นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากข้อมูลรายงานสถานการณ์โรคโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุข ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2566 ระหว่างวันที่ 7 -13 พฤษภาคม 2566 พบไทยมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 2,352 คน และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในวันที่ 14-20 พฤษภาคม 2566 จำนวน 2,632 คน และวันที่ 21-27 พฤษภาคม 2566มี 2,970 คน ส่งผลให้ขณะนี้ ผู้ป่วยสะสม 18,039 ราย และผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง ปอดอักเสบ 425 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 253 ราย ผู้ป่วยเสียชีวิต ตั้งแต่วันที่ 7-27 พฤษภาคม 2566 จำนวน128 ราย กระจายในไปหลายจังหวัดโดยการติดเชื้อส่วนมากพบในพื้นที่เรือนจำ โรงเรียน ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ สถานที่ทำงานและชุมชน กรมอนามัย ขอเน้นย้ำให้สถานประกอบการและประชาชนยังคงเฝ้าระวัง และป้องกันการติดเชื้อโรคโควิด-19 โดยปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะสถานประกอบการ หรือสถานที่ที่มีประชาชนเข้าไปใช้บริการจำนวนมาก ทั้งนี้ กรมอนามัยได้มอบหมายให้ทีมปฏิบัติการด้านส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมของศูนย์อนามัยทุกแห่งประสานการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานภาคการสาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อสื่อสาร สร้างการรับรู้ แลประชาสัมพันธ์มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สำหรับสถานประกอบการ สถานบริการและประชาชน โดยสถานประกอบการ ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ยึดหลักจัดการด้านสุขอนามัย สุขาภิบาลและอนามัยสิ่งแวดล้อมที่ดีคือ ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม หมั่นทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วม รวมทั้งห้องน้ำห้องส้วมที่เปิดให้บริการแก่ประชาชนผู้รับบริการอย่างสม่ำเสมอ กรณีสถานประกอบการเป็นระบบปรับอากาศต้องจัดระบบระบายอากาศภายในที่ดี จัดให้มีจุดล้างมือพร้อมมีอุปกรณ์ล้างอย่างเพียงพอ ด้านพนักงานและผู้ปฏิบัติงาน มีสุขอนามัยส่วนบุคคลที่ดี เข้ารับการฉีดวัคซีนให้ครบตามเกณฑ์ ป่วยควรหยุดปฏิบัติงาน พนักงานที่สัมผัสอาหารให้สวมหน้ากากขณะให้บริการ สำหรับประชาชน แนะนำสวมหน้ากากทุกครั้งเมื่ออยู่ในพื้นที่คนหนาแน่น หรือพื้นที่ปิดที่อากาศไม่ถ่ายเท หากมีอาการไม่สบายหรือเป็นไข้ควรสวมหน้ากากเมื่อออกไปนอกบ้าน หมั่นล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ เมื่อสัมผัสจุดสัมผัสร่วมและควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบตามเกณฑ์และรับเข็มกระตุ้นโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 608 และผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ