานการณ์โรคติดต่อและโรคอุบัติใหม่
ปัจจุบันความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับองค์การอนามัยโลก ดำเนินมาถึงแผนยุทธศาสตร์ฉบับที่ 6 (พ.ศ. 2565 – 2569) ภายในระยะเวลา 5 ปี เน้นงานด้านโรคไม่ติดต่อ การดูสุขภาพแรงงานต่างด้าว ความปลอดภัยทางถนน การรับมือภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข รวมถึงการผสานแพลตฟอร์มสุขภาพดิจิทัลกับระบบข้อมูลสุขภาพ และการยกระดับความเป็นผู้นำในด้านสุขภาพโลกของประเทศไทย เพื่อยกระดับการสาธารณสุขไทยให้สามารถรับมือปัจจัยสุขภาพที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งไทยพร้อมร่วมกับองค์การอนามัยโลกเดินหน้าสู่การมีสุขภาพดีถ้วนหน้า
ด้าน ดร. จอส ฟอนเดลาร์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย กล่าวว่า 75 ปีที่ผ่านมา อนามัยโลก ได้ให้แนวทางและประสานการดำเนินงานด้านสุขภาพระหว่างประเทศ เพื่อให้ความช่วยเหลือทางวิชาการแก่ประเทศต่างๆ ประสานงานกับรัฐบาลเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านบริการสุขภาพแห่งชาติ ส่งเสริมมาตรการที่จะนำไปสู่ชีวิตที่มีสุขภาพดียิ่งขึ้น ซึ่งในช่วงอายุขัยเฉลี่ยของประชากรทั่วโลกเพิ่มขึ้นจาก 46 ปี เป็น 71 ปีในปัจจุบัน และมีความท้าทายใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีกมาก เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การขาดแคลนน้ำ ประชากรย้ายถิ่นฐาน หรือปัญหามลพิษ ทำให้อัตราของโรคทางเดินหายใจ โรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มมากขึ้น ปัญหาการใช้ยาปฏิชีวนะมากเกินไปทำให้เชื้อดื้อยามากขึ้น อัตราการเกิดโรคมะเร็ง เบาหวาน และความดันโลหิตสูงเพิ่มขึ้น ความเครียด ภาวะซึมเศร้าและการเจ็บป่วยทางจิต ประเทศไทยถือเป็นตัวอย่างที่ดี ที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบดูแลสุขภาพ ประเทศไทยจึงสามารถภาคภูมิใจได้อย่างเต็มที่กับการดำเนินงานด้านสุขภาพและสาธารณสุขที่ประสบความสำเร็จนี้
วธ. จัดงานรดน้ำขอพรศิลปินแห่งชาติ เนื่องในประเพณีสงกรานต์ 2566 เชิญชวนประชาชนร่วม “สืบสานสงกรานต์วิถีไทย ร่วมสานใจสู่สากล”
นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นำคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ รวมถึงทายาทศิลปินแห่งชาติ ร่วมแสดงมุทิตาจิตในกิจกรรม “รดน้ำขอพรศิลปินแห่งชาติ ผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรม ผู้บริหารงานวัฒนธรรม เนื่องในประเพณีสงกรานต์ พุทธศักราช 2566 เพื่อสืบสานอัตลักษณ์ความงดงามของประเพณีวัฒนธรรมไทย โดยเฉพาะการรดน้ำขอพรผู้ใหญ่ เพื่อแสดงออกถึงความรัก ความผูกพัน ความกตัญญูกตเวทิตาต่อผู้ใหญ่ และบุคคลที่เคารพรัก ถือเป็นการสร้างขวัญกำลังใจแด่ศิลปินแห่งชาติ รวมถึงเป็นแบบอย่างของการจัดกิจกรรมรดน้ำขอพรผู้ใหญ่ให้แก่องค์กรและประชาชนทั่วไป
สำหรับการจัดกิจกรรมดังกล่าว กรมส่งเสริมวัฒนธรรม จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยในปีนี้มีศิลปินแห่งชาติและผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรมเข้าร่วมงานประมาณ 30 คน อาทิ นางรัตติยะ วิกสิตพงศ์ นายสมศักดิ์ เชาวน์ธาดาพงศ์ นายสมเศียร พานทอง นายบุญเลิศ นาจพินิจ นายชัยชนะ บุญนะโชติ นางสาววนิดา พึ่งสุนทร นายสุประวัติ ปัทมสูต นางพิสมัย วิไลศักดิ์ นางรัจนา พวงประยงค์ และนายนคร ถนอมทรัพย์ โดยมีกิจกรรมสรงน้ำพระ การรดน้ำขอพรและการแสดงทางวัฒนธรรมและดนตรีไทย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ในปีนี้ประเทศไทย โดยกระทรวงวัฒนธรรม จะยื่นรายการประเพณีสงกรานต์เป็นประเพณีมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้แห่งมวลมนุษยชาติ แก่องค์การยูเนสโกในเดือนธันวาคม 2566 นี้ ถือเป็นมรดกวัฒนธรรมฯ รายการที่ 4 ของประเทศ ต่อจากโขน นวดไทยและโนรา ซึ่งประเพณีสงกรานต์จะเป็นอีกหนึ่งรายการที่ยกระดับเป็นเทศกาลของโลก เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเชิงวัฒนธรรมให้แก่ประเทศไทย ส่วนรายการถัดไปจะเป็นการยื่นรายการอาหารยอดนิยมคือ ต้มยำกุ้ง และผ้าขาวม้า ซึ่งเป็นรายการที่ขึ้นทะเบียนแล้ว จะเกิดผลเชิงบวกในเรื่องของรายได้และการท่องเที่ยวให้กับประเทศไทย
ส่วนสงกรานต์ปีนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ออกแนวปฏิบัติประเพณีสงกรานต์ที่เปิดกว้างให้ดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวประเพณีวัฒนธรรมได้อย่างเต็มที่ แต่ต้องไม่ลืมรูปแบบสงกรานต์แบบไทย โดยเฉพาะการรดน้ำขอพรพระพุทธรูป การรดน้ำขอพรผู้สูงอายุ บุพการี ผู้ที่มีพระคุณและเดินทางท่องเที่ยวในทางวัฒนธรรมที่ดี
ด้านนายคเณศ เค้ามูลคดี ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ภาพยนตร์และละครโทรทัศน์) พุทธศักราช 2560 กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่คนรุ่นหลังให้ความสำคัญและระลึกถึงผู้อาวุโส โดยการจัดกิจกรรมรดน้ำขอพรศิลปินแห่งชาติ เป็นการแสดงออกถึงความรัก ความกตัญญูกตเวทีที่มีต่อผู้ใหญ่และครูอาจารย์ ทำให้เกิดความรู้สึกปลาบปลื้มและมีความสุขเป็นอย่างมาก พร้อมอยากให้ประชาชน คนรุ่นใหม่ เห็นความสำคัญของเทศกาลที่ดีงาม ไม่ควรเล่นสาดน้ำรุนแรง สนุกสนานจนเกินขอบเขต เพียงแค่ใช้ขันน้ำปะพรมกันสร้างรอยยิ้ม เพื่อสืบสานประเพณีดีงาม อีกทั้งยังเห็นด้วยที่เสนอประเพณีสงกรานต์เป็นมรดกโลก เพื่อให้อนุชนคนรุ่นหลังจดจำและนำไปปฏิบัติตามต่อไป
6 เมษายน 2566
ประชาชนจำนวนมาก เข้าสักการะพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช ณ ปราสาทพระเทพบิดร เนื่องในวันจักรี
ประชาชนทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศจำนวนมาก เดินทางเข้าเยี่ยมชมวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว โดยบางส่วนเข้าสักการะพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช ณ ปราสาทพระเทพบิดร ที่สำนักพระราชวังได้เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าเยี่ยมชมเนื่องในโอกาสวันจักรี ตั้งแต่เวลา 08.00 น.– 13.00 น. โดยหนึ่งในผู้ที่ได้มีโอกาสเข้าถวายสักการะพระบรมรูปฯกล่าวว่า แม้วันนี้จะมีเวลาเที่ยวชมไม่มาก แต่ก็ตั้งใจมาสักการะพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชด้วยความจงรักภักดีต่อสถาบัน เนื่องจากจะมีโอกาสได้เพียงปีละไม่กี่ครั้งเท่านั้น
เช่นเดียวกับประชาชนอีกท่านหนึ่งที่กล่าวว่า ตั้งใจมาสักการะพระบรมรูปเพราะมีความศรัทธา เพราะไม่เคยมีโอกาสได้เข้าสักการะมาก่อน วันนี้จึงตั้งใจมาด้วยความศรัทธาแม้จะอายุมากถึง 73 ปีแล้ว และต้องเดินทางคนเดียวก็ตาม รู้สึกภูมิใจอย่างยิ่งในฐานะคนไทยที่ได้มีโอกาสเช่นนี้
กระทรวงแรงงาน โชว์ผลงาน 3 ปี พัฒนาทักษะแรงงานกว่า 5.2 ล้านคน แรงงานมีผลิตภาพสูงขึ้น
นางสาวบุปผา เรืองสุด อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงานให้ความสำคัญในการพัฒนากำลังแรงงานของประเทศ โดยระหว่างปี 2564–2566 ได้เร่งพัฒนาทักษะกำลังแรงงานทั้งแรงงานใหม่ แรงงานในสถานประกอบกิจการ แรงงานนอกระบบและแรงงานที่เป็นกลุ่มเปราะบาง เพื่อให้มีทักษะ สามารถประกอบอาชีพสร้างรายได้ต่อตนเอง และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศได้
โดยในระยะ 3 ปีที่ผ่านมา สามารถพัฒนากำลังแรงงานได้จำนวน 5,255,833 คน ช่วยให้แรงงานมีงานทำและมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 13,775 บาทต่อคน แรงงานที่ผ่านการพัฒนาทักษะแล้วมีผลิตภาพเพิ่มขึ้นคิดเป็นมูลค่าเฉลี่ย 157,890 บาทต่อคนต่อปี ขณะที่ สถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ศึกษาและวิเคราะห์ผลการดำเนินโครงการตามแผนพัฒนาฝีมือแรงงาน ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน พบว่าแรงงานที่ผ่านการพัฒนาทักษะฝีมือกับกรม มีรายได้เพิ่มขึ้น ได้แก่ แรงงานใหม่ร้อยละ 25 มีรายได้จากการทำงานเพิ่มขึ้น แรงงานในสถานประกอบกิจการร้อยละ 19 มีรายได้เพิ่มขึ้น ส่วนแรงงานนอกระบบร้อยละ 9 มีรายได้เพิ่มขึ้นหลังจากที่ผ่านการฝึกอบรม
กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน มีแนวทางในการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน ประกอบด้วยกระบวนการฝึกอบรม การทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน การส่งเสริมให้สถานประกอบกิจการมีการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานให้แก่พนักงานของตนเองภายใต้พระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 การรับรองความรู้ความสามารถ และการสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการพัฒนาแรงงาน เป็นต้น
7 เมษายน 2566
คุมเข้มสงกรานต์ปลอดเหล้าปลอดภัย ยับยั้งปัญหาเมาแล้วขับ การคุกคามทางเพศ
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รับมอบสื่อจากนางสาวรุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สำนักงานกองทุน สนับสนุนการเสริมสร้างสุขภาพ (สสส.) ซึ่งได้ยื่นหนังสือสนับสนุนมาตรการคุมเข้มช่วงสงกรานต์ ของกรุงเทพมหานคร ให้ปลอดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปลอดอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับและการคุกคามทางเพศ พร้อมเสนอให้จัดหน่วยรับแจ้งเหตุ ไม่พึงประสงค์ในพื้นที่เล่นน้ำ สร้างความปลอดภัย ให้กับคนทุกช่วงวัย ตลอดจนนักท่องเที่ยว โดยมีเครือข่ายเยาวชนร่วมแสดงพลังรณรงค์ในครั้งนี้ด้วย
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ดีที่เยาวชนตระหนักและให้ความสำคัญกับปัญหาเหล่านี้ กรุงเทพมหานคร มีหน้าที่ทำให้สงกรานต์ ปี 2566 เป็นสงกรานต์ที่มีความสุขและปลอดภัยกับประชาชนทุกคน โดยต้องร่วมมือกันทุกภาคส่วน รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายและการจัดเตรียมสถานที่ ซึ่งหากมีปัญหาร้องเรียน ทางกรุงเทพมหานครพร้อมรับเรื่อง เพื่อไปดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป
ประกันสังคม พร้อมดูแลช่วงเทศกาลสงกรานต์ หากผู้ประกันตนเจ็บป่วยฉุกเฉินรักษาฟรีทุกโรงพยาบาล
นางสาวปาริฉัตร จันทร์อำไพ รองโฆษกสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์วันหยุดยาวปีนี้ ผู้ประกันตนเดินทางท่องเที่ยว หรือเดินทางกลับภูมิลำเนา หากเกิดเจ็บป่วยฉุกเฉินนอกสถานที่ที่โรงพยาบาลกำหนดสิทธิ์ สามารถเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุดได้ทันที โดยหากเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลของรัฐ ก็จะไม่มีค่าใช้จ่ายส่วนเกินและไม่ต้องสำรองจ่ายก่อน โดยสามารถเข้ารับการรักษาได้ใน 72 ชั่วโมง อาทิ ปวดท้อง เป็นไข้ กรณีเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งจะแบ่งเป็นกรณีสีแดง สีเหลือง และสีเขียว ซึ่งกรณีฉุกเฉินที่เป็นอันตรายต่อชีวิต สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชน ตามกรณี UCEP โดย 72 ชั่วโมงแรกไม่มีค่าใช้จ่ายส่วนเกิน
นอกจากนี้ สำนักประกันสังคมยังดูแลครอบคลุมกรณีฉุกเฉินสีเหลืองคือ กรณีไม่ถึงแก่ชีวิตแต่จำเป็นต้องได้รับการรักษา ก็สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนได้ เพื่อไม่ให้เสียค่าใช้จ่ายให้ญาติรีบแจ้งโรงพยาบาลตามสิทธิ์ของผู้ประกันตนทันที เพื่อไม่ให้มีค่าใช้จ่ายส่วนเกิน โดยโรงพยาบาลตามสิทธิ์จะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล ทั้งนี้ 72 ชั่วโมงแรกสามารถเบิกกับสำนักงานประกันสังคมตามหลักเกณฑ์และอัตราที่กำหนด ส่วนกรณีที่จำเป็นจะต้องส่งตัวไปรักษาต่อ ไม่ว่าจะเป็นค่ารถ ค่าเดินทาง โรงพยาบาลตามสิทธิ์ของผู้ประกันตนจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด อย่างไรก็ตาม กรณีเข้าไปรักษาในโรงพยาบาลเอกชนและไม่ได้มีการแจ้งโรงพยาบาลตามสิทธิ์ โดยมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น ผู้ประกันตนสามารถนำใบเสร็จมาเบิกเงินคืนกับสำนักงานประกันสังคมได้ตามหลักเกณฑ์และอัตราที่กำหนด
รองโฆษกสำนักงานประกันสังคม กล่าวย้ำว่า สิทธิประโยชน์นี้สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 ที่ส่งเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนเดือนที่ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทั้งนี้ ผู้ประกันตนสามารถใช้บัตรประชาชนเพียงเดียวในการเข้ารับบริการในโรงพยาบาล หากมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ สายด่วน 1506 กด 1 ให้บริการ 24 ชั่วโมง
ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : ธนพิชฌน์ แก้วกา
ผู้เรียบเรียง : ธนพิชฌน์ แก้วกา
แหล่งที่มา : หน่วยงานสำนักข่าว